ตอนที่ 15
มิสเตอร์เอจึงรู้ว่าของในเซฟเป็นของปลอม พยายามเคาะตามโต๊ะหาที่ซ่อนของจริง จนกระทั่งพบว่าอยู่ในลิ้นชักที่ทำซ้อนไว้อีกชั้น...มิสเตอร์เอเก็บชิ้นส่วนนกอินทรีของจริงแล้วเดินออกจากห้อง เป็นจังหวะที่รถผู้พันพิชิตกลับมา แม่บ้านที่เป็นลูกน้องรีบรายงาน มิสเตอร์เอจึงพากันกลับออกไป คมน์กับผู้พันฯเดินมาถึงหน้าห้อง ไม่เห็นทหารลูกน้องเฝ้าหน้าห้องก็รู้ว่าผิดสังเกต ชักปืนออกมาแล้วปรี่เข้าไปดูในห้อง
ดร.เนม กับ ดร.คิมเดินผ่านมา เขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น คมน์กับผู้พันฯยืนมองลิ้นชักที่ถูกรื้อ ทั้งสองครุ่นคิดว่ามีคนรู้ที่ซ่อนได้อย่างไร คมน์เริ่มสงสัยว่าเป็นมรกต จึงเปิดกล้องวงจรปิดดู แล้วก็เห็นว่ามิสเตอร์เอเป็นคนเข้ามาเอา คมน์เสียใจเพราะคิดว่ามรกตเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ
ooooooo
จางซูเหลียงได้รับรายงานจากสายที่แฝงตัวอยู่ในค่ายพยัคฆ์คำรณ ถึงคนที่ขโมยนกอินทรีไปได้ แววตาเขาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด...ด้านผู้พันพิชิตกำลังประชุมกับ ดร.คิม และ ดร.เนม เรื่องชิ้นส่วนอินทรีที่ถูกขโมยไป ถือเป็นภัยความมั่นคงจะต้องรีบระงับ ดร.คิมแนะนำว่า
“ต้องขัดขวางไม่ให้อินทรีทั้ง 5 ชิ้นไปรวมตัวกับชิ้นที่ 6 ครับท่านผู้พัน”
“แล้วชิ้นที่ 6 อยู่ที่ไหน”
“ชิ้นที่ 6 ต้องเก็บไว้บนดาดฟ้าตึก ในมุมที่สัมพันธ์กับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า”
ผู้พันพิชิตถามว่าที่ไหน ดร.คิมบอกไม่ได้ เพราะต้องใช้เครื่องมือในการตรวจหาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ดร.เนมรีบบอกว่าตนมี ผู้พันฯจึงขอให้ทั้งสองคนร่วมมือกัน
คมน์ชั่งใจอยู่นาน ตัดสินใจโทรศัพท์หามรกต หวังจะได้รับคำตอบว่าเธอมีแผนที่ดี แต่ด้วยมรกตยังอยู่บ้านอาทรหรือก็คือจางซูเหลียง เขาเห็นหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นชื่อชีพจึงส่งให้
“ผู้ชายที่คุณรู้จักโทร.มา”
มรกตรับสาย คมน์บอกว่าเราต้องเจอกัน เธอรับคำและว่าอยากเจอเขาอยู่พอดี...คมน์มาตามจุดนัดหมาย มรกตเดินออกมาเผชิญหน้า สายตาเธอมองเขาเป็นเพียงศัตรู ไม่มีความทรงจำของเธอกับชีพอีกเลย มีเพียงข้อมูลที่จางซูเหลียงป้อนให้ใหม่ เมื่อคมน์เอ่ยปาก
“ผมอยากได้นกอินทรีคืน ผมมีความจำเป็น...”
“ฉันรู้แล้ว...”
“พวกคุณมีแผนอะไรกัน กำลังช่วยผมอยู่ใช่ไหม”
“ฉันไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น” มรกตชักปืนออกมาเล็ง
“นี่มันอะไรกัน เราเป็นพวกเดียวกันนะ ถึงจะคนละสังกัด แต่ก็จุดหมายเดียวกัน”
“อย่าเพ้อฝัน ฉันไม่ใช่พวกเดียวกับคุณ” มรกตขยับจะยิง
“คุณหลอกใช้ผม สุดท้ายคุณก็ฉกนกอินทรีไปจริงๆ”
“จุดอ่อนของผู้ชาย ก็คือผู้หญิง”










