ตอนที่ 2
เช้าวันต่อมา หลวงปู่มั่นรับรู้ทุกอย่างจากญาณพิเศษ ถอนใจยาวเมื่อคิดถึงความอาฆาตแค้นของเดือนดารา
“เวรกรรม! นังหนู...เจ้าได้รับบุญแต่กลับเอาเวรกรรมมาทำลายบุญจนได้”
เดือนดาราสาแก่ใจมากที่ล้างแค้นเถ้าแก่เต็งและเหล่าแมงดาที่สำนักโคมเขียวสำเร็จ กระนั้นก็ยังไม่พอใจขอร้องให้แสงพาไปหาพริ้งลูกสาวของกิมลั้งที่ห้องเช่าของอีกฝ่าย
พริ้งในสภาพมอมแมมทั้งตัวมองสาวสวยแปลกหน้าด้วยแววตาสงสัยปนไม่ไว้ใจ แต่เดือนดาราก็ไม่ถือสา บอกว่ากิมลั้งตายแล้ว ฝากให้ตนช่วยดูแลแทนและจะมารับตัวในอีกสามวัน
แสงตามมารยาสาไถยไม่ทัน ชื่นชมน้ำใจงดงามของเดือนดารามาก เดือนดาราย่ามใจแสร้งตีบทโศกน้ำตาซึมเมื่อเล่าถึงประวัติของกิมลั้งกับพริ้งผู้เป็นลูกสาว
“น้องเศร้าใจเหลือเกินค่ะ”
“น้องดาราไม่โกรธไม่เกลียดพวกเขาเหรอที่ทำร้ายน้องขนาดนั้น”
“น้องเชื่อฟังคำที่หลวงปู่ธุดงค์รูปหนึ่งท่านสอนไว้ ท่านบอกน้องให้อภัย แผ่เมตตาแม้แต่กับคนที่ทำร้ายเรา”
“ถูกต้อง ไม่ว่ามิตร ไม่ว่าศัตรูผู้ทำชั่ว ทุกคนล้วนเป็นครูสอนให้เรารู้จักชีวิตและความอดทน รู้จักต่อสู้ชีวิต”
“ค่ะ...น้องจะจดคำสอนของคุณพี่ คุณพี่คะ...น้องยังมีคนที่ต้องทดแทน...เอ่อ...พระคุณของน้องด้วย ป้ากับลุงค่ะ อีกสามวันน้องขอแวะไปหาป้า ไปดูแลป้าได้ไหมคะ”
“ได้สิน้อง ดีมาก ไม่มีปัญหา พี่จะให้นายเมฆพาดารามา”
“ขอบพระคุณค่ะ น้องต้องตอบแทนหลายคนมาก นี่ถ้าไม่ได้พี่กิมลั้งชี้แนะ น้องคงไม่รอดเงื้อมมือเถ้าแก่กับนักเลงคุมซ่องจนได้มาพบเจอคุณพี่หรอกค่ะ”
“โชคดีที่พี่มาทัน ไม่อย่างนั้นน้องคงผูกคอตายไปแล้ว”
แสงจงใจพูดเสียงดังให้นายเมฆที่เป็นคนขับรถได้ยิน เดือนดาราชอบใจมาก เอ่ยปากขอให้เขาพาไปจดทะเบียนสมรสเพราะอยากเป็นสามีภรรยากับเขาโดยสมบูรณ์
นายเมฆได้ยินทุกอย่าง ทึ่งกับวาจาและความเฉลียวฉลาดของเดือนดาราหรือว่าที่คุณผู้หญิงคนใหม่...ดูท่าทุกคนที่บ้านแสงคงต้องรับศึกหนักเพราะว่าที่คุณผู้หญิงคนใหม่ไม่ธรรมดาจริงๆ
ooooooo
เสริมเคืองแม่ไม่หายที่เจ้ากี้เจ้าการเขา
เรื่องกานดาวดี ขับรถจากบ้านตระเวนหานาง
ในฝันแล้วก็ได้เจอสมใจ
พลอยนั่นเองนางในฝันของเสริม หญิงสาว หงุดหงิดที่เขามาวอแวเลยเรียกเขาว่าหนวดศรีแทนชื่อเสริมที่เขาแนะนำตั้งแต่แรก เสริมไม่ถือสาเดินหน้าอาสาไปส่งถึงบ้านแต่ก็ถูกเธอไล่กลับอย่างไม่ไยดี
นางเอิบฮึกเหิมมากเพราะได้รับคำสั่งจากคุณหญิงตรึงตราให้หาทางกำจัดเมียนางโลมของแสง เมื่อถึงบ้านพักของแสงที่ต่างเมืองก็ช่วยกันกับดาวเรืองทำป้ายหน้าเรือนหลังใหม่ที่แสงเตรียมไว้ให้เมียนางโลม
นายอ่ำเห็นแล้วพูดไม่ออก กระนั้นก็อดไม่ได้จะเตือนสติไม่ให้แข็งข้อกับเมียนางโลมของแสง แต่นางเอิบไม่กลัวเพราะเชื่อว่าบารมีคุณหญิงตรึงตราจะคุ้มกะลาหัวได้
เดือนดารายังไม่รู้ว่าจะมีคนมาต้อนรับ มัว
ปลื้มกับใบทะเบียนสมรสที่แสงพาไปจดสดๆร้อนๆ ที่ที่ว่าการอำเภอ แสงมองเมียหมาดๆด้วยความเอ็นดู กระทั่งถึงบ้านก็ได้ยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นเมียตาโตเพราะเห็นบริเวณบ้านของเขา
“สวยงามเหมือนบ้านในความฝันในนิยายนะคะคุณพี่”
“เนื้อที่หลายสิบไร่เลยแหละน้องดารา และน้องดาราคือคุณผู้หญิงของที่นี่”
“น้องกราบขอบพระคุณคุณพี่ที่หยิบยื่นสวรรค์บนดินมาให้น้องค่ะ น้องสาบานว่าจะดูแลคุณพี่ประหนึ่งเป็นเจ้าชีวิต และตัวน้องคือทาสของคุณพี่”
แสงพาเดือนดาราเดินชมรอบบ้าน บรรดาบริวารบ่าวไพร่ต่างก็ชื่นชมในความงามของเดือนดารา มีเพียงนางเอิบกับดาวเรืองที่เหม็นขี้หน้าคุณผู้หญิงคนใหม่อย่างออกนอกหน้า
เดือนดาราไม่สนสายตาค่อนแคะของใคร ควงแขนแสงผัวหมาดๆเดินทั่วบริเวณบ้าน แสงเป็นปลื้มที่เมียมีความสุข เปรยถึงเรือกสวนไร่นาและอ่างเก็บน้ำ หลายแห่งที่เขาเตรียมไว้ช่วยพวกชาวบ้านในหน้าแล้ง
“คุณพี่ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอคะ”
“ต้องทำ พี่มีอาชีพที่มีหน้าที่ดูแลรับใช้ประชาชน ประชาชนคือนายและนายจ้างของพี่”
“น้องไม่เข้าใจ”
แสงยิ้มบางๆ เอ่ยด้วยความภาคภูมิใจในอาชีพข้าราชการ “เงินเดือนที่พี่ได้รับมาทุกเดือนคือเงินที่มาจากประชาชน เขาจ่ายภาษีมาให้รัฐบาล ดังนั้นประชาชนคือผู้มีพระคุณต่อพวกเราเหล่าข้าราชการ”
เดือนดาราแสร้งทำเออออ “น้องเพิ่งเข้าใจ เพราะตลอดมาพ่อแม่ป้าลุงและคนที่น้องรู้จักบอกว่าข้าราชการคือเจ้านายของพวกเรา ต้องกลัวเกรงนบนอบเข้าไว้”
“ผิดเลย ตรงกันข้ามข้าราชการต้องเคารพประชาชน ถ้าน้องสนใจเรื่องพวกนี้พี่จะค่อยๆสอนน้องให้เข้าใจ”
“ดีค่ะ น้องเรียนน้อยเพราะยากจนและ
โดนเอาเปรียบ น้องอยากมีความรู้ คุณพี่จะได้ไม่ต้อง อับอายผู้คนเวลาเขาพบปะน้องไงคะ”
“ขอบใจมาก...โน่นเรือนของน้องอยู่ข้างหน้านั่นแล้ว”
“เรือนของน้อง...แปลว่าไม่ใช่เรือนของคุณพี่เหรอคะ”
“เรือนของน้องก็คือเรือนของพี่ แต่ที่เราอยู่กันคนละเรือนเพราะที่เรือนของพี่มีไว้รับรองแขก มีไว้ทำงาน พักผ่อนยามเหนื่อยล้า ไม่ใช่มีไว้สำหรับมีความสุขและมีความรักกับคนที่พี่รักไงจ๊ะ อย่าไปคิดมาก”
“ค่ะ น้องไม่คิดมาก น้องเข้าใจที่คุณพี่พูดค่ะ”
ooooooo
หลังพาเมียหมาดๆเดินชมรอบบ้าน แสงก็พาเดือนดาราไปเรือนพักที่มีนางเอิบกับดาวเรืองมาต้อนรับ
สีหน้าท่าทางของนางเอิบกับดาวเรืองทำให้เดือนดารารู้ทันทีว่าทั้งสองตั้งตัวเป็นปรปักษ์ แต่เธอก็ไม่หวั่น แกล้งเชิญบ่าวทั้งสองมาพูดคุยถึงบนเรือน










