ตอนที่ 9
สบสมัยยอมพบสมศักดิ์ที่ร้านอาหารท่ามกลางผู้คนมากมายดีกว่าไปพบเขาที่เซฟเฮาส์ตามลำพัง สองคนต้องใส่หน้ากากเข้าหากันตบตาคนอื่น แต่แอบซุบซิบด่ากันไปมาอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
“เล่นละครให้มันเก่งๆหน่อยสิไอ้คนชั่ว”
“นังคนพล่านบ้าผู้ชาย ฉันอยากตบแกให้คว่ำ อย่ามาพูดพล่าม ว่ามาตามที่ตกลงกันไว้ ทำไมถึงไม่ทำตามสั่งให้สำเร็จ”
“ทำไมแกถึงรอคอยไม่เป็น แกนึกว่ามันคือสิ่งง่ายดายมากนักเหรอ ถ้ามันง่ายดายมาก แกมายืมมือฉันทำไม ไอ้หน้าตัว...”
“หยุด!! นังกุ๊ย”
“ไม่หยุด ไอ้ถ่อย ไอ้อันธพาล เอาตำแหน่งราชการใหญ่โตบังหน้าแต่หากินแบบโจร แกไม่พอใจก็บีบคอฉันตรงนี้สิ”
“แกอย่ายั่วฉัน ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องที่ต้องจัดการร่วมกัน ฉันฆ่าแกตรงนี้แน่ๆ”
“ฟังนะไอ้เลว ฉันจะจัดการเรื่องแกให้เรียบร้อยในอีกไม่นานนี้แน่ ถ้าแกรู้จักคำว่ารอ”
“หยุดจิกด่าฉันแล้วฟัง ถ้าแกไม่ทำตามที่พูดไว้ในสองอาทิตย์ ฉันไม่ไว้แกแน่ ฉันรู้ว่ายังไงแกก็ไม่อยากตายจนกว่าจะหาผัวได้ครบร้อย นังสำส่อน”
อ๋องมาพักหนึ่งแล้ว แอบถ่ายรูปและบ่นเบาๆกับตัวเองว่า มาพลอดรักหรือมาด่ากันแน่ ทันใดเห็นนุดีเดินไปไหว้ทั้งสองคน อ๋องตกใจกลัวนุดีจอมจุ้นทำเสียเรื่อง
“สวัสดีค่ะ มาฉลองความสำเร็จอะไรกันคะ นุดีรอการ์ดแต่งงานอยู่นะคะ”
สองคนไม่พอใจที่นุดีเสนอหน้า สมศักดิ์ตอบห้วนๆว่ายังไม่ถึงเวลา ขณะที่สบสมัยก็เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่งว่า ถึงเวลาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
จู่ๆสมศักดิ์ลุกพรวดดึงแขนสบสมัยและชวนกลับ สบสมัยไม่กล้าขัดเพราะนุดีจับจ้องมองอย่างสอดรู้ จำต้องโน้มคอสมศักดิ์ลงมาหอมแก้มแต่แอบกระซิบว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาโมโหเกรี้ยวกราด พูดจบก็เดินควงกันออกไป ทิ้งให้นุดีหงุดหงิดเพราะโดนอ๋องต่อว่าทำงานกร่อย แต่ไม่วายบ่นว่าท่าทางสองคนนั้นดูแปลกๆ เหมือนผิดใจกัน
ooooooo
ครรชิตง้องอนขวัญแก้วอยู่นานกว่าเด็กน้อยจะยอมรับฟังว่าเราต้องรักและเมตตาเพื่อนมนุษย์
“หนูเข้าใจซาบซึ้งมากแล้วค่ะ แต่หนูฝืนใจตัวเองไม่ได้ กลัวว่าพ่อวินจะรักเขามากกว่าหนู”
“พ่อวินไม่รักใครมากกว่าหนู เขารักหนูมากที่สุดในโลก พ่อครรชิตก็รักหนูมากที่สุดในโลก”
“หนูได้ยินพวกพี่บัวตอง พี่บัวผันบอกว่าผู้ชายพอแต่งงานหรือมีแฟนก็รักแฟนมากที่สุดในโลกทั้งนั้น”
“แหม...เด็กคนนี้ พ่อครรชิตจะบอกให้ครับ ความรักต้องแยกแยะ รักลูก รักแฟน มันต่างกัน รักลูกไม่มีวันเลิกรา แต่รักแฟนมีวันเลิกรา”
“โอเคค่ะ หนูจะพยายามเข้าใจ”










