ตอนที่ 13
บรรยากาศหน้าห้องฉุกเฉินวุ่นวายพอสมควร ป้องกุลวิ่งมาถึงหน้าห้องอย่างร้อนใจ รีบไปสอบถามพยาบาลคนหนึ่ง
“ขอโทษครับ”
“มีอะไรคะ”
“ผมมาหาคนไข้ที่ชื่อเกศ ไม่ทราบว่ายังอยู่ในห้องฉุกเฉินรึเปล่าครับ”
เวลานั้นเกศิรินถูกย้ายมาที่ห้องพักฟื้นแล้ว เธอนอนหลับให้น้ำเกลือ มีแผลฟกช้ำและหัวแตก เมื่อรู้สึกตัวลืมตาไม่เห็นใครในห้องก็จับท้องตัวเองแล้วร้องไห้เสียใจ เพราะเชื่อว่าหมอเอกต้องรู้แล้วว่าตนแท้ง
สักครู่ หมอเอกเปิดประตูเข้าห้องมาด้วยท่าทางนิ่งขรึม เกศิรินยิ้มออกด้วยความดีใจ
“หมอ...เกศคิดว่าหมอจะไม่มาหาเกศแล้ว”
หมอเอกเดินมายืนข้างเตียงด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเก็บความรู้สึกเจ็บที่เสียลูก
“ผมไปเยี่ยมคุณแม่มา คุณแม่พักอีกห้องนึง”
“คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ”
“คุณแม่เจ็บช่วงสะโพก เดี๋ยวจะเอกซเรย์ตรวจกระดูกอีกที”
เกศิรินจับมือหมอเอกแต่เขาขยับตัวออกห่างเพราะยังทำใจเรื่องเธอแท้งแต่ไม่บอกตนเองไม่ได้ เกศิรินใจหาย เสียใจ รู้สึกผิด และรู้ตัวว่าผิดเต็มๆ
“หมอ...เกศขอโทษ”
หมอเอกมองเกศิรินอย่างเจ็บปวด พูดนิ่งๆเก็บอารมณ์ “คุณโกหกผมมานานเท่าไรแล้ว”
“เกศโกหกเพราะกลัวเสียหมอไป หมอกำลังจะกลับมาหาเกศเพราะลูก ถ้าไม่มีลูก...”
“แต่คุณจะโกหกผมไปได้นานแค่ไหน ยังไงผมก็ต้องรู้อยู่ดี หรือคุณคิดวิธีที่ทำให้ผมไม่รู้ว่าคุณเคยเสียลูกของผม”
“หมอฟังเกศก่อนนะคะ”
“คุณคงไม่คิดจะนอนกับคนอื่นเพื่อท้อง แล้วหลอกว่าเป็นลูกของผมใช่มั้ย”
เกศิรินสะอึกอึ้ง คำพูดของเขาแทงใจเธออย่างแรง แต่ยังพยายามอ้อนวอนต่อไป
“หมอฟังเกศหน่อยนะ”
“ถ้าคุณทำอย่างนั้น ผมอยากจะบอกว่าคุณดูถูกผมมากเลยนะเกศ ผมเป็นหมอ คุณคิดว่าผมไม่รู้จำนวนเดือนที่ลูกผมควรจะคลอดเลยเหรอ”
“เกศแค่ไม่อยากเสียหมอ”
“ก็เลยนอนกับผู้ชายคนนี้เพื่อให้ท้องใช่มั้ย” หมอเอกหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดรูปถ่ายป้องกุลกอดเกศิรินยื่นให้ดู
เกศิรินคาดไม่ถึงว่าจะมีใครได้รูปถ่ายนี้ไป ละล่ำละลักปฏิเสธ “ไม่ใช่นะหมอ นี่มัน...” แต่หมอเอกไม่ฟังจนจบ แทรกขึ้นอย่างเหลืออด
“จะโกหกผมไปถึงไหน คุณกอดกับผู้ชายคนนี้แล้วพากันขึ้นคอนโด จะให้ผมคิดอะไรได้อีกนอกจาก...”
“เขาเป็นลูกชายเกศ!!!”
“ลูกชาย?!!” หมอเอกทวนคำแล้วยืนตะลึงไปหลายอึดใจ
ooooooo
คำตอบของเกศิรินทำให้หมอเอกตะลึงลาน... ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในหัวพร้อมกับชี้ที่รูปป้องกุลบนหน้าจอโทรศัพท์
“ผู้ชายคนนี้เป็นลูกคุณเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“คุณจะมีลูกโตขนาดนี้ได้ยังไง”
“เกศท้องตอนอายุ 19 นี่แหละค่ะป้องกุลลูกชายของเกศ”
หมอเอกคิดถึงเรื่องระหว่างอาริสากับป้องกุลทันที ถามว่า “ริสาเคยเจอลูกชายคุณรึเปล่า”
เกศิรินยังไม่ทันเอะใจ ตอบไปตามความคิดของตัวเอง “ริสาไม่เคยเจอลูกของเกศค่ะ”
“แล้วลูกชายคุณเคยรู้ไหมว่าคุณกับริสาเป็นเพื่อนกัน”
“รู้ค่ะ ป้องรู้เรื่องเกศทุกอย่าง เขารู้ว่ามีแม่ชั่วแย่งสามีเพื่อน”
“ลูกคุณรู้เรื่องผม แล้วลูกคุณเขาว่ายังไง เขาห้ามคุณมั้ย”
“ไม่มีลูกคนไหนอยากให้แม่ตัวเองเป็นเมียน้อยหรอกค่ะหมอ ป้องห้ามเกศ แต่เกศก็ยังเลือกหมอ เกศยอมให้ลูกเกลียดเพราะรักหมอ ป้องคงสมเพช...ถึงยอมเข้าใจเกศ”
หมอเอกหน้าเคร่ง ประมวลผลว่าป้องกุลรู้ว่าอาริสาเป็นเพื่อนเกศิรินแต่ยังยุ่งเกี่ยวกับอาริสาทำไม?
“แปลว่าลูกคุณไม่ห้ามเรื่องผมกับคุณแล้ว”
“ป้องยอมรับเรื่องของเราแล้วค่ะหมอ อย่างรูปนั้น...เป็นวันที่เกศสับสน เกศไม่เหลือใครแล้ว แต่ลูกก็ยังอยู่ให้กำลังใจเกศ”
สีหน้าเครียดเคร่งนั้นเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งขึ้นทันที หมอเอกเริ่มเดาได้ว่าป้องกุลยุ่งกับอาริสาทำไม
“ผมเข้าใจความคิดของลูกคุณแล้ว”
เกศิรินชะงัก รู้สึกคำพูดของหมอฟังแปลกๆ “หมอหมายความว่ายังไงคะ”
หมอเอกมองเกศิรินด้วยสีหน้านิ่ง ในใจโกรธแค้นป้องกุลมาก
“พักผ่อนนะ...ผมไปดูคุณแม่ก่อน” หมอเอกเอาแม่มาอ้างแล้วจะเดินไป แต่เกศิรินรีบคว้ามือเขาไว้
“เดี๋ยวค่ะหมอ หมอจะไม่ทิ้งเกศใช่ไหม หมอเข้าใจเกศใช่ไหมว่าเรื่องแท้งลูกมันเป็นอุบัติเหตุ มันไม่ใช่ความผิดของเกศ ที่เกศโกหกหมอเพราะเกศรักหมอ ทุกอย่างที่เกศทำเพราะรักทั้งนั้น หมอต้องไม่ทิ้งเกศนะ”
หมอเอกทั้งเจ็บเรื่องเสียลูกและยังเรื่องป้องกุลที่คิดว่าตั้งใจหลอกอาริสา ทำให้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะคิดอะไรเรื่องเกศิรินต่อ ค่อยๆดึงมือตัวเองออกจากมือเธอ
“ผมตอบอะไรคุณตอนนี้ไม่ได้ ผมไม่รู้จริงๆ” พูดจบเขาเดินออกจากห้องโดยไม่สนใจฟังเสียงเกศิรินที่ร้องเรียกอย่างอ้อนวอน
“หมอ! เกศขอโทษ เกศขอร้อง...อย่าทิ้งเกศไป”
หมอเอกไม่เหลียวหลัง ปิดประตูห้องค่อนข้างดังจนเกศิรินแทบสะดุ้ง...ร้องไห้แทบขาดใจรับรู้ว่าโดนหมอเอกตัดขาดอย่างไม่มีเยื่อใยแล้ว!
ooooooo
ป้องกุลเดินไปถึงหน้าห้องพักฟื้นเป็นจังหวะที่หมอเอกโผล่ออกมาพอดี ป้องกุลชะงักรีบคิดหาวิธีเฉไฉไม่ให้หมอเอกรู้ว่าตัวเองมาหาเกศิริน
ขณะเดียวกันหมอเอกก็มองป้องกุลนิ่ง พยายามข่มอารมณ์โกรธแค้นเขาไว้เพื่อรอดูว่าเขาจะตอบคำถามยังไง
“มาเยี่ยมใครเหรอ”










