ตอนที่ 6
วันนี้ขณะที่คุณนายระวีกำลังดูบัญชียอดบริจาคที่เจ้าหน้าที่เอามาให้ บ่นว่าทำไมมันน้อยลง ก็พอดีโขงเข้ามา ทิชาแปลกใจที่โขงมา แต่คุณนายถามประชดว่ามาหาทิชาแต่เช้าอีกแล้ว ว่างไม่มีอะไรจะทำรึไง
“ผมมาหาคุณนายระวีต่างหากล่ะครับ”
ที่แท้โขงตั้งใจมาดูว่าคุณนายเป็นคนยังไงกันแน่ ทำไมจึงตบพร้อม บอกคุณนายว่าตอนนี้มีเด็กร้อยกว่าคนที่เสนอชื่อเข้ารับทุน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติไม่ทันตนเลยมาขออนุญาตชวนคุณทิชาไปลงพื้นที่ คุณนายไม่ให้ทิชาไปโขงจึงเสนอขอให้คุณนายไปแทน คุณนายปรามว่าอย่าตลก เพราะที่นี่เขามีตำแหน่ง ฐานะ และจะให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติไปแทน
ทิชาบอกว่าตนจะไปกับโขงเพราะคุณนายสมรให้ตนรับผิดชอบเรื่องทุน ว่าแล้วไหว้แม่โดยไม่สบตา
“ทิชาไปนะคะ”
“ลานะครับ” โขงรีบลาเมื่อคุณนายหันมองตาขวาง แล้วก็มองตาขวางตามไป ทำอะไรไม่ได้
เวลาเดียวกันเหมียวเดินเร็วๆเข้ามาที่สุขศาลาอย่างร้อนใจ ที่เมื่อคืนกลับมาห้องเช่าเห็นว่ามีมิสคอลจากเปิ้ลสามสายแต่พอโทร.กลับก็ไม่มีใครรับสาย วันนี้โทร.อีกก็ติดต่อไม่ได้ ขณะเหมียวกำลังว้าวุ่นใจ พยาบาล ก็มาบอกว่าให้รีบไปดูแม่เร็ว พอเหมียวเข้าไปในห้องก็ตกใจเมื่อหมอกับพยาบาลชุลมุนอยู่กับทับทิมที่กำลังอาละวาดทั้งดิ้นทั้งตะโกน
“ไม่นะหมอ ฉันไม่ไป ฉันไม่ไปไหนนะ ฉันจะกลับบ้าน”
ที่แท้หมอจะส่งทับทิมไปตรวจหัวใจที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด เหมียวหว่านล้อมให้แม่ไปก็ถูกตวาดว่าตนไม่เป็นอะไร เพราะตนมีปลัดขิกอาจารย์ลิลลี่ แต่คลำหา ไม่เจอ เลยหาว่าเหมียวเอาไป โทษว่าเพราะไม่มีปลัดขิกตนเลยป่วย สั่งเหมียวให้ตามพี่ชัยมารับกลับบ้านด้วย
หมอกับพยาบาลมองหน้ากันอย่างหนักใจที่ทับทิมเอาแต่โวยวายไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น
ฝ่ายโขงออกมากับทิชาครู่เดียวคุณนายก็โทร.เข้ามือถือทิชา เธอมองลังเล โขงบอกว่าถ้าวันนี้เธอมีงานต้องเคลียร์เอาไว้ไปกันวันอื่นก็ได้
“วันนี้แหละค่ะ ทิชาตัดสินใจแล้ว” ทิชากดปิดโทรศัพท์เลย โขงถามว่าไม่กลัวคุณแม่โกรธหรือ เธอตอบทันทีว่า “ไม่ค่ะ ทิชาไม่ได้ทำผิดอะไร”
พอดีโทรศัพท์โขงดังขึ้น โขงรับสายแล้วตกใจถาม
“อะไรนะครับ!”
โขงกับทิชารีบไปห้องยายแจ๊วที่สุขศาลา เห็นหมอกับพยาบาลกำลังช่วยกันจับยายแจ๊วที่ถือมีดปอกผลไม้จ่อที่คอตัวเอง คร่ำครวญว่าเพราะตนใช่ไหมทำให้น้อยหน่าต้องหนีไป โทษว่าตนไม่ดีเลี้ยงลูกก็ไม่ดีเลี้ยงหลานก็หนี ถามว่าน้อยหน่าอยู่ไหน มาทำศพยายด้วย
ยายแจ๊วคลุ้มคลั่งจนหมอต้องให้ยาระงับประสาทกิน เชิญทุกคนที่อยู่ในห้องออกไปก่อนเพื่อยายแจ๊วจะได้พักผ่อน ยายไรรำพึงสมเพชว่า เห็นกันอยู่หลัดๆไม่น่าบ้าเลย โขงบอกว่ายายแจ๊วไม่ได้บ้า ปรึกษาหมอว่าเราควรย้ายไปที่โรงพยาบาลที่มีแผนกจิตเวชหรือไม่ก็มี
นักจิตวิทยาดูแลใกล้ชิดไหม
ทิชาบอกว่าตนรู้จักจิตแพทย์เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเคสชอบทำร้ายตัวเองท่านหนึ่งเดี๋ยวจะติดต่อประสานให้ท่านมาดูแลยายแจ๊ว ส่วนค่าใช้จ่ายตนขอรับผิดชอบทั้งหมด
“โอ้...แม่พระจริงๆแม่คุณ” ยายหวานจับมือ
ทิชาซาบซึ้ง
“นางฟ้ามาโปรดแล้วนะนังแจ๊ว เอ็งรอดแล้ว” ยายไรดีใจด้วย










