ปัญหา “บัญชีม้า” ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กำลังกลายเป็น “บาดแผลลึก” ของสังคมไทย เมื่อเยาวชนถูกชักนำให้กลายเป็นเครื่องมือของแก๊งอาชญากรรมคำถามสำคัญมีว่า...เราจะปล่อยให้ “บัญชีม้า” กลายเป็นมรดกดำที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น หรือจะหยุดมันไว้ก่อนที่อนาคตของลูกหลานเราจะถูกขายทิ้งในราคาไม่กี่ร้อยบาท?หากไม่เร่งแก้ไขทั้งเชิงโครงสร้างและเชิงสังคม วันหนึ่งความเสียหายอาจลุกลามจนกลายเป็น “วิกฤติความเชื่อมั่น” ที่ยากจะกู้คืนเมื่อพูดถึง “บัญชีม้า” คนจำนวนไม่น้อยอาจนึกถึงเพียงช่องทางการฟอกเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเครื่องมือให้เหล่ามิจฉาชีพซุกซ่อนร่องรอยการโกงแต่ในความเป็นจริง ปัญหานี้คือ “ระเบิดเวลา” ที่สังคมไทยปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป จนวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของคนแก่ที่ถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีใครก็ไม่รู้แต่...กลับกลายเป็นกับดักที่เล็งเป้าใหม่ไปที่ “เด็กและเยาวชน” ผู้ใช้มือถือ เล่นเกมออนไลน์และหาค่าใช้จ่ายผ่านโลกดิจิทัล โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองกำลังจะถูกจารึกในประวัติอาชญากรรมย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน “บัญชีม้า” เป็นเพียงเครื่องมือของผู้มีอิทธิพลที่ต้องการฟอกเงินผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะจากบ่อนการพนัน ค้ายาเสพติด หรือธุรกรรมสีเทา บัญชีเหล่านี้มักได้มาจากการว่าจ้างคนหาเช้ากินค่ำให้เปิดสมุดบัญชี พร้อมยกบัตรประชาชนแลกเงินไม่กี่ร้อยบาทแต่เมื่อสังคมก้าวสู่ยุคดิจิทัล โจรเปลี่ยนหน้า กลายเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ออนไลน์ ใช้บัญชีม้าเป็น “ทางผ่าน” เงินที่โกงมาเพื่อปกปิดตัวจริง กลายเป็นเครือข่ายระดับประเทศทำให้คนธรรมดาอย่างเรากลายเป็น “เหยื่อ” โดยไม่รู้ตัวในวันที่ “ธนาคาร” และ “รัฐ” เริ่มคุมเข้ม ตรวจสอบตัวตนผู้เปิดบัญชีมากขึ้น แก๊งมิจฉาชีพก็ไม่หยุดคิดหาช่องโหว่ เป้าหมายใหม่จึงเบนเข็มหันไปที่ “เด็กนักเรียน นักศึกษา” ที่ต้องการเงินด่วนเพื่อซื้อมือถือ เติมเกม หรือหาเงินพิเศษผ่านโลกออนไลน์ ผ่านการโฆษณาชวนเชื่ออย่าง...“หารายได้เสริมวันละพัน”หรือ “แค่ให้ยืมบัญชี รับเงินง่ายๆ”...กำลังแพร่กระจายอยู่ใน TikTok เฟซบุ๊ก กลุ่มแชตหลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการให้คนอื่นใช้บัญชี คือการ “ยกตัวเองเป็นหุ่นเชิด” ให้แก๊งอาชญากรรม เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น คนที่ต้องรับผิดชอบคือเจ้าของชื่อบัญชี ไม่ใช่ตัวการที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นการเปลี่ยนเกมของ “แก๊งมิจฉาชีพ” ในช่วงหลังที่ไปโผล่กับ “เด็กและร้านค้ารายย่อย” เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนพบพฤติกรรมการชักชวนเยาวชนให้เปิดบัญชี แลกค่าจ้างเพียงเล็กน้อย และใช้ร้านค้าขนาดเล็กเป็นช่องทางรับโอนจ่ายทำให้ผู้กระทำผิดสามารถกระจายเส้นทางการเงินได้รวดเร็วและซับซ้อนขึ้นจนยากจะสืบสวนและ...เมื่อมาตรการสกัดกั้นเข้มขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ...การอายัดบัญชี การล็อกยอดและความเดือดร้อนของผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องด้วยเลยข่าวล่าสะท้อนชัดเจน เมื่อมีการ “อายัดบัญชี” หลายหมื่นรายชื่อพร้อมกัน จนประชาชนตื่นตระหนก แห่ไปถอนเงินออกจากธนาคารหวั่นถูกล็อกสมุดบัญชีโดยไม่รู้เรื่อง ขณะที่บางคนก็ถูกปิดบัญชีระหว่างทำธุรกรรมสำคัญ...ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายรายวันกลายเป็น...ความเดือดร้อนที่ยากจะแก้ไขได้ในทันทีทันใดผู้สันทัดกรณีในแวดวงนี้วิเคราะห์ผ่านมิติด้านกฎหมายและความยุติธรรมเอาไว้น่าสนใจ เขามองว่า การเร่งอายัดแม้จะสกัดมิจฉาชีพได้ทันที แต่ก็สุ่มเสี่ยงกระทบสิทธิประชาชนผู้บริสุทธิ์ กระบวนการพิสูจน์ “บัญชีม้า” กับ “บัญชีธรรมดา” ใช้เวลา ขณะที่เจ้าของบัญชีต้องแบกรับผลเสียกระทบต่อเนื่องไปถึงมิติทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น... “เมื่อผู้คนแห่ถอนเงินออกจากระบบ ย่อมกระทบเสถียรภาพของสถาบันการเงิน...ความเชื่อมั่นในระบบธนาคารสั่นคลอน ขัดกับแนวทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่รัฐพยายามผลักดัน”แน่นอนว่า...ช่องว่างความรู้ของประชาชน ทำให้ยังมีคนตกเป็นเหยื่อหรือไม่เข้าใจความเสี่ยง ในขณะที่แก๊งมิจฉาชีพปรับกลยุทธ์ตลอดเวลา กฎหมายและมาตรการรัฐกลับไล่ตามไม่ทันนี่คือความท้าทายสำคัญ เป็นทางสองแพร่งระหว่างการ “ปราบปราม” และ “คุ้มครองประชาชน”...โจทย์ใหญ่คือ รัฐบาลจะทำอย่างไรให้ “เข้มงวดกับคนผิด” แต่ไม่ “บีบคั้นคนบริสุทธิ์”แนวทางที่ผู้เชี่ยวชาญเสนอ อาทิ ระบบคัดกรองแบบแม่นยำใช้ปัญญาประดิษฐ์และบิ๊กดาต้า ตรวจจับพฤติกรรมโอนเงินผิดปกติแทนการกวาดอายัดแบบเหมารวม, กระบวนการอุทธรณ์รวดเร็ว...หากบัญชีถูกอายัด ผู้บริสุทธิ์ควรพิสูจน์ได้ภายใน 24–48 ชั่วโมง ไม่ใช่รอเป็นสัปดาห์ที่สำคัญคือ...สร้างภูมิคุ้มกันประชาชน ผ่านการรณรงค์ความรู้ต่อเนื่อง เช่น อย่าเปิดบัญชีให้ผู้อื่น อย่าหลงเชื่อข้อเสนอ “รายได้ง่ายๆ” นับรวมไปถึงบังคับใช้กฎหมายกับต้นตอจริงไม่ใช่เพียงผู้เปิดบัญชีแต่...ต้องไล่บี้ถึง “เครือข่ายนายหน้า” และ “แก๊ง” ที่อยู่เบื้องหลังวิกฤติ “บัญชีม้า” วันนี้ ไม่ใช่เรื่องของมิจฉาชีพเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่สะท้อนปัญหาที่โยงทั้งกฎหมาย การเงิน เทคโนโลยี และความเชื่อมั่นของสังคมไทย การแก้ปัญหาต้องไม่ใช่การ “กวาดให้หมด” แล้วปล่อยให้ประชาชนรับเคราะห์ แต่ต้อง...ตรงจุด แม่นยำ และ สมดุลเพราะหากเราไม่สามารถหาทางออกที่เหมาะสมได้ บัญชีม้าอาจกลายเป็น “เงื่อนตาย” ที่รัดทั้งระบบเศรษฐกิจและศรัทธาประชาชนต่อกลไกรัฐ...สถาบันการเงินอย่างไม่อาจคลี่คลาย.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม