ตอนที่ 7
“คนอื่นว่ายังไงครับ” ที่ประชุมไม่มีใครคำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภค ทุกคนคิดแต่จะได้ผลกำไรเท่านั้น
ปัทม์เล่าความรู้สึกในขณะนั้นว่า ตนเหมือน
น้ำท่วมปากไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เพราะวิธีนี้เหมือนเป็นการมอมเมาเด็ก แต่ไม่มีใครเห็นความสำคัญคิดแต่อยากให้ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่ตนเสียงเดียวช่วยอะไรไม่ได้เลยจริงๆ แม้แต่รสสุคนธ์ยังมากล่อมว่าเขาต้องฟังเสียงในที่ประชุม และเด็กทั่วโลกเขาก็ดื่มกัน
“แต่ต้องไม่ใช่สิ่งที่ผมทำ!!” ปัทม์โพล่ง รสสุคนธ์ย้ำว่านี่เป็นเรื่องทำธุรกิจ การตัดสินใจในที่ประชุมจะเป็นประโยชน์ต่อเราทุกคน “ของพวกคุณมากกว่าไม่ใช่ผม...ผมขอตัว”
ปัทม์บอกนักข่าวว่านี่เป็นครั้งแรกที่ทำงานแล้วเจอปัญหาขัดแย้งกับตัวเอง ตอนนั้นตนถามตัวเองว่า
“กูทำอะไรอยู่เนี่ย?”
ในที่สุดปัทม์ตัดสินใจไปหาครูอัญที่บ้านพร้อมกับข้าวสองสามอย่าง เล่าความอึดอัดใจให้ฟัง ครูอัญปลอบว่าอย่าคิดมากเราทำไปตามหน้าที่และต้องอดทน ปัทม์ถามว่าอดทนไปเพื่ออะไรครับ ครูบอกว่าปัทม์มีหน้าที่การงานที่ดีแล้ว ก็ต้องรักษามันไว้ ไม่ทำเพื่อ
ตัวเองก็ต้องทำเพื่อคนที่ตัวเองรัก ยกตัวอย่างว่า ดูหนูตุ่นสิตอนนี้เก็บเงินเพื่อปรับปรุงบ้านหลังนี้ใหม่ ย้ำกับปัทม์ว่า
“หนูตุ่นเขาทำทุกอย่างเพื่อตัวเขาและตัวครู นี่ก็ได้อารักษ์เขาช่วยออกแบบให้”
พอดีหนูตุ่นกับอารักษ์เดินเข้ามา อารักษ์ถือถุงกับข้าวมาเต็มสองมือต่างกับตัวเองที่เอามาไม่กี่อย่าง อารักษ์ชวนปัทม์อยู่กินข้าวด้วยกันแล้วเดินเข้าครัวไปจัดอาหารเหมือนบ้านของตัวเอง
ปัทม์เล่าความรู้สึกขณะนั้นให้นักข่าวฟังว่า
“ผมรู้สึกว่าช่องว่างระหว่างผมกับหนูตุ่นห่างกันเรื่อยๆตั้งแต่ตอนนั้น เป็นครั้งแรกที่หนูตุ่นไหว้ผม และผมจำต้องรับไหว้ ตอนนั้นผมคิดว่าผมคงต้องเริ่มต้นชีวิตคู่กับเพื่อนสนิทผมคนนั้นอย่างแน่นอน ถ้าชีวิตไม่เกิดอุปสรรคอีกครั้ง”










