ตอนที่ 5
แล้วจู่ๆวันต่อมา ไฝเจ้าของบ้านที่ย่ากับเพชรเช่าอยู่ก็มาไล่ย่ากับพิมออกจากบ้านเพราะณรงค์ไปปล่อยข่าวว่าเพชรเป็นเอเย่นต์ค้ายา โดยมีวุธยืนกินไอติมคุมลูกน้องอย่างสบายอกสบายใจ
รินทร์ประกาศว่าจะแจ้งความตำรวจข้อหาบุกรุก แก้วตาก็คว้าของใกล้มือเป็นอาวุธเข้าขวางพวกที่มาขับไล่และโยนข้าวของออกจากบ้าน ย่าบอกว่าพอเถอะบ้านของเขาไม่อยากให้พวกหนูมาเดือดร้อนด้วย
พิมกอดย่าร้องไห้ รินทร์กับแก้วตาได้แต่เจ็บใจที่ทำอะไรพวกมันไม่ได้
ยุทธซื้อข้าวเย็นไปให้เพชรที่โรงพักเล่าเรื่องไฝบุกไล่ย่ากับพิมออกจากบ้าน ตนไปเอาเงินค่าข้าวที่บ้านครูหมาย เห็นย่ากับพิมอยู่ที่นั่น เพชรไม่ต้องห่วงเพราะครูหมายกับครูสร้อยช่วยดูแลอยู่
เพชรเครียดที่ทุกคนพลอยเดือดร้อนกันไปหมด ยุทธปลอบว่าเรายังพอมีทางออก
“ถ้าเอ็งหมายถึงพี่เอ...”
ยุทธบอกว่าเราไม่มีทางอื่นแล้ว เพชรหันไปทุบผนังห้องขังอย่างอัดอั้น
รินทร์กับแก้วตาอยู่เคียงข้างย่าพุดกับพิมตลอดเวลา ย่าถามว่าเพชรเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ รินทร์บอกว่าย่าไม่ต้องห่วง ยังไงตนก็ต้องหาทางช่วยให้ถึงที่สุด
เมื่อไฝไล่ย่าพุดกับพิมออกจากบ้านแล้วก็โล่งใจตนจะได้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกค้ายาตามที่วุธบอกอีก วุธบอกว่าบ้านยังว่างอยู่ตนขอเช่าต่อเลย
“ก็ดีสิ เอ็งมาเช่าป้าก็วางใจได้ว่าจะไม่มีเรื่องเสียหายอย่างไอ้เพชร สบายใจกันทั้งสองฝ่าย”
วุธกระหยิ่มที่แผนของตนสำเร็จอย่างง่ายดาย
ทุกขั้นตอน ณรงค์ชมวุธว่าทำได้ดีมาก นอกจากจะทำให้พวกนั้นไม่มีที่ไปแล้ว เราก็ยังได้ที่พักของโดยไม่มีใครสงสัยด้วย
วุธบอกว่าเสี่ยต้องยิ้มออกแน่ที่ได้แก้แค้นเพชรแถมยังได้ที่ปล่อยของใหม่อีก ณรงค์กระหยิ่มยิ้มย่องบอกวุธว่าเราต้องสร้างผลงานให้เข้าตาเสี่ย เสี่ยไว้ใจเมื่อไหร่เราก็รวยเมื่อนั้น และถ้าเสี่ยไว้ใจเมื่อไหร่เรื่องคุณปริมก็ไม่น่ามีอุปสรรค
ooooooo
เมื่อเอกลับไปแล้ว เพชรนอนไม่หลับ ลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าคิดหนัก
จนเช้าเพชรลืมตาขึ้น เห็นเอกำลังยืนซดกาแฟมองตนอยู่ เอเขย่าขวัญเพชรว่า
“เห็นสารวัตรว่าจะส่งฟ้องแล้วนี่ เอ็งคงได้เข้าไปกินข้าวแดงสมใจแล้ว” เพชรคิดๆแล้วบอกว่าตนไม่รบกวนพี่ดีกว่า บอกว่าพี่อย่าเหนื่อยกับตนเลยครับ ตนตัดสินใจแล้ว
“ถ้าคิดว่าความดีมันจะช่วยเอ็งได้ เอ็งก็กลับไปนอนฝันหวานต่อเถอะ ข้าจะไม่เสียเวลากับเอ็งอีกแล้ว” เอย้ำก่อนเดินออกไปอีกว่า “ข้ายื่นมือมาช่วยแต่เอ็งกลับปัดมือข้าออก งั้นก็ต่างคนต่างไปก็แล้วกัน...ถ้าเอ็งอยากดีก็ดีให้ตลอดล่ะไอ้เพชร อย่าให้ดีแตกเสียก่อน”
เพชรโล่งอกที่ตนปฏิเสธเอได้ แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่ต้องเผชิญต่อไปแล้วก็อดหวาดหวั่นไม่ได้










