ตอนที่ 15
ผ่านมาหลายวันแล้ว วรรณพรยังทำใจไม่ได้ว่าลูกตายไปแล้ว เก็บเอาไปฝันว่าลูกยังไม่ตาย ตัวเองนอนเฝ้าแกอยู่ข้างเตียง ไม่นานนัก วิภูษารู้สึกตัวตื่นขึ้นร้องเรียกแม่ที่ยังหลับอยู่ วรรณพรเห็นลูกฟื้นดีใจมากเข้ามากอดลูบหัวลูบหู วิภูษามองตามเนื้อตัวตัวเอง บ่นพึมพำว่านี่ตนยังไม่ตายหรือ
“พูดอะไรไม่เป็นมงคลอย่างนั้น ลูกโชคดีมากนะที่ตกลงไปไม่สูงมากนัก แต่ก็หมดสติไม่รู้สึกตัวนอนอยู่โรงพยาบาลไปเป็นเดือนจนหมอให้กลับมาพักที่บ้าน”
วิภูษาอยากรู้ว่านังบัวเป็นอย่างไรบ้าง วรรณพรเล่าเรื่องที่หาญสารภาพกับตำรวจว่าร่วมมือกับบัวจับ
วิภูษาไปเรียกค่าไถ่ ตอนนี้บัวโดนจับไปแล้วตนสะใจมากจากนี้ไปจะไม่มีนังมารผจญนั่นมาอยู่ร่วมบ้านกับเราอีกแล้ว วิภูษาหน้าสลดแต่พ่อรู้แล้วว่าเธอไม่ใช่ลูก ท่านคงไม่ยอมรับเธออีกแล้ว
“ใครบอก พ่อเขารักวิจะตายเขาบอกให้เราลืมเรื่องนี้ไปซะ ต่อไปนี้เราเริ่มต้นกันใหม่โดยไม่มีอีบัวมาเป็นตัวเสนียด”
“ติดคุกเดี๋ยวมันก็ออกมาอีก วิอยากให้มันตายไปต่อหน้าต่อตา วิจะจ้างคนไปฆ่ามันในคุก...” พูดได้แค่นั้นวิภูษากระอักออกมาเป็นเลือด วรรณพรพยายามเอาอะไรมาซับแต่เลือดยิ่งไหลไม่หยุด เธอตกใจสะดุ้งตื่น ตะโกนเรียกวิภูษาลั่น มองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าตัวเองฝันไป ครั้นเห็นเตียงนอนที่วางเปล่าของลูกก็ร้องไห้โฮ
ooooooo
ที่ศาลาสวดศพวิภูษา ปวีณกับพงศ์ระพียืนส่งพระสงฆ์อยู่หน้าศาลา โดยมีบัว เจียม รุ่งกับดุสิตาช่วยกันเสิร์ฟน้ำและอาหารว่างให้แขกที่มาร่วมงาน นงรามที่นั่งอยู่กับสารินทร์ออกปากว่านี่สวดศพเป็นวันที่หกแล้วไม่เห็นวรรณพรมางานเลย
“ปวีณบอกว่าคุณวรรณเก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอนของวิไม่ออกมาข้างนอกเลย ปวีณเองก็ยังทำใจไม่ได้ไม่อยากเจอหน้าเมียเหมือนกัน”
นงรามมองไปทางบัวที่กำลังเสิร์ฟน้ำให้แขก เสียใจที่เคยมองเด็กคนนี้ผิดมาตลอด เธอเป็นเด็กดีมีน้ำใจกระวีกระวาดช่วยงานศพทุกวันทั้งที่วิภูษาคิดร้ายหมายเอาชีวิตตัวเองแท้ๆ
“เด็กจะดีจะชั่วมันอยู่ที่การอบรมเลี้ยงดูและสำนึกของตัวเด็กเอง ไม่ได้อยู่ที่ชาติกำเนิดความรวยความจนอะไรทั้งสิ้น ยิ่งเด็กยุคนี้พ่อแม่ทุ่มให้ทุกอย่าง เลี้ยงลูกเป็นเทวดากันไปหมดหนักไม่เอาเบาไม่สู้ ใครขัดใจก็สะท้อนออกมาด้วยความรุนแรงอย่างที่เห็นๆกันในข่าวนี่แหละ”
“นี่ใช่ไหมคะ ที่เขาว่าพ่อแม่รังแกฉัน” นงรามมองปวีณที่เข้าข่ายพ่อแบบนี้เช่นกัน...










