ตอนที่ 15
ปวีณรู้เรื่องที่บัวทำจากพงศ์ระพีและสารินทร์ ชื่นชมเธอไม่หยุดปากที่ไม่เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น
พงศ์ระพีเห็นด้วย ถ้าบัวอยากเอาเรื่องวรรณพร คงเอามือถือของวิภูษาให้ตำรวจที่ชัยภูมิไปตั้งแต่แรกแล้ว
“ต้องขอบคุณตาของบัวที่เลี้ยงบัวมาได้ดีขนาดนี้ อาซะอีกที่เป็นพ่อไม่ได้เรื่องเลี้ยงลูกไม่ได้ดี”
สารินทร์ปลอบในเมื่อเราแก้ไขอดีตไม่ได้ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็แล้วกัน ปวีณปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปไม่ได้แม้บัวจะไม่แจ้งตำรวจจับวรรณพร แต่เขาจะต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่องเพื่อที่เธอจะไม่ทำเรื่องเลวๆ กับบัวอีก ให้เธอรู้ว่าจากนี้ไปจะไม่มีการให้อภัยกันอีกแล้ว จากนั้นปวีณเดินลิ่วไปหาวรรณพรที่ห้อง เห็นเธอนอนหลับอยู่ รุ่งถือถาดอาหารมาพอดี อาสาจะปลุกเธอให้
“ให้เขานอนไปเถอะ ฉันต้องรีบไปงานศพคุณวิ วันนี้เธอไม่ต้องไปช่วยที่วัดก็ได้ ให้อยู่เป็นเพื่อนคุณผู้หญิงแล้วกัน” สั่งเสร็จปวีณผละออกมา โดยไม่รู้ว่าวรรณพรแกล้งหลับ...
ในระหว่างที่ปวีณเดินนำบัว ดุสิตาและจิตรายังไม่ถึงศาลาสวดศพ รุ่งโทร.มาแจ้งว่าคุณผู้หญิงหายตัวไปไม่รู้ไปไหน ปวีณฝากจิตราดูทางนี้แทน เขาต้องไปตามหาตัววรรณพรไม่รู้หนีเตลิดไปไหน ทันใดนั้น พงศ์ระพีวิ่งหน้าตื่นมาจากอีกทางหนึ่ง
“ตำรวจโทร.มาบอกว่าอาวรรณอยู่ที่โรงพักครับ”...
เมื่อปวีณ พงศ์ระพีและบัวมาถึงโรงพัก กลับพบว่าวรรณพรมามอบตัวกับตำรวจเองไม่ได้ถูกจับมาแต่อย่างใด นอกจากนี้เธอยังมอบมือถือของเธอให้ตำรวจเป็นหลักฐานปรักปรำตัวเองอีกด้วย คร่ำครวญว่าที่ลูกต้องตายก็เพราะแผนชั่วของเธอ ปวีณไม่เข้าใจเธอทำแบบนี้ทำไม
“เพราะฉันทนอยู่บ้านเดียวกับบัวลูกสาวของคุณไม่ได้ยังไงล่ะคะ ฉันยอมอยู่ในคุกในตะรางดีกว่าต้องตากหน้าอยู่ในบ้านคุณ พวกคุณกลับไปเถอะ”
ปวีณอาสาจะจัดการหาทนายสู้คดีให้ วรรณพรไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นขอแค่เขาช่วยทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้วิภูษาบ่อยๆเป็นพอ หลังจากนั้นตำรวจหญิงพาตัววรรณพรไปไว้ในห้องขัง
“นี่คือสิ่งที่แม่จะชดใช้ให้ลูกได้ วิลูกแม่...แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษ” วรรณพรคร่ำครวญทั้งน้ำตา
ooooooo
เมฆดำทะมึนที่เต็มท้องฟ้า บัดนี้เคลื่อนผ่านไปหมดแล้วเหลือเพียงท้องฟ้าสดใสสวยงาม เช่นเดียวกับครอบครัวจินตบุษย์หลังจากเรื่องร้ายๆผ่านไป
ปวีณกับบัวเคลียร์ปัญญาค้างคาใจได้หมด เธอถือโอกาสนี้กราบขอโทษพ่อที่เคยทำไม่ดีเอาไว้ เขาเองก็ขอโทษเธอเช่นกันที่ไม่เคยดูแล ปล่อยตกระกำลำบาก
หลังจากปรับความเข้าใจกันเรียบร้อย บัวประคองแขนปวีณลงมาที่ห้องโถง ต้องตาโตตื่นเต้นเมื่อเห็นคีย์บอร์ดของตัวเองวางอยู่ที่มุมหนึ่ง เธอปรี่เข้าไปลูบคลำ ถามพงศ์ระพีที่ยืนมองอยู่ว่ามาได้อย่างไร
“อาปวีณให้ฉันเอากลับมาให้เธอ”
“ขอบใจมากนะพี อุตส่าห์ไปซื้อคืนจากร้านรับซื้อเครื่องดนตรีมือสองมาจนได้ ไม่งั้นอาคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่” ปวีณพูดไม่ทันจบประโยค บัวพูดแทรกขึ้นเสียก่อน ไม่ใช่ครูพันเป็นคนไปซื้อคืนมาให้หรือ ปวีณส่ายหน้า มันเป็นแผนการของพงศ์ระพีที่อยากได้บัวไปเป็นน้องสะใภ้ เลยสร้างเรื่องให้ประทับใจในตัวพัน










