ตอนที่ 15
เมื่อบุษบาบรรณหนีออกจากไร่ ดินแดนพยายามตามหาเธอทุกที่ที่คิดว่าจะไปแต่ยังไร้วี่แวว พ่อแม่พี่น้องของเขาต่างอยู่ไม่เป็นสุขที่เห็นเขาตกอยู่ในสภาพคนอมทุกข์ และไม่มีใครกล้าบอกไปทางพ่อแม่ของบุษบาบรรณเพราะกลัวเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่
ภูวดลขออนุญาตเอกภพให้บอลอยู่เป็นเพื่อนดินแดนไปก่อนแม้จะลาออกแล้ว เอกภพไม่ขัดข้องแต่ไม่วายพูดแก้เก้อว่าตามใจภูวดลเพราะเขาเป็นกรรมการผู้จัดการไร่ภูผา
เรื่องบอลกับฟ้าใสคบกัน เอกภพหวงและห่วงลูกสาวเพราะคิดว่าวัยยังไม่เหมาะสม แต่ถ้าสองคนทำได้ตามที่อักษรบอกคือต้องอยู่ในสายตาพ่อกับแม่ เอกภพก็พอหยวนๆให้ได้ ส่วนภูวดลกับสริยานั้นไม่มีอะไรต้องห่วง อยู่ที่ชาญชัยคนเดียวว่าจะไฟเขียวหรือยัง เพราะภูวดลเพิ่งพูดกับสริยาและจะให้พ่อของเขามาคุยกับพ่อของเธอให้เป็นเรื่องเป็นราว
ดินแดนไปเฝ้าหน้าบ้านอังคณาทุกคืนเพราะแน่ใจว่าบุษบาบรรณต้องมีการติดต่อเพื่อนคนนี้ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ สองคนคุยกันทางอีเมล แต่กระนั้นบุษบาบรรณก็ไม่ยอมบอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
วันหนึ่งพ่อแม่และน้องของบุษบาบรรณดั้นด้นมาถึงไร่ภูผาด้วยความคิดถึงเพราะระยะหลังมานี้เธอหายหน้าหายตาและไม่ได้ติดต่อกันเลย
ดินแดนปกปิดไม่ได้จำต้องพูดความจริงออกไป นฤมลแม่ของบุษบาบรรณโกรธมากเพราะการที่ดินแดนโกหกว่าเป็นหัวหน้าคนงานเหมือนดูถูกกันอย่างแรง
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูก ผมผิดเอง”
“กลัวขนาดนั้นจะคบกันทำไม ถึงครอบครัวเราจะจน แต่เราก็ไม่เคยโกงใครหรือขอใครกินนะ”
“เบาๆแม่มล ดังไปถึงเมืองกาญจน์แล้ว” กำนันปรามเมีย
“ไม่เบา ทำไมฉันจะต้องอาย ในเมื่อเขาดูถูกเราขนาดนี้ พี่กำนันเข้าข้างเขาทำไม”
“ไม่ได้เข้าข้าง”
“เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้บอกบุษบา”
“แล้วตอนนี้บุษไปอยู่ที่ไหน เราจะติดต่อเขาได้ยังไง”
ดินแดนส่ายหน้าบอกว่าตนกำลังพยายามอยู่และสัญญาจะตามหาบุษบาบรรณให้เจอ ใบบัวคาดว่าพี่สาวตนคงโกรธมาก ถ้าไม่โกรธคงไม่หนีไปแบบนี้แน่
“คุณไม่น่าทำแบบนี้กับลูกสาวฉันเลย ฉันไม่เคยเลี้ยงลูกฉันให้คิดหวังแต่เงินทองของคนอื่น ทำแบบนี้มันดูถูกกันชัดๆ”
“ช่างเถอะแม่มล เรื่องมันแล้วไปแล้ว งั้นเราก็กลับกันดีกว่า”
“อย่าเพิ่งกลับเลยครับ อยู่พักผ่อนสักวันสองวันก่อน ให้หายเหนื่อยแล้วค่อยไปจะดีกว่า”










