ตอนที่ 6
โขงทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเปิดโปงว่าพีระจงใจให้ตนรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่นให้ตามเขาไปและจัดฉากทุกอย่างไว้ ทุกอย่างเป็นแผนของเขา ภาพที่เอามาก็ไม่ใช่เหตุการณ์ทั้งหมด เขาสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายตน ตนไม่ได้ทำอะไรเขามากกว่าต่อยปากเลย
ระหว่างโขงแฉพีระนั้น นารีบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ตนต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน พีระถามนารีว่าไม่เช็กเมลหน่อยหรือ นารีหันไปกดคอมพ์เช็กเมล พอสัญญาณมาเจียรไนยอ่านดังๆ
“คำสั่งด่วนจากกรมพัฒนาครอบครัว...พักงานนายโขง ธรรมดี ไม่มีกำหนด ลงชื่ออธิบดีกรม...”
ทุกคนตกใจกับคำสั่งฟ้าผ่านี้ พอพีระกลับถึงออฟฟิศ ชัยกับดำก็สอพลอว่าแผนของเขาเยี่ยมมากสามารถเด้งโขงออกไปได้ พีระยิ้มลำพองใจบ่นว่า “เสียดายที่ไม่ได้เลี้ยงส่งไอ้โขงเลย”
สวัสดิ์ถามนารีว่าโขงโดนพักงานจริงๆหรือ นารีบอกว่าจนกว่าจะมีหลักฐานมาพิสูจน์ว่าโขงไม่ได้ทำ
โขงเดินอ้าวกลับบ้าน ทิชามาดักเรียกบอกว่าถึงขั้น สั่งพักงานก็เกินไป ยังไงก็ควรมีการสอบสวนก่อน โขงบอกว่าพีระเตรียมหลักฐานไว้พร้อมมาก ทิชาอาสาเป็นพยานให้ เขาถามว่าวันนั้นเธอเห็นเหตุการณ์หรือ ทิชาปฏิเสธว่าเปล่า แต่เมื่อวานตนเจอพีระดูเขายังปกติมาก ไม่ได้เจ็บหนักอย่างที่เห็นวันนี้เลย
โขงเกรงว่าทิชามาเป็นพยานให้ตนจะทำให้เธอเดือดร้อน ผิดใจกับแม่ ตนไม่โอเคเลยถ้าเธอต้องเดือดร้อนเพราะช่วยตน ทิชาจับมือโขงบอกว่าตนไม่แคร์ ตนอยากช่วยเขา
เหมียวกลับถึงบ้านดู live จากโทรศัพท์แล้วโพล่งว่าคุณโขงไม่ได้ทำ สภาพของพีระคือการแต่งแฟนซีและแสดงละครเพื่อทำลายโขงร้อยเปอร์เซ็นต์โพล่งแล้ววิ่งออกไปที่รถมอเตอร์ไซค์ไปหาโขงทันที เจอโขงกับทิชาที่ทางเดินเข้าบ้าน เหมียวบอกว่าตนมีเรื่องต้องคุยกับเขา
ทิชาเร่งโขงให้รีบเข้ากรุงเทพฯกัน ผู้ใหญ่จะได้รู้ว่าความจริงเป็นยังไง เหมียวบอกโขงเสียงแข็งว่าถ้าไม่ได้คุยกันตอนนี้ก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว โขงจึงบอกทิชา ว่าเดี๋ยวตนโทร.หา ทำให้ทิชาผิดหวังมาก
โขงจูงมือเหมียวเข้ามาในบ้าน เหมียวบอกว่าเขาก็น่าจะรู้ว่าตนไปทำงานที่ผับพีระทำไม ยืนยันว่าตนเอาตัวรอดได้ เขาไปก็ต้องเดือดร้อนอย่างที่เห็น โขงบอกว่าถึงรู้ว่ามันเป็นกับดักตนก็ต้องไปอยู่ดี เหมียว ถามว่าบ้าไปแล้วหรือ
“เออ...บ้า ยังไม่รู้อีกรึไง...” โขงดึงเหมียวเข้าไปกอด “เป็นห่วงจนจะบ้าอยู่แล้ว” เหมียวบอกว่าเขาก็เป็นห่วงแบบนี้กับทุกคน “ผมอาจเป็นห่วงทุกคน แต่มีแค่คนเดียวที่ต่างจากคนอื่น”
แล้วโขงบอกว่าตนก็กลัวเหมือนกัน เพราะตนไม่ได้มาจากครอบครัวดีเด่นอะไร ยอมรับว่า...
“ความรุนแรงที่ผมเจอ มันทำให้ผมไม่กล้ามีความผูกพันกับใครเหมือนกัน แต่อยู่ๆใจเรามันก็เปลี่ยนไปโดยที่เราควบคุมไม่ได้ ใจเรามันน่ากลัวนะ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องซื่อสัตย์กับมันไม่ใช่เหรอ...ผมเป็นห่วงคุณ ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณเข้าหาไอ้พีระเพราะอะไร แต่ผมก็ยอมให้คุณไปเสี่ยงไม่ได้ แค่คิดว่ามันแตะต้องตัวคุณผมก็ทนไม่ไหวแล้ว”










