ตอนที่ 7
“มี แต่ต้องใช้เวลาแล้วก็ความร่วมมือร่วมใจของคนที่นี่” ปัทม์บอกว่าตนจะทำให้เต็มที่ “จะไหวหรือท่าทางดูซื่อๆ ประสบการณ์ก็ไม่มี จะทำยังไงให้บริษัทนี้มันกลับคืนมาได้” ซ้ำยังบ่นไตรคุณว่า “ท่านประธานใจร้อนเกินไปหรือเปล่าที่ตัดสินใจแบบนี้ หรือที่เลือกไอ้หนุ่มนี่มาเพราะอยากจะไล่ไอ้ลูกชายไม่เอาไหนกันแน่”
“แล้วผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเองครับ ว่าผมจะพาบริษัทนี้ไปได้ไกลแค่ไหน” ปัทม์ตอบคำปรามาสของธงอย่างมั่นใจ ท้าทาย แต่พอคุยกับรสสุคนธ์สองคน ปัทม์ยอมรับว่า “ต่อหน้าคนอื่นผมบอกว่าผมทำได้ เอาจริงๆนะ ผมยังไม่มั่นใจตัวเองเท่าไหร่เลย”
“ปัทม์เชื่อเถอะว่าปัทม์ทำได้อยู่แล้ว และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นรสกับทยุตก็จะคอยช่วยเหลือเอง”
รสสุคนธ์สบตาและกุมมือปัทม์ให้กำลังใจ ปัทม์เอามืออีกข้างกุมมือเธอไว้อย่างมีกำลังใจ
ooooooo
ฝ่ายหนูตุ่นกำลังสนุกและเพลิดเพลินกับการทำร้านขนมไทยที่ดีวันดีคืน โดยมีอารักษ์เป็นคนสนิทที่ทุ่มเทออกแบบโลโก้อย่างสวยงามและตั้งชื่อร้าน “ขนมไทยจงรัก”
เมื่อพฤกษ์กับครูอัญเห็นต่างก็ชอบและชมว่า
สวยดี ครูอัญบอกว่าชื่อมีความหมายดีถ้าพี่จงยังอยู่เขาคงดีใจ อารักษ์เล่าที่มาที่ทำให้ตนออกแบบและตั้งชื่อร้านว่า
“หนูตุ่นเคยเล่าให้ฟังเรื่องของคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้หนูตุ่น ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมากที่ใครคนหนึ่งสานต่อความปรารถนาของใครอีกคนหนึ่ง” หนูตุ่นแซวแทรกว่าใช้ภาษาซะเป็นนิยายเลย อารักษ์บอกว่า “เพราะคำนี้ไงมันเลยเป็นจุดเริ่มต้นของการออกแบบทั้งหมด”
“พอเถอะ แค่นี้เราก็ปลื้มจนไม่รู้จะขอบคุณนายยังไงแล้ว...นายต้องคิดค่าออกแบบมาด้วยนะ”
“ไม่เป็นไร เราอยากทำให้”
หนูตุ่นไม่ยอม อารักษ์จึงขอเป็นได้กินขนมฟรีไปตลอดชีวิตก็พอ หนูตุ่นว่ามากไป ครูอัญหัวเราะเร่งให้รีบไปทำงานกันเถอะเดี๋ยวจะสาย
พฤกษ์เห็นอารักษ์ปฏิบัติต่อหนูตุ่นและพูดเป็นนัยบ่อยๆ เมื่ออยู่กับอารักษ์ตามลำพังเลยถามย้ำให้ตอบตรงๆว่าคิดยังไงกับหนูตุ่น
“ผมชอบหนูตุ่น” พฤกษ์ชมว่าดีตรงแบบนี้ลุงชอบ “แต่หนูตุ่นไม่ได้คิดกับผมแบบนั้นนะครับ”
อารักษ์เล่าถึงอดีตที่ตนเริ่มจีบหนูตุ่น ทั้งวาดรูปหนูตุ่นให้ ซื้อขนมมาฝาก แต่หนูตุ่นก็แจกเพื่อนๆกินหมด จนวันนี้ตนก็ยังหวังว่าสักวันหนูตุ่นจะใจอ่อนและยอมเปิดโอกาสให้ตนบ้าง
ครูอัญก็ชอบแบบที่อารักษ์ออกให้มาก คืนนี้ก็ชมกับหนูตุ่นว่าสวยดี อารักษ์เก่ง หนูตุ่นคุยอวดว่าเขาเป็นคนออกแบบมือ 1 ของออฟฟิศเลยล่ะ ครูอัญที่สังเกตท่าทีของอารักษ์มาตลอดเลยถามว่าหนูตุ่นคิดยังไงกับอารักษ์ หนูตุ่นบอกว่าเรารู้จักกันมานานรู้ไส้รู้พุงกันหมด เราสนิทกันแบบเพื่อนและตนก็ยังสนุกกับงานอยู่
ooooooo
เพราะปัทม์เชื่อว่าผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ต้องเรียนรู้จากการทำงานก่อน เขาจึงทำงานอย่างถึงลูกถึงคน เดินตลาดและช่วยส่งของตามร้านค้า ทำงานอย่างไม่มีวันหยุด










