สืบสานและสร้างสรรค์งานคราฟต์ท้องถิ่นรับเทรนด์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ชูภารกิจ สืบสาน สร้างสรรค์ ส่งเสริม งานหัตถกรรมไทยในทุกมิติอย่างยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนงานศิลปหัตถกรรมไทย ชูจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองหัตถศิลป์โลก ยกระดับกลุ่มงานหัตถศิลป์ที่คิดถึงเมืองล้านนาเพื่อผลักดันเป็นผลิตภัณฑ์งานคราฟต์ร่วมสมัย ทั้งยังเดินหน้าสนับสนุน “ครูศิลป์-ครูช่าง-ทายาท” ผ่านการประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วน ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย เปิดเผยว่า SACIT เดินหน้าผลักดันภารกิจการสืบสานงานหัตถศิลป์ไทยภายใต้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของงานศิลปหัตถกรรมล้านนา อย่างเช่น จังหวัด เชียงใหม่ ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสมาชิก “เมืองหัตถศิลป์โลก” (World Crafts City) จากองค์การยูเนสโก ปี 2563 ด้วยความโดดเด่นของงานฝีมือพื้นถิ่นที่สะท้อนรากเหง้าวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง โดยมีกลุ่มงานหัตถกรรมพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ในหลากหลายแขนง อาทิ งานเครื่องเขิน งานเครื่องโลหะ และงานเครื่องจักสาน อีกทั้งยังมีงานหัตถศิลป์บางหมวดหมู่ที่อาจยังไม่รู้จักอย่างแพร่หลาย เช่น งานหัตถกรรมผ้าทอ “ซิ่นตีนจกแม่แจ่ม” ที่มีกระบวนการทอแบบโบราณ ปัจจุบันมีผู้สืบทอดงานจำนวนน้อยราย จึงถือเป็นงานหัตถกรรมในหมวดหมู่ “งานหัตถศิลป์ที่คิดถึง” ที่มีความเสี่ยงจะสูญหายไปตามกาลเวลา ในปี 2568 SACIT ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการต่อยอดงานหัตถกรรมภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความหลากหลายด้านศิลปหัตถกรรม โดยมีตัวอย่างผู้สร้างสรรค์ผลงาน งานศิลปหัตถกรรมไทยล้านนาและมีแนวความคิดร่วมสมัย เพื่อเป็นการขานรับเทรนด์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ อาทิ อุทัยย์ กาญจนคูหา ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2566 (หัตถกรรมประเภทเครื่องเคลือบดินเผา) ผู้สืบสานงานหัตถศิลป์ถิ่นลำพูนประเภทเครื่องดินเซรามิกแบบร่วมสมัยได้อย่างมีเอกลักษณ์ ณ เตาชวนหลง หรือศูนย์การเรียนรู้ชวนหลงเซรามิก โดยเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกลุ่มสินค้าเซรามิกคุณภาพในกลุ่มไลฟ์สไตล์ อาทิ สินค้าประดับบ้าน เครื่องสังคโลก ชุดจาน-ชาม เซรามิกเพนต์ลวดลาย ที่มีทั้งแนวอนุรักษ์ตามแบบโบราณตั้งแต่สมัยสุโขทัย ตลอดจนดีไซน์และแบบร่วมสมัยที่ดึงดูดการใช้งาน ผนวกกับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในการรังสรรค์ผลงานที่ไร้ขีดจำกัด ต่อยอดสู่ช่องทางการค้าทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ทำให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น ผศ.ดร.อนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า SACIT มุ่งเน้นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยอย่างยั่งยืน การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ฯ ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ฯ รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์และการถ่ายทอดองค์ความรู้ และวิธีบริหารจัดการวัฒนธรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับศิลปหัตถกรรมไทย ผู้ที่สนใจงานคราฟต์ชุมชน SACIT ได้รวบรวมแหล่งชุมชนหัตถกรรม ดูได้ที่เว็บไซต์ “SACIT Achieve” https://archive.sacit.or.th/ ที่ได้รวบรวมทั้งฐานข้อมูลงานศิลปหัตถกรรม ผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรม รวมถึงแผนที่-แหล่งเรียนรู้งานศิลปหัตถกรรมในประเทศไทย. อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่