ตอนที่ 15
“ขออนุโมทนาด้วยค่ะ” ตลับยกมือไหว้
“สาธุค่ะ คุณปรารถเจ็บใจพี่น้องลูกหลานนัก
ทุกคนหวังแต่มรดกของคุณปรารถ ไม่ได้รักคุณปรารถด้วยความจริงใจ มรดกคุณปรารถมีเยอะแยะ เอาไปสร้างบุญสร้างกุศลดีกว่า”
ขณะเดียวกัน สิริกาญจน์กับสมเกียรติกำลังช่วยกันไขประตูห้องปรารถนา สาวใช้นำกุญแจสำรองมาวางให้เต็มถาด ไม่มีดอกไหนไขประตูได้ ทั้งสองสงสัยว่าปรารถนาจะเปลี่ยนกุญแจประตูใหม่ พอดีปราการโทร.มาแจ้งว่าปรารถนาไม่ได้มาที่โรงพยาบาล ไม่รู้ว่าไปไหน
เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ปรารถนาปลื้มปริ่มถึงกับน้ำตาซึม...ด้านสมเกียรติกับสิริกาญจน์นั่งหมดแรงอยู่ที่ห้องรับแขก เสียงรถปรารถนากลับมา สิริกาญจน์ทำทีเอาผลไม้ไปฝากเพื่อเลียบเคียงถามว่าเธอไปไหน...ปรารถนาแปลกใจที่แห่กันมา สิริกาญจน์ให้หยดย้อยออกไปก่อนเพราะมีเรื่องอยากคุยกับปรารถนา แต่ปรารถนาไม่ให้ไป
“นมย้อยต้องอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันผู้ประสงค์ร้ายต่อคุณปรารถ”
“แต่นี่เป็นผมกับสิรินะครับ”
ปรารถนาไม่สนใจบอกให้พูดธุระเลย สิริกาญจน์เปิดฉากถามว่าปรารถนาไปไหนมา
“ไปเซ็นยกมรดกทั้งหมดเพื่อสมทบทุนกับเงินที่คุณพี่ตลับประมูลเพชรเจิดจรัสได้เพื่อสร้างโรงพยาบาลให้คนยากจนค่ะ” ปรารถนาพูดชัดถ้อยชัดคำ
สองสามีภรรยาช็อกพูดไม่ออก ปรารถนาบอกหยดย้อยว่าทั้งสองดีใจจนพูดไม่ออก หยดย้อยขำเพราะทั้งสองถึงกับเป็นลมพับกันไป
ooooooo
สารกิจหงุดหงิดกังวลใจอยู่ในห้องทำงานไม่อยากพบปะใคร เดวิดเข้ามาหา เขาดีใจรีบปรึกษาเรื่องโดนทวงหนี้ เดวิดแอบยิ้มในหน้าแนะนำให้เขาถอนเงินครอบครัวออกมาอีกห้าร้อยล้าน สารกิจหวั่นใจกลัวถูกจับได้
“นั่นเอาไว้แก้ปัญหาทีหลัง แต่ตอนนี้คุณต้องการเอาเงินไปใช้หนี้ แล้วก็ลงทุนใหม่เพื่อให้ได้เงินเก่าคืน”
“ไม่เห็นได้คืนซักที ยิ่งเล่นยิ่งเสีย”
“ก็ตามใจคุณ ผมบอกได้แต่ว่าชีวิตคือการเสี่ยง”
สารกิจยิ่งกลุ้มใจ เดวิดยุว่าทีตลับเอาเงินไปประมูลเพชรเจ็ดสิบล้านเพื่อบริจาค แล้วไม่นานโรงพยาบาลก็จะเป็นของแมทธิว เขาควรจะโยกย้ายมรดกมาเป็นของตัวเองบ้าง สารกิจรู้สึกว่าเดวิดเป็นคนเดียวที่เข้าใจเขา... เดวิดยิ้มย่องกลับเข้าห้องทำงาน โมนาปรากฏตัวขึ้น
“ไปทำชั่วร้ายอะไรมาอีกล่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ถามตัวเองก่อนดีไหม”
“ในฐานะเพื่อน ฉันไม่อยากให้เธอถลำลึกไปกว่านี้”
“ฉันไม่ต้องการให้ใครมาตักเตือนหรือสั่งสอน”










