เกมรักเอาคืน
เกศิรินเดินเข้าไปหาป้องกุลในบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่อาริสาออกจากห้องนอนชั้นบนเพื่อจะไปหาป้องกุลเช่นกัน อาริสาสูดลมหายใจลึกรวบรวมความกล้าก่อนเดินลงบันไดมาที่ห้องโถงคลาดกับเกศิรินที่เพิ่งคล้อยหลังไปแค่ครู่เดียว
เวลานั้นป้องกุลกำลังจัดโต๊ะอาหารเพื่อกินมื้อเย็นที่สวนหลังบ้านอย่างอารมณ์ดี พอเขาเงยหน้าก็เจอเกศิรินยืนจังก้า
“แม่!!” ป้องกุลอุทานหน้าตาตื่น
เกศิรินมองลูกชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เอ่ยทักค่อนข้างดังจนอาริสาที่กำลังก้าวเดินมาหยุดกึกอยู่กับที่
“แม่กดกริ่งหน้าบ้านแล้วนะ แต่ไม่มีคนไปเปิด แม่เห็นมอเตอร์ไซค์ป้องจอดอยู่ คิดว่าป้องน่าจะอยู่บ้านเลยเปิดประตูเข้ามา”
“กริ่งหน้าบ้านมันเสียครับแม่”
อาริสาหน้าเครียดจัดหาทางเลี่ยงด้วยการเดินกลับไปทางเดิมแล้ววิ่งขึ้นห้องนอนเพื่อซ่อนตัว ขณะเดียวกันป้องกุลก็กังวลมากกลัวอาริสาจะลงจากห้องนอนมาเจอเกศิริน แต่ยังพยายามทำตัวปกติไม่ให้มีพิรุธจนแม่สงสัย
“แล้วทำไมอยู่ๆแม่ถึงมาที่นี่ล่ะครับ”
เกศิรินหน้าเศร้าลงทันใด ตอบลูกว่าแม่เหงา... ทั้งคำตอบและสีหน้าของแม่ทำให้ลูกชายชะงักด้วยความเป็นห่วง ขยับเดินไปใกล้พร้อมถามเสียงอ่อน
“แล้วเขาล่ะครับ”
เกศิรินพยายามเข้มแข็งทั้งที่จิตใจย่ำแย่ แต่ไม่อยากให้ลูกห่วงจึงเปลี่ยนเรื่องพูด
“แม่ขอค้างกับป้องได้ไหม”
ป้องกุลอึกอักหาเหตุผลปฏิเสธ ทำให้เกศิรินเดาได้ว่าลูกคงไม่อยากให้อยู่
“ป้องคงไม่อยากให้แม่อยู่ด้วยใช่ไหม... ไม่เป็นไรลูก แม่เข้าใจ แม่กับป้องไม่ได้อยู่ด้วยกันมานาน อยู่ๆแม่มาขอค้างบ้านป้อง ป้องคงอึดอัด งั้นแม่กลับก็ได้ลูก...แม่ไปนะ”
เกศิรินหมุนตัวจะผละไป แต่เพราะเพิ่งผ่านการเสียเลือดและไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ทำให้เธอเวียนหัวเซเกือบล้มถ้าป้องกุลไม่รีบเข้ามาประคอง
“แม่เป็นอะไร ทำไมแม่ดูหน้าซีดจัง”
“แม่แค่ไม่สบาย...เดี๋ยวกลับไปกินยาที่คอนโดก็หาย แม่ไปนะ”
ป้องกุลยังจับแขนเกศิรินไว้ด้วยความเป็นห่วงและสงสัย “ทำไมแม่ต้องไปนอนคอนโด ก็แม่ไปอยู่บ้านหมอแล้วนี่ครับ ทะเลาะกันเหรอครับ”
เกศิรินไม่บอกเรื่องตัวเองให้ลูกห่วง ตอบเลี่ยงว่า “ผัวเมียก็อย่างนี้แหละลูก อยู่ด้วยกันก็ต้องทะเลาะกันเป็นธรรมดา แม่เลยอยากอยู่คอนโดสัก 2-3 วัน”
“แต่แม่ท้อง แล้วเขาก็เป็นหมอ เขาน่าจะรู้ว่าไม่ควรปล่อยคนท้องให้อยู่คนเดียวอย่างนี้”
“เอาน่า คนท้องไม่ใช่คนป่วย แม่อยู่ได้ แม่ไปนะ”
เกศิรินขยับเดินแต่ยังวิงเวียนจึงเดินเซอีก ป้องกุลห่วงมากตัดสินใจไม่ปล่อยแม่ไปคนเดียวแน่
“แม่ครับ เดี๋ยวผมไปค้างกับแม่ที่คอนโดเอง”
เกศิรินคาดไม่ถึง...ยิ้มได้อีกครั้งด้วยความดีใจ
ooooooo
อาริสากลับเข้ามายืนพิงประตูห้องนอนครุ่นคิดเคร่งเครียด แต่สมองมึนตึ้บไม่รู้จะทำอย่างไรจนต้องไปหยิบมือถือโทร.ปรึกษาเพื่อนสนิท บอกให้รู้ว่าเวลานี้เกศิรินมาบ้านป้องกุลและตนควรทำยังไงดี เขมฟังแล้วเป็นห่วงเพื่อนมากมีอาการร้อนรนไม่แพ้กัน ถามระรัว
“แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน เกศเห็นเธอรึเปล่า...”
อาริสาหันซ้ายขวาลุกลี้ลุกลนกลัวเกศิรินขึ้นมาเจอ ตอบกลับเขมไปว่า “ยังไม่เห็น”
พริบตานั้นเอง! อาริสาเดินชนโต๊ะจนของที่วางอยู่หล่นลงพื้น ป้องกุลกำลังประคองเกศิรินจากหลังบ้านกลับเข้ามานั่งที่โซฟาเพื่อรอตนขึ้นไปเอาของบนห้องก่อน
เสียงของบางอย่างตกพื้นดังจากบนห้องนอนทำให้สองแม่ลูกชะงักไปด้วยกัน
“เสียงอะไรน่ะลูก”
อาริสามองของที่ตกพื้นตาพองโตอย่างตกใจสลับกับมองไปทางประตูห้องว่าเกศิรินจะขึ้นมาดูหรือไม่ คุยโทรศัพท์กับเขมด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“เขม...ฉันทำของตก เกศต้องได้ยินแน่ ถ้าเกศขึ้นมาดูแล้วเจอฉัน ทีนี้ป้องรู้แน่ว่าฉันรู้จักเกศ ฉันจะทำยังไงดีเขม”
ขณะนั้นป้องกุลเองก็หวั่นใจว่าแม่ต้องสงสัย เขามองหน้าแม่พลางคิดหาเหตุผลกลบเกลื่อนความสงสัยนั้นให้เนียนที่สุด
“มีคนอยู่ข้างบนเหรอป้อง”
“ใช่ครับ...เพื่อนผมมาค้างด้วยครับ”
“อ๋อ เพราะอย่างนี้ใช่ไหม ป้องถึงไม่ให้แม่ค้างที่นี่”
“ใช่ครับ”
“แล้วเพื่อนของป้องเนี่ยเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงล่ะลูก”
“ผู้ชายครับ”
“จริงเหรอ งั้นแม่ขึ้นไปเจอหน่อยนะ เพราะแม่ยังไม่เคยเจอเพื่อนของป้องเลยสักคน”
เกศิรินแกล้งทำท่าจะเดินขึ้นบันได แต่ป้องกุลรีบดักหน้าไว้
“อย่าเลยครับแม่”
เกศิรินมองอาการของลูกอย่างรู้ทันแล้วถามยิ้มๆ “รีบห้ามแม่แบบนี้ เป็นผู้หญิงใช่มั้ย”
“คือ...ผมขอเป็นเรื่องส่วนตัวของผมได้ไหมครับ”
เกศิรินชะงัก...แล้วพูดอย่างเข้าใจลูก “แม่รู้ว่าแม่ไม่ได้เลี้ยงป้อง แม่ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของป้อง แต่แม่ถามเพราะอยากรู้ชีวิตป้องบ้างก็เท่านั้น แต่เอาเถอะ ป้องโตแล้ว แม่เข้าใจ ป้องไม่ต้องไปค้างกับแม่ก็ได้นะลูก”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปได้ ขอผมขึ้นไปเอาของแป๊บนึงเท่านั้น”
ป้องกุลพูดจบก็รีบวิ่งขึ้นบันไดทันทีเพราะห่วงอาริสาด้วย เกศิรินมองตาม...ยังติดใจเรื่องผู้หญิงที่ลูกคบอยู่ อยากรู้แต่ไม่กล้าถาม
ooooooo
ป้องกุลเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นอาริสากำลังเก็บของที่พื้น เธอสะดุ้งโหยงและมองป้องกุลอย่างตกใจเพราะนึกว่าเป็นเกศิริน หลุดปากถามออกไปอย่างกังวล
“ป้อง...แม่เธอตามมาด้วยรึเปล่า”