วิกฤติน้ำท่วมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายหลังปริมาณฝนเบาบางลง หล่มสักน้ำลดลงแล้ว ชาวบ้านเริ่มเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือนร้านค้า มวลน้ำไหลต่อเข้าตัวเมือง ผวจ.เพชรบูรณ์ สั่งระดมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรอุปกรณ์ป้องกันเต็มพิกัด จ.เลย น้ำท่วมคลี่คลายหลายพื้นที่ ระดมเครื่องสูบน้ำเร่งระบายลงแม่น้ำโขง พิษณุโลกลุ้นระทึกระดับน้ำน่านผ่านกลางตัวเมืองเพิ่มสูงสุดในรอบ 10 กว่าปี ยังอ่วมหนักที่บางกระทุ่ม น้ำล้นคลองซัดถนนขาดไหลบ่าท่วม 6 หมู่บ้าน สุโขทัยรับน้ำจากแพร่ แม่น้ำยมล้นแนวบิ๊กแบ็กเข้าท่วมถนนรอบสองหลังเพิ่งแห้งไปได้วันเดียว อุตุฯเตือนฝนยังชุ่มฉ่ำทุกภาคทั่วไทยไปอีกหลายวันสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่มีแนวโน้มเริ่มคลี่คลาย หลังจากฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุ “หนองฟ้า” เริ่มเบาบางลงทำให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังลดลงบ้างแล้ว เมื่อวันที่ 2 ก.ย. วิกฤติน้ำท่วมกลางย่านเศรษฐกิจการค้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงประมาณ 30% ชาวบ้านบางส่วนเริ่มเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือนทรัพย์สิน นายภาคภูมิ ภูมี นอภ.หล่มสัก เผยว่า ระดับน้ำบริเวณท้ายแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นทำให้มวลน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน อ.หล่มสัก รวม 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.ห้วยไร่ ต.ลานบ่า และ ต.ปากดุก จากนั้นจะไหลเข้าสู่พื้นที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ที่ ต.ท่าพล ต.สะเดียง ต.ดงมูลเหล็ก และเขตเศรษฐกิจเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ในช่วงเย็นวันนี้ ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายยานพาหนะและสัตว์เลี้ยงรวมถึงผู้ป่วยเด็ก และคนชรา เข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยนายศรัณยู มีทองคำ ผวจ.เพชรบูรณ์ เผยว่า พื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอประกอบด้วย อ.หล่มเก่า 8 ตำบล 27 หมู่บ้าน รวม 491 หลังคาเรือน โรงเรียน 1 แห่ง อ.น้ำหนาว 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน และ อ.หล่มสัก ครอบคลุมพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก เทศบาลตำบลตาลเดี่ยว และตำบลโดยรอบ ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต สั่งการหน่วยงานท้องถิ่น อบต.กิ่งกาชาด และ อปท.เร่งมอบข้าวกล่องและสิ่งของบรรเทาทุกข์ พร้อมจัดตั้งศูนย์ตอบโต้ภัยพิบัติสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 60 นาย เรือท้องแบน รถกู้ภัย และเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่ ขณะที่ อบจ.เพชรบูรณ์ และกองทัพนำรถแบ็กโฮ รถบรรทุก และกำลังพลเข้ารื้อเศษวัสดุที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สั่งยกระดับการแจ้งเตือนภัยเป็น “สีแดง” ให้ประชาชนตามแนวแม่น้ำป่าสักเร่งอพยพสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมเตรียมการตัดกระแสไฟฟ้าในจุดเสี่ยงเพื่อความปลอดภัยจ.เลย สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ภูหลวง อ.ภูกระดึง และ อ.วังสะพุง ภาพรวมมีแนวโน้มลดลงในหลายพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงทีมกู้ภัยยังคงเข้าไปส่งเสบียงอาหารให้ชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านเรือนและพาออกมาส่งยังที่ปลอดภัย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผวจ.เลย เดินทางไปที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเลย ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเลย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบรรจุกระสอบทรายก่อพนังกั้นน้ำ พร้อมแจกจ่ายให้ประชาชนนำไปเสริมแนวป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้านเรือนตัวเอง เป็นมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันผลกระทบและลดความเสียหายเพิ่มเติมจากระดับน้ำของแม่น้ำเลยที่สูงขึ้น เพื่อสร้างความอุ่นใจและคลายความกังวลให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยผวจ.เลย เผยว่า สถานการณ์น้ำเวลา 12.00 น. วันที่ 2 ก.ย. สถานีภูหลวง ระดับน้ำ 4.35 เมตร ลดลง 8 ซม. สถานีวังสะพุง ระดับน้ำ 7.87 เมตร ลดลง 13 ซม. สถานีเลย ระดับน้ำ 10.56 เมตร เพิ่มขึ้น 1 ซม. ระดับน้ำในแม่น้ำเลยที่สถานีวัดน้ำหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองเลย อยู่ที่ 10.30 ม. ลดลง 8 ซม. นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำลงแม่น้ำเลย ขณะที่มวลน้ำไหลต่อไปยัง ต.ธาตุ อ.เชียงคาน ลงสู่ประตูน้ำศรีสองรัก ที่เปิดประตูระบายน้ำเตรียมความพร้อม และมีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 เครื่องเพื่อระบายลงแม่น้ำโขงต่อไปจ.พิษณุโลก ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านกลางเมืองพิษณุโลกเพิ่มสูงขึ้น เรือนแพบริเวณสะพานสุพรรณกัลยาลอยสูงเกือบถึงถนน ถือเป็นระดับน้ำสูงสุดในรอบ 10 กว่าปี แต่ยังไม่เอ่อล้นเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจการค้าในตัวเมือง เจ้าหน้าที่เทศบาลติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมอุดปากท่อระบายน้ำไม่ให้ไหลย้อนเข้าเขตเมือง พร้อมประกาศแจ้งเตือนชาวแพที่อยู่อาศัยให้คอยเฝ้าระวังตลอดเวลา ระดับน้ำน่านที่ขึ้นสูงจะกระทบกับการระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.วังทอง และ อ.บางกระทุ่ม เนื่องจากน้ำเข็กหรือแม่น้ำวังทองจะระบายลงสู่แม่น้ำน่านได้ช้ามาก ขณะเดียวกันน้ำจากแม่น้ำน่านยังเอ่อล้นตลิ่งบริเวณหมู่ 4 ต.ตลุกกระเทียม อ.พรหมพิราม ชาวบ้านริมน้ำได้รับผลกระทบแล้วกว่า 20 หลังคาเรือน ระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงนางวิรัช ใจซื่อ กำนันตำบลเนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เผยว่า น้ำจากคลองเนินกุ่มเอ่อล้นตลิ่งกัดเซาะถนนบ้านเหนือ หมู่ 1 ต.เนินกุ่ม กว้างกว่า 10 เมตร น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 30 หลัง มีบ้านไม้ 1 หลังถูกน้ำกัดเซาะเสาเอนใกล้พัง มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 1, 3, 4, 5, 6 และหมู่ 10 โดยเฉพาะบริเวณตลาดวัดตายม พื้นที่เศรษฐกิจของตำบลถูกน้ำท่วมทั้งหมด สำหรับคลองเนินกุ่มจะรับน้ำมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ผ่านคลองชมพู พื้นที่บ้านน้ำปาด และบ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.เนินมะปราง เจ้าหน้าที่ประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านล่วงหน้าแล้ว พร้อมติดป้ายเตือนห้ามเข้าพื้นที่จุดเสี่ยง ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะพร้อมระดมพลช่วยเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนเร่งซ่อมแซมถนนเพื่อปิดกั้นน้ำเป็นการชั่วคราวจ.สุโขทัย หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำยมลดลงทำให้น้ำที่ท่วมถนนจรดวิถีถ่องและวัดปากแคว ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ลดลงตามไปด้วยจนมองเห็นร่องรอยความเสียหายของถนนที่ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายไป 1 ช่องจราจร เจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจและซ่อมแซมจุดที่น้ำลอดใต้กำแพงหลังวัดปากแควแล้ว ผ่านไปเพียงวันเดียวกระทั่งช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก ที่รับน้ำมาจาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ ต้องเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 5 บานออกมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นข้ามแนวบิ๊กแบ็กเข้าท่วมภายในวัดปากแคว และลามออกมาเริ่มท่วมริมถนนจรดวิถีถ่องอีกครั้ง ระดับน้ำสูงทำให้การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบากจ.พิจิตร น้ำป่าจากเทือกเขาซับเปิบไหลบ่าลงคลองล่องตะแบกและคลองสาขา เอ่อล้นเขาท่วมพื้นที่สวนไร่นาของชาวบ้าน และท่วมขังหลายพื้นที่ย่านเศรษฐกิจตลาดทับคล้อ อ.ทับคล้อ นอกจากนี้ยังท่วมบางจุดของถนนสาย 113 ตะพานหิน-เพชรบูรณ์ ชาวบ้านในพื้นที่ต้องรีบขนย้ายทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลทับคล้อและกำลังทหารเข้าช่วยขนย้ายสิ่งของ นำกระสอบทรายปิดทางน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายออกกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาพอากาศช่วงวันที่ 2-6 ก.ย. บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง ส่วนช่วงวันที่ 7-8 ก.ย. ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลางในช่วงวันที่ 2-3 ก.ย. คลื่นลมบริเวณทะเล อันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง มีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 ก.ย. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนขอให้งดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 3 ก.ย.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่