ตอนที่ 15
ที่บ้านคลองบางหลวง ดาวเรืองตื่นแต่เช้ามืดใส่บาตรพระหลายรูปแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณบ่าวผู้ล่วงลับทุกคนไปสู่สุคติ
ส่วนที่พระราชวังเดิม พระเจ้าตากทรงเรียกขุนทหารทั้งหลายมาที่ท้องพระโรงเพื่อบอกเจตนารมณ์ของพระองค์ว่า
“เป็นความสัจแห่งตัวพ่อว่าความเพียรที่ได้กอบกู้เมืองครั้งนี้ไม่เคยปรารถนาสมบัติพัสถานอันใด หามิได้ปรารถนาแต่จะให้สมณชีพราหมณ์สัตว์โลกเป็นสุข อย่าให้เบียดเบียนกัน ให้ตั้งอยู่ในธรรมปฏิบัติเพื่อจะเป็นปัจจัยแก่โพธิญาณสิ่งเดียว ถ้าผู้ใดสามารถอยู่ในราชสมบัติและทำให้สมณชีพราหมณ์ ประชาราษฎรเป็นสุขได้ พ่อจะยกสมบัติให้บุคคลผู้นั้น แล้วพ่อจักไปสร้างสมณธรรมแต่ผู้เดียว หรือแม้ว่าผู้นั้นจักปรารถนาหัวของพ่อหรือหทัยของพ่อ ก็จักให้ผู้นั้นโดยง่ายดาย”
ทุกคนถวายบังคมพร้อมกัน หลังจากนั้นพระเจ้าตากดำเนินไปด้านหน้าพระราชวังพร้อมด้วยมหาดเล็กและขุนนาง ขุนทหาร พระสีหราชฤทธิไกรก็อยู่ด้วย พระเจ้าตากทรงยิ้มแย้ม สายพระเนตรมีเมตตาปรานี ทักขุนทหารว่า
“พระราชวรินทร์ ขอบใจที่มาช่วยงาน เป็นความดีของน้องชายของออเจ้า พระมหามนตรีผู้นี้”
“เป็นพระมหากรุณาธิคุณ...”
“ไม่ต้องพูดมากความอย่างนั้น แค่เป็นพระกรุณา ...แค่นี้พอ”
“พุทธเจ้าค่ะ” พระราชวรินทร์เปล่งเสียง
“ขอบใจนะพ่อสุจินดา ที่พาพี่ชายมาช่วยกันทำงาน”
“เป็นพระกรุณาพุทธเจ้าค่ะ”
เมื่อพระสีหราชฤทธิไกรกลับมายังเรือนของตนก็เล่าให้ดาวเรืองกับเยื้อนฟังว่า
“พระมหามนตรีท่านไปชวนพี่ชายท่านที่อยู่เมืองราชบุรีมารับราชการด้วย โปรดให้เป็นพระราชวรินทร์ เจ้ากรมตำรวจขวา ส่วนน้องชายท่านเป็นเจ้ากรมตำรวจฝ่ายซ้าย”
“น้องชายคนนี้เป็นคุณสุจินดาหุ้มแพรใช่ไหมเจ้าคะคุณพี่”
“ใช่ เธอเล่าว่าออกจากกรุงตั้งแต่กรุงยังไม่แตก มุ่งหน้าไปตะวันออกไปหาขุนหลวงตากโดยตรง เธอเป็นคนเก่งรบยิ่งนัก”
“บ่าวเคยเห็นเจ้าค่ะ รูปงามเชียวนะเจ้าคะ”
“พี่เยื้อนชม คงต้องงามจริงแท้แน่นอน”
“อุ๊ย งามจริงเจ้าค่ะ แต่คนผู้พี่ บ่าวไม่เคยเห็นเจ้าค่ะ”
“ก็งามพอกัน เข้มแข็งสมชาย เห็นว่าฝีมือรบใช่ย่อย ขุนหลวงท่านยังมีราชภาระอีกมากมาย อย่างเช่นปราบปรามพวกที่ตั้งเป็นชุมนุมต่างๆอีกหลายชุมนุม”
“ที่ไหนบ้างคะพี่ไกร”
“ที่เมืองพิษณุโลกนั้นก็ก๊กหนึ่ง ชุมนุมเจ้าพระฝาง เจ้านครศรีธรรมราชนั่นก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ ชุมนุมเจ้าพิมายที่กรมหมื่นเทพพิพิธไปเข้ากับเขา เขาให้ท่านเป็นนาย ท่านมุ่งหวังจะเป็นกษัตริย์”
“ปราบปรามกันเหนื่อยยากนะเจ้าคะ ไหวหรือเจ้าคะ”
“พี่เยื้อนอย่าดูแคลนเราคนไทยเลยจ้ะพี่ ดาวเรืองว่าต่อไปจะมีคนมาเข้าด้วยขุนหลวงอีกมากมาย จะใหญ่ที่สุดและจะปราบได้หมดทุกชุมนุมไม่มีใครสู้ได้เลย”










