ตอนที่ 4
หลังจากกัสโซ่พาแคทกลับไปแล้ว สรัลเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของอลิสเตือนว่าถึงจะไม่พอใจ แต่ในเมื่อเป็นความสุขของลูก เราต้องยอมรับ เธอโทษว่าเป็นความผิดของเขาที่ชักจูงแคทมาให้ลีโอตั้งแต่แรก
“ผมอาจจะผิดแต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของเราเหมือนกัน” สรัลมองอลิสอย่างขอความเห็นใจ เพลงพิณมองกิริยาของเขาแล้วต้องเบือนหน้าหนี รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกอย่างแท้จริง อลิสไม่ได้ตำหนิอะไรเขาอีก ขอตัวไปดูลีโอก่อนแล้วเดินเข้าข้างใน สรัลพยักหน้าให้เพลงพิณเข้าบ้านไปก่อน แล้วหันไปประคองโมเน่ต์เดินตาม...
ครู่ต่อมา อลิสเข้าไปหาลีโอที่ยืนใจลอยอยู่ที่ระเบียงริมสวนด้วยความเป็นห่วง กลับพบว่าลูกแกร่งกว่าที่ตัวเองคาดคิด ถึงกระนั้นเธอก็อดเป็นกังวลไม่ได้อยู่ดี หากลูกมีอะไรไม่สบายใจหรือรู้สึกอ่อนแอ พูดกับเธอได้ทุกเรื่องตลอดเวลา อย่าลืมว่าเราเป็นทีมเดียวกันเราเคยสัญญากันไว้ตั้งแต่ตอนที่เขายังเล็กๆ
“ครับ ผมจำได้ไม่เคยลืม ขอบคุณครับแม่”...
เสร็จจากการเจรจากับแคท สรัลขอตัวไปทำงาน เพลงพิณคว้ากระเป๋าเอกสารของเขาจะตามไปส่ง เขากลับบอกว่าไม่ต้องให้เธอพักผ่อนอยู่บนห้องตามสบาย เธอรับคำเสียงเศร้าที่ต้องอยู่คนเดียว สรัลเห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของเธอ ทักว่าเป็นอะไรไป เธอฝืนยิ้มให้พร้อมกับส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณไปเถอะ”
สรัลหอมแก้มเพลงพิณแล้วผละจากไป เธอยืนส่งเขาที่หน้าประตูห้องจนลับสายตาขยับจะปิดประตู ต้องชะงักเมื่อเห็นน้ำขิงถือถาดใส่แผ่นประคบร้อนออกจากห้องออกกำลังกายมาวางไว้บนโต๊ะด้านหน้า เพลงพิณร้องทักว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าของโมเน่ต์ดีขึ้นไหม ได้ความว่าดีขึ้นกำลังหัดเดินอยู่
“ดีจัง ฉันขอเข้าไปดูหน่อยได้ไหม”...
ระหว่างที่น้ำขิงลังเลจะให้เพลงพิณเข้าไปเยี่ยมโมเน่ต์ดีหรือไม่ อลิสเห็นสรัลกับลีโอกำลังจะขึ้นรถไปทำงานด้วยกัน ก็ร้องเรียกไว้แล้วเข้าไปขยับเนกไทให้ทั้งพ่อและลูก แล้วยื่นแก้มไปให้ลูกหอม ลีโอหอมแก้มแม่เสร็จเดินไปขึ้นรถ สรัลขยับจะตามแต่เธอ
จับแขนเขาไว้ ลูกจูบแก้มแม่แล้ว พ่อจะไม่ทำบ้างหรือเหมือนเมื่อก่อนนี่ไง สรัลสวนทันทีแต่นี่ไม่ใช่เมื่อก่อน ดึงแขนตัวเองออกแล้วเดินไปขึ้นรถทิ้งให้เธอยืนหน้าชาอยู่ตรงนั้น
อลิสมองตามรถของสองพ่อลูกที่แล่นออกไปด้วยสายตาเจ็บช้ำ ปรานีเข้ามายืนใกล้ๆอย่างเป็นห่วง ทันใดนั้นมีเสียงแปดหลอดของโมเน่ต์ดังขึ้น “ออกไปเดี๋ยวนี้” ทั้งคู่ ตกใจมองเข้าไปในบ้านหน้าตาเลิ่กลั่ก
ooooooo
โมเน่ต์ยังคงแผดเสียงไล่ตะเพิดเพลงพิณ
ไปให้พ้นหน้าโดยมีน้ำขิงคอยปลอบให้ใจเย็นๆ แต่เธอไม่ฟังแถมหันมาเล่นงานน้ำขิงไปด้วยที่รู้ทั้งรู้ว่าตนไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ ยังกล้าพาเข้ามาในพื้นที่ของตนอีก อลิสเดินนำปรานีเข้ามาในห้องไม่ทันจะฟังอะไร ก็เล่นงานเพลงพิณว่าทำอะไรลูกสาวของตน
เพลงพิณแค่เข้ามาดูเท่านั้นไม่ได้ทำอะไร อลิสหาว่าเธอกลั่นแกล้งรู้ว่าโมเน่ต์ไม่ชอบขี้หน้ายังจะเข้ามาหา
“นี่มันจะดราม่ากันเกินไปหน่อยหรือเปล่าคะ” เพลงพิณโต้อย่างเหลืออด
สองแม่ลูกช่วยกันรุมต่อว่าเพลงพิณอุตลุด โดยเฉพาะโมเน่ต์หาว่าเพลงพิณเป็นต้นเหตุให้ตัวเองต้องเป็นแบบนี้ หากไม่มีเธอมากวนใจ สมาธิของตน
ก็คงไม่หลุดจนต้องบาดเจ็บแบบนี้ และยังโทษอีกว่าตั้งแต่ เธอเข้ามาในบ้านหลังนี้ก็มีแต่ปัญหา ตนได้แต่ภาวนาเมื่อไหร่เธอจะไปจากที่นี่สักที
“ดิฉันว่าคุณออกไปดีกว่าค่ะ ยิ่งคุณทู่ซี้อยู่ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง” ปรานีผสมโรงไล่เพลงพิณ
“ก็ได้ ยินดีด้วยนะคะที่อาการดีขึ้น”
โมเน่ต์ตวาดแว้ดให้เพลงพิณเอาความปรารถนาดีคืนไปตนไม่ต้องการ น้ำขิงมองเพลงพิณอย่างรู้สึกผิด เธอพยักหน้าให้เป็นทำนองว่าไม่เป็นไรแล้วหันหลังจะออกไป อลิสตะโกนไล่หลัง
“ถ้าฉลาดพอเธอคงรู้นะว่าการออกไปน่ะไม่ใช่แค่เดินออกไปให้พ้นประตูนี้เท่านั้น”










