ตอนที่ 2
“ได้สิจ๊ะ ถ้ามันคือความพอใจและความต้องการของน้อง แต่ตอนนี้พี่ขออุ้มภรรยาพาไปสวรรค์ด้วยกันได้แล้ว”
จบคำแสงก็พาเดือนดาราไปขึ้นสวรรค์ ปรนเปรอรสสวาทให้กันและกันกระทั่งเวลาเช้า เดือนดารามีความสุขมาก นอนโอบกอดผัวด้วยความรักเต็มหัวใจ
“น้องมีความสุขเหลือเกินค่ะคุณพี่”
“พี่ก็มีความสุขมากเช่นกัน”
“เราจะมีความสุขกันเช่นนี้ไปจนตายจากกันใช่ไหมคะ”
“เราจะมีความสุขกันตราบลมหายใจสุดท้ายของเรา”
หลวงปู่มั่นนั่งทางในเห็นเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งความตายของพิศ พวกชาวบ้าน มนตร์ดำของสำลี และความอาฆาตแค้นของเดือนดารา
พลันก็ต้องถอนใจยาวเมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิด...
“เวรกรรมที่ทำกันมาแต่ชาติปางก่อนมันย้อนมาอีกจนได้!”
ooooooo
เดือนดาราออดอ้อนขอให้แสงมาทำบุญ
ที่วัด ไม่รู้เลยว่าพลอยก็มาวันเดียวกันเพื่อแจ้งข่าวหลวงปู่มั่นเกี่ยวกับการจากไปของพิศผู้เป็นพ่อ
หลวงปู่มั่นมองพลอยอย่างมีเมตตาและอดเตือนสติทิ้งท้ายไม่ได้
“โยม...หลวงปู่ขอฝากเอาไว้นะ ต่อไปนี้ไม่มีทั้งพ่อแม่แต่โยมยังโชคดีที่มียาย ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังให้มาก อดทนและอดกลั้นหลีกเลี่ยงการมีความสุขบนทุกข์ของผู้อื่นเพราะมันบาป มันจะทำให้เกิดเรื่องราวไม่ดี”
พลอยรับคำแล้วก้มกราบ หลังจากนั้นจึง
ขอตัวลงจากกุฏิ สวนกับขบวนทำบุญของแสง
กับเดือนดาราอย่างจัง!
แสงจำพลอยได้แต่ไม่กล้าทักเพราะกลัวเมียหึง กระนั้นเดือนดาราก็สำเหนียกได้ถึงความผิดปกติ มั่นใจว่าผัวต้องรู้จักผู้หญิงที่เดินสวนลงมาจากกุฏิหลวงปู่มั่นแน่แต่ยังไม่มีเวลาซักไซ้
พลอยก็จำแสงได้ มองตามตาละห้อยเมื่อเห็นเขาควงหญิงสาวหน้าตาสะสวยมาด้วย กระนั้นก็ไม่มีเวลาคิดมากเพราะเธอต้องเตรียมตัวจัดงานศพให้พ่อ
เดือนดาราคาใจเรื่องผู้หญิงที่เดินสวนลงจากกุฏิหลวงปู่มั่น รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ทันสะระตะก็ต้องปั้นหน้ายิ้มแย้มเมื่อแสง
พามากราบหลวงปู่
หลวงปู่มั่นจำเดือนดาราได้ดีแต่ยังนิ่งเฉย เดือนดาราเสียอีกอึดอัดเพราะฝืนคำสอนของหลวงปู่จุดไฟเผาสำนักโคมเขียวของเถ้าแก่เต็งจนราบ
เป็นหน้ากลอง!
มีเพียงแสงที่ไม่รู้เรื่อง ยิ้มหน้าบานและก้มกราบขอพรจากหลวงปู่
“มีครอบครัวแล้วสินะโยมแสง ขอให้เป็นสุขเป็นสุข มีผัวเดียวเมียเดียวเถิดนะ”
“ขอรับหลวงปู่”
หลวงปู่มั่นยิ้มรับบางๆก่อนหันไปทางเดือนดารา “โยมมีวาสนาได้มาเป็นคู่ชีวิตโยมแสง ขอให้ประคับ ประคองครอบครัวชีวิตคู่ไปด้วยกันให้ดีเถิดนะ
ทั้งสองคน หากมีสิ่งที่ต้องทำให้หมองใจกัน ขอจงอภัย เมตตา ไม่อาฆาต ไม่เคียดแค้นชิงชัง ไม่มีความสุขบนความทุกข์ของกันและกันนะโยมทั้งสอง”
แสงกับเดือนดารากราบรับคำอวยพรแล้วขอตัวกลับ แต่ก็ดันผ่านไปเห็นพลอยกับผิวสองยายหลานช่วยกันเตรียมงานศพพิศ นายอ่ำที่ตามมารับใช้แสงเห็นก็ขอตัวไปทักเพราะทั้งสองคือญาติห่างๆ แสงเลยได้รู้ในวันนั้นว่าพิศพ่อของพลอยตายแล้ว
เดือนดาราเฝ้ามองเหตุการณ์ตลอด สังหรณ์ใจว่าเคยรู้จักผู้หญิงที่เป็นญาติของนายอ่ำที่ไหน กระนั้นก็จำไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้มันผ่านไปพร้อมคำภาวนา...
ขออย่าให้มีเรื่องไม่ดีพรากความสุขไปจากเธอเลย
ooooooo
นางเอิบกับดาวเรืองคันปากมาก เมื่อเห็นว่าแสงพาเดือนดาราไปทำบุญที่วัดก็อดไม่ได้จะตั้งวงนินทาเสียๆหายๆ ชื่นสาวใช้อีกคนทนไม่ไหวปรามให้นางเอิบกับดาวเรืองเลิกคิดงัดข้อกับเดือนดารา
“ฉันว่าไอ้ที่แกแอบหวังอะไรไว้ก็เลิกคิดเหอะ คุณผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา น่ากลัวมากๆ แกอย่าเสี่ยงดีกว่า”
“ทำไม...นางดาวเรืองมันก็สะสวยมีดี พอจะมีความรู้อ่านออกเขียนได้ บวกเลขได้ แต่นังคุณผู้หญิงนั่นกอขอ กระดิกหูบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้
ดีไม่ดีเกิดอยู่ในซ่องนางโลมมีแม่เป็นนางโลมซะอีก”
จบคำเดือนดาราที่เพิ่งกลับจากวัดก็โผล่มาพร้อมกระดาษจดรายการอาหาร อยากให้พวกบ่าวช่วยกันซื้อหาเพราะตนจะทำอาหารให้แสงผัวรัก นางเอิบหมั่นไส้มากแต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะยังไม่อยากมีปัญหากับแสงตอนนี้
แสงผละจากเดือนดาราก็อดประหวัดคิดถึงพลอยไม่ได้ ใบหน้าเศร้าสร้อยและคราบน้ำตาของเธอทำให้เขานึกสงสารและเห็นอกเห็นใจอย่างบอกไม่ถูก
เสริมก็คิดถึงพลอยไม่ต่างจากแสง และไม่รอช้าจะขับรถจากบ้านไปตระเวนหา กระทั่งเจอเธอเดินเหม่อแถวๆที่เดิมที่เคยเจอกันเมื่อครั้งก่อน เสริมดีใจมาก พึมพำกับตัวเอง
“คุณนางในฝัน! คุณชื่ออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมจะเรียกคุณว่านางในฝัน และผมจะไม่ปล่อยให้
คุณอยู่ในความฝันอีกต่อไป ผมจะดึงคุณออกมา”
พลอยตกใจไม่น้อยที่จู่ๆมีชายหนุ่มมาประชิดตัว แม้จะคุ้นหน้าเขาเพราะเจอกันบ่อยระยะหลังแต่ก็ไม่ชอบใจที่เขาตามตอแยและอาสาไปส่งเธอที่บ้านเสมอ
“ฉันก็ไม่ได้อยากจะไล่คุณ แต่ฉันไม่ต้องการให้คุณมายุ่งวุ่นวายกับฉัน”
“ผมขอโทษ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณไม่สบายใจ”
“แต่คุณกำลังทำให้ฉันไม่สบายใจ”
“ผมต้องขอโทษอีกครั้ง”
“งั้นเราก็หายกัน กรุณาหลีกทาง ฉันต้องไปแล้ว”
พูดจบก็สะบัดหน้าหนี ทิ้งเสริมให้มองตามด้วยความเสียดายที่พลาดโอกาสจะได้ใกล้ชิดนางในฝัน










