ตอนที่ 13
“คราวนี้คุณแม่พูดว่าลูกของผมแท้งเลยเหรอครับ”
“นี่แกไม่เชื่อฉันใช่มั้ย”
เกศิรินรีบตอบโต้ลัดดาทันที “ก็มันไม่ใช่เรื่องจริง คุณแม่จะให้คุณหมอเชื่อได้ยังไงคะ”
“แกไม่ต้องมาพูดดี แกยอมรับมาดีกว่าว่าแกแท้งลูกแล้ว อย่าให้ฉันต้องจับแกแก้ผ้าเพื่อให้เห็นว่าตอนนี้แกมีประจำเดือน”
“ก็เอาสิคะ ถ้ากล้าก็จับเกศแก้ผ้าเลย จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่โกหก”
“นังยิ้ม! จับมันแก้ผ้าเลย” ลัดดาสั่งเฉียบ แต่หมอเอกโกรธจนทนไม่ไหวระเบิดเสียงออกมา
“พอซักที!! ผมเสียริสาไปคนนึงแล้ว คุณแม่ยังจะทำลายให้ผมเสียทั้งเกศกับลูกอีกเหรอครับ”
“แต่ฉันทำเพื่อแกนะ”
“ถ้าคุณแม่ทำเพื่อผม ก็อย่าทำลายครอบครัวผม”
หมอเอกหยิบกระเป๋าที่พื้นแล้วพาเกศิรินเข้าบ้าน ลัดดาไม่ยอมรีบตามไปซัดต่อ โดยที่ยิ้มก้าวตามเกาะติดสถานการณ์อย่างลุ้นระทึก
ลัดดาตามมากระชากเกศิรินพร้อมแผดเสียง “ฉันไม่ให้แกเข้าบ้านฉัน ออกไป!” แต่ก็โดนหมอเอกดึงตัวไว้มือหนึ่ง อีกมือยื่นกระเป๋าเสื้อผ้าให้เกศิริน
“เกศเอากระเป๋าขึ้นห้องไป ผมคุยกับคุณแม่เอง”
“ไม่ค่ะ เกศจะอยู่กับหมอ”
“แกไม่กล้าปล่อยลูกฉันอยู่กับฉัน เพราะกลัวฉันจะบอกว่าฉันเจออะไรในห้องน้ำแก ฉันถึงรู้ว่าแกแท้งใช่มั้ย”
“คุณแม่ครับ...”
“หุบปากแล้วฟังแม่ แกเป็นหมอ แกตอบแม่หน่อยซิ ถ้าเมียแกท้อง นังยิ้มไปเจอห่อผ้าอนามัยในห้องน้ำของมันได้ยังไง”
“ยิ้มเจอจริงๆนะคะคุณเอก”
“คนท้องต้องใช้ผ้าอนามัยทำไม อ้อ! เพราะเด็กหลุด เลือดแกไหล แกเลยต้องใช้ผ้าอนามัยใช่มั้ย”
“ไม่จริง!”
“แล้วเลือดที่เปื้อนข้างโถส้วมห้องนอนที่แกนอนล่ะ มันเลือดอะไร อย่าบอกนะว่าเลือดกำเดา”
“หมอฟังเกศนะคะ” เกศิรินจะอธิบายเอาตัวรอด แต่หมอเอกแทรกขึ้นว่า
“คุณขึ้นห้องไปก่อน ให้ผมคุยกับคุณแม่เอง”
“แต่หมอคะ”
“ผมบอกให้ขึ้นห้องไปไง” หมอเอกขึ้นเสียงจนเกศิรินไม่กล้าดึงดัน จำยอมถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินไปขึ้นบันได แต่สมองยังครุ่นคิดตลอดว่าจะหาทางแก้ตัวยังไงถ้าหมอถามเรื่องแท้งลูก
ทันใดนั้นลัดดาซึ่งไม่ยอมให้เกศิรินอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน วิ่งไปกระชากกระเป๋าในมือเกศิรินที่กำลังก้าวขึ้นบันได
“ฉันไม่ให้แกอยู่บ้านฉัน...ออกไป”
หมอเอกตกใจรีบดึงลัดดาไว้ พร้อมกับแกะมือเธอที่จับกระเป๋าออก
“คุณแม่หยุด! ขึ้นห้องไปเกศ”
เกศิรินทำตามคำสั่งของหมอเอก ขณะที่ลัดดาโมโหจนควันออกหูตวาดลั่นใส่ลูกชาย
“ถ้าไม่ตรวจว่ามันท้องหรือแท้ง งั้นก็ตรวจว่าเด็กในท้องเป็นลูกเอกหรือชู้ของมัน”
เกศิรินหยุดชะงักแล้วหันขวับมาโต้ “ชู้อะไร...เกศไม่เคยมีชู้”
“ผู้ชายที่แกกอดที่คอนโดไง”
“ผู้ชายอะไร”
หมอเอกไม่ต้องการพูดเรื่องป้องกุลตอนนี้เพราะเขาต้องการคุยกับเกศิรินเอง จึงสั่งเธอให้ขึ้นห้องไปและบอกลัดดาว่า
“เรื่องนั้นผมคุยกับเกศเองครับคุณแม่”
เกศิรินมองหมอและยังไม่ยอมกลับห้องเพราะคาใจเรื่องชู้ ขณะที่ลัดดาก็ตั้งใจเล่นงานเกศิรินให้อยู่หมัดจึงสะบัดและผลักหมอเอกจนเขาเซล้มลง จากนั้นลัดดาก็วิ่งขึ้นบันไดตามไปกระชากเกศิรินอย่างแรง
“ออกไปจากบ้านฉัน!!”
เกศิรินเสียหลักตกบันไดมาพร้อมลัดดา หมอเอกจะเข้าไปช่วยทั้งคู่แต่ไม่ทันแล้ว ได้แต่ตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นทั้งคู่สลบแน่นิ่ง
“คุณแม่!!!!! เกศ!!!!!”
ooooooo
ในบ้านเขม...ป้องกุลนั่งคุยกับอาริสาที่โซฟา ส่วนเขมถือแก้วน้ำกับจานขนมมาวางให้แขก
“ก็อย่างที่ฉันบอก...ฉันอยู่บ้านเขมก่อนดีกว่า เดี๋ยวแม่เธอมาอีก ฉันยังไม่พร้อมเจอแม่เธอตอนนี้”
เขมสบตาอาริสาอย่างรู้กันว่าทำไมเธอยังไม่อยากเจอเกศิริน และคิดว่ายามนี้เพื่อนต้องการความเป็นส่วนตัว จึงเดินเลี่ยงเข้าไปในครัว
เมื่อเห็นว่าเขมไปแล้ว ป้องกุลขยับมานั่งใกล้อาริสาพร้อมพูดอ้อนๆ
“แต่ผมบอกแม่แล้วนะว่าถ้าแม่มาต้องโทร.บอกผมก่อน ริสากลับไปอยู่บ้านเราเถอะนะ”
“เชื่อฉันเถอะ”
“ริสาไม่อยากอยู่กับผมเหรอ”
อาริสาซบไหล่ป้องกุลแสดงให้รู้ว่าเธอรักเขามาก “ฉันทำแบบนี้เพราะอยากอยู่กับเธอนานๆ”
ป้องกุลไม่เข้าใจทำท่าจะถามแต่มือถือดังขัดจังหวะ เขารับสายทั้งที่อีกมือยังจับมืออาริสาอยู่ แต่พอฟังเสียงปลายสายก็ชะงัก ขยับห่างอาริสาเพราะกลัวเธอได้ยิน
“ใช่ครับ ผมเป็นลูกชาย...โรงพยาบาลไหนครับ”
อาริสามองป้องกุลด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น...เวลาเดียวกันที่โรงพยาบาล หมอเอกกำลังเครียดจัดเพราะรู้ผลชัดเจนแล้วว่าเกศิรินแท้งจริง
“คุณหมอคะ ดิฉันโทร.บอกลูกชายของคุณเกศให้เรียบร้อยแล้วนะคะ”
“แล้วเขาจะมาโรงพยาบาลเลยรึเปล่า”
“ค่ะ เขาบอกเดี๋ยวจะมาเลยค่ะ” พูดจบพยาบาลผละไป...
ด้านป้องกุลหลังฟังข่าวร้ายของเกศิรินก็รีบออกจากบ้านเขมอย่างร้อนใจเป็นห่วงแม่ โดยมีอาริสากับเขมเดินตามมาส่งหน้าบ้าน
“ฉันขอโทษนะที่ไปโรงพยาบาลกับเธอไม่ได้” อาริสาออกตัวเสียงอ่อน
“ไม่เป็นไร ริสารอผมที่นี่แหละ ผมไปดูแลอะไรให้เรียบร้อย แล้วผมจะมาหานะ”
สองคนสวมกอดกัน อาริสากำชับว่า “เธอต้องมาหาฉันนะป้อง” เขมมองอย่างเข้าใจและเห็นใจเพื่อนว่าทั้งรักทั้งทุกข์ระคนกัน
“เดี๋ยวผมกลับมา” ป้องกุลรับปากแล้วผละไป อาริสามองตามเขาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เขมขยับมายืนข้างๆ ถามว่า
“ป้องบอกรึเปล่าว่าเกศเป็นอะไร”
อาริสาส่ายหน้าแทนคำตอบ...
ooooooo










