ตอนที่ 13
“เธอบอกว่าเมื่อวานเธอเกือบโดนป้องจับได้ว่าเธอรู้จักเกศใช่ไหม”
“ใช่...ฉันดันเผลอเรียกเกศว่าแม่เขาก่อนที่เขาจะบอกว่านั่นคือแม่ เขาเลยถามว่าฉันรู้จักเกศมาก่อนเหรอ”
“จริงๆเธอน่าจะยอมรับว่าเธอรู้จักไปเลยนะริสา ไหนๆก็ไหนๆแล้ว บอกความจริงไปเลย”
“ฉันไม่กล้า ตอนที่เขาถามว่าฉันรู้ว่าเขาเป็นลูกของเกศมาก่อนรึเปล่า เขาดูเครียด ฉันไม่เคยเห็นสีหน้าอย่างนี้มาก่อน ฉันกลัวว่าถ้าบอก...เขาจะโกรธแล้วเกลียดฉัน”
“แต่ความลับไม่มีในโลกนะริสา”
“ขอเวลาให้ฉันมีความสุขกับเขาอีกนิดนึงเถอะนะ” พูดแล้วอาริสากลั้นน้ำตาไม่อยู่เพราะเครียดและสับสน เขมสงสารเพื่อนมากต้องลุกขึ้นมาปลอบประโลม...
ooooooo
ที่บ้านหลังใหญ่ของลัดดาวันนี้มีแขกสองแม่ลูกแหกขี้ตามากันแต่เช้า ลัดดาต้อนรับด้วยความยินดี ต่างจากหมอเอกอย่างสิ้นเชิง
เขาเดินลงบันไดมาพร้อมอาการถอนใจอย่างเอือมระอา
ลัดดานั่งคุยกับศรีรุ้งและการบูรอย่างออกรส หมอเอกเดาได้ว่าต้องมีตนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแน่ จึงยกมือไหว้ศรีรุ้งตามมารยาทแล้วจะผละไปเพราะเบื่อไม่อยากฟังอะไรให้ปวดหัวแต่เช้า
“สวัสดีครับคุณน้า...ผมไปธุระข้างนอกก่อนนะครับ”
ลัดดาลุกพรวดในมือมีโทรศัพท์มือถือของการบูรเดินมาประกบลูกชาย “เอกจะรีบไปไหน ไม่อยู่ทานเช้ากับแม่ก่อนเหรอ”
“คุณแม่มีคุณน้ากับบูรมาทานด้วยแล้วนี่ครับ”
“เอกจะไม่ถามสักคำเหรอว่าทำไมคุณน้ากับน้องมาหาแม่แต่เช้า”
“ไม่ครับ”
“ต่อให้เอกไม่ถาม แม่ก็จะบอก เมื่อคืนบูรไปเจออะไรมาเอกอยากรู้มั้ย”
หมอเอกมองทั้งลัดดา ศรีรุ้ง และการบูรอย่างเหนื่อยหน่ายระอาใจ...ศรีรุ้งรีบออกตัวว่า
“เอกอย่ามองน้าอย่างนั้น น้ากับน้องไม่ได้อยากยุ่งเรื่องเอก แต่บังเอิญน้องเห็นแล้วทนเห็นเอกโดนหลอกซ้ำอีกไม่ได้”
ขณะที่การบูรปั้นหน้าเครียดแสดงอาการห่วงหมอเอกชัดมากพร้อมคำพูดหนักแน่น “ต่อให้พี่เอก โกรธ บูรก็ยอม”
แต่หมอเอกไม่อยากรับรู้อะไร ตัดบททันที “ผมขอตัวนะครับคุณแม่ ผมรีบจริงๆ”
คราวนี้ลัดดาไม่รีรออีกต่อไป ยื่นโทรศัพท์มือถือที่มีรูปเกศิรินกอดกับชายหนุ่มมาตรงหน้าลูกชาย
“ก่อนเอกไป...แม่ฝากเอกไปถามเกศให้หน่อยสิ ที่เกศไม่อยู่บ้านเราแต่ไปกอดกับผู้ชายคนนี้ มันหมายความว่ายังไง”
หมอเอกมองหน้าจอโทรศัพท์ของการบูรแล้วอึ้งงัน เพราะหนุ่มหล่อที่กอดเกศิรินอยู่คือป้องกุลชัดๆ หมอเอกสงสัยว่าสองคนนี้รู้จักกันได้ยังไง แล้วอาริสารู้หรือเปล่าว่าสองคนรู้จักและสนิทกันอย่างนี้
“ถ่ายรูปนี้จากที่ไหน” หมอเอกถามการบูร แต่ลัดดาชิงตอบเองว่า
“เอกจำไม่ได้เหรอว่าเป็นลานจอดรถคอนโดใคร และแม่เชื่อว่าเอกคงจำได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นชู้ของริสา”
หมอเอกสะอึก ย้ำถามการบูรอีกครั้งว่าถ่ายมาเมื่อไหร่?
“เมื่อคืนค่ะ”
หมอเอกคิดเครียดว่าอาริสาอยู่กับเขม...แล้วป้องกุลหาเงินจากเกศิรินเพราะเขาทำอาชีพไซด์ไลน์ ลัดดาเห็นลูกชายนิ่งอึ้งก็ยิ้มพอใจ คิดว่าเขาโกรธที่เกศิรินคบชู้เลยยิ่งพูดขยี้
“แม่เคยบอกว่าเด็กในท้องเกศอาจไม่ใช่ลูกของเอก ผู้หญิงที่นอนกับสามีคนอื่นได้ มันเป็นผู้หญิงแบบไหน นอกเสียจากพวกที่นอนกับใครก็ได้...”
“พอเถอะครับคุณแม่”
“แม่รู้ว่าเอกโกรธ แต่เอกจะมาโกรธแม่ไม่ได้ คนที่เอกควรโกรธคือนังเกศ แล้วแม่ฝากถามมันให้แม่อีกอย่างนะว่า เกศกอดกับชู้ของริสาได้ยังไง หรือเป็นเพื่อนกันเลยรสนิยมเดียวกัน ชอบผู้ชายเหมือนกันตั้งแต่ผัวยันชู้”
หมอเอกไม่พูดอะไรอีก เอาแต่จ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือของการบูรด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเป็นห่วงอาริสา
ooooooo
ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เกศิรินกินอาหารอย่างมีความสุขกับป้องกุล เธอตักอาหารให้ลูกและพูดแซวยิ้มๆ
“ต้องกินเยอะๆรู้ไหม เด็กกำลังโต”
ป้องกุลอมยิ้มและตักอาหารให้แม่เยอะกว่า “ผมตัวใหญ่กว่าแม่อีก แม่นั่นแหละต้องกินเยอะๆ เพราะต้องกินเผื่ออีกคนด้วย”
เกศิรินชะงักไปนิด “ขอบใจนะลูก แล้วเมื่อคืนนอนสบายมั้ย แม่บอกให้นอนเตียงกับแม่ก็ไม่ยอม นอนบนโซฟาเมื่อยจะตาย”
“ผมโอเคครับ”
“ที่ไม่นอนใกล้แม่เพราะแอบคุยกับแฟนไม่ให้แม่รู้ล่ะสิ”
เกศิรินแกล้งตะล่อมถึงเรื่องแฟนของลูกชาย เล่นเอาป้องกุลที่ไม่ได้ตั้งตัวเกือบสำลักอาหาร
“แม่รู้ว่าป้องไม่อยากบอกเรื่องแฟนให้แม่ฟัง แต่แม่ก็ยังอยากรู้ ป้องบอกแม่ได้ไหมว่าแฟนป้องเป็นคนยังไง”
ป้องกุลลังเลว่าควรเล่าหรือไม่ แล้วตัดสินใจเล่าเท่าที่พูดได้...ไม่ให้รู้ว่าเป็นอาริสา
“เขาเป็นคนใจดีครับ”
“แค่นั้นเหรอ”
“เขาใจเย็น แต่ถ้าโกรธ ก็ใจร้อนและดุมาก”
“ถ้าผู้ชายบอกว่าแฟนดุ แปลว่าเป็นคนกลัวแฟน”
“ครับ...ผมกลัวเขา แต่ไม่ได้กลัวเพราะเขาดุ แต่เพราะกลัวผมทำอะไรให้เขาโกรธ แล้วเขาจะไม่รักผม”
“แปลว่าป้องรักเขามากนะเนี่ย”
“ครับ...ผมรักเขามาก”
เกศิรินฟังแล้วคิดถึงชีวิตตัวเอง เอ่ยหน้าเศร้า “แม่อิจฉาแฟนป้องจัง เมื่อไหร่แม่จะมีผู้ชายที่รักแม่”
คำพูดนั้นของเธอทำให้ป้องกุลสงสัยว่าแม่ต้องมีปัญหาใหญ่กับหมอเอกแน่ถึงกลับมาอยู่คอนโด
“แล้วหมอล่ะครับ เขาไม่รักแม่เหรอ”
เกศิรินชะงักกึก...ก้มหน้าลงซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดในใจไม่ให้ลูกเห็น
ooooooo










