ตอนที่ 12
เอนเสียงเครียดใส่ทำไมถึงพูดแบบนั้น เดือนสิบโทษว่าเป็นเพราะเขา ดวลถึงได้มีสภาพแบบนี้ เขาขอร้องอย่ามาโทษกันดีกว่า โลกความจริงก็โหดแบบนี้ มันอยู่ที่ใครจะแข็งแรงกว่า เดือนสิบด่าเขาว่าเลวมากพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร เอนเผลอหลุดปาก ถึงตนจะเลวแต่ก็ไม่ติดยาเหมือนน้องชายของเธอ
“เอนไม่เล่นยาเหรอ แล้วทำไมดวล...”
“ก็มันโง่เล่นเอง ผมแค่มีของ พวกพี่มีครอบครัว มีพร้อมทุกอย่างแต่ผมไม่มีอะไรเลย ผมต้องรักตัวเอง ไม่รักแล้วใครจะมารัก ผมไม่ทำร้ายตัวเองหรอก” เอนนึกย้อนไปถึงอดีต ตอนนั้นที่เขายังเรียนหนังสืออยู่โรงเรียนเดียวกับดวล เขามักจะแอบดูครอบครัวของดวลที่ดูอบอุ่นด้วยความอิจฉา ดวลมีทุกอย่างทั้งเพื่อนดี เรียนดีและเป็นคนดี เขาจึงคิดจะดึงดวลให้ลงมาอยู่ในจุดที่เขาอยู่คือไม่มีใครสนใจแม้แต่พ่อแม่
ครั้งแรกที่เจอดวล เอนเห็นดำเกิงขับรถมารับเขาหลังเลิกเรียนโดยมีสกาวกับเดือนสิบนั่งมาด้วย ดำเกิงออกจะหงุดหงิดเมื่อดวลออกมาช้าแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ดวลเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหงุดหงิดนั้น
“ทำไมออกมาช้านักล่ะ รถมันจะติดเอานะ” ดำเกิงต่อว่าพอเป็นพิธี
“ขอโทษครับพ่อ วันนี้มีคัดตัวนักกีฬา” ดวลว่าแล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งด้านหลังคู่กับพี่สาวซึ่งถามว่าคัดตัวเป็นอย่างไรบ้าง เขายังไม่รู้เหมือนกัน สกาวส่งกล่องผลไม้ให้ลูกๆที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“กินผลไม้ก่อนนะ เดี๋ยววันนี้พ่อจะพาไปหาอะไรกินกัน”
ดวลส่งเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจ เอนมองครอบครัวสุขสันต์ของดวลด้วยความริษยา
ooooooo
เอนจับตามองครอบครัวสุขสันต์ของดวลทุกวันทั้งตอนมาส่งและมารับเขา ครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรัก เอื้ออาทรและห่วงใยกัน ทำให้เส้นริษยาของเอนแตกซ่าน และวันหนึ่งก็สมใจเมื่อดำเกิงขับรถมาส่งดวลที่โรงเรียน แล้วมีเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ 2 คน ปรี่มากระชากประตูฝั่งคนขับออกแล้วดึงกุญแจรถไป
“คุณดำเกิงใช่ไหมครับ คุณขาดส่งงวดรถมาเกินเวลาที่กำหนดแล้ว เราคงต้องทำการยึดรถคุณนะครับ”
ดำเกิงหน้าซีดเผือด เด็กนักเรียนที่เดินผ่านไปมามองเขาเป็นตาเดียวกัน ดวลอับอายมากรีบเดินหนีเข้าโรงเรียน ขณะที่เอนแอบยิ้มสะใจ...
เดือนสิบบ่นอุบ ถ้าดวลไม่คบเพื่อนเลวๆแบบเอนก็คงไม่ต้องลงเอยอย่างนี้ เที่ยงวันไม่เห็นด้วย ถ้าดวลเข้มแข็งพอ ต่อให้เจอใครหรืออะไรมาชักนำให้เข้าสู่ทางมืด ก็คง ไม่หลงเดินทางผิด เธอคิดพิจารณาแล้วเป็นจริงอย่างที่
เขาว่า เธอมัวแต่เสียใจจนลืมมองในมุมกลับ ขอบคุณที่เขาช่วยเตือนสติ
“ผมพูดไว้ในอนาคตสำหรับลูกของเรา...ผมพูดจริงๆนะครับ ผมจริงจังกับคุณเดือน ผมมองไปถึงอนาคตของเรา ไม่ได้มองแค่วันพรุ่งนี้”
“แต่ ปัญหาของเดือนเยอะเหลือเกินกลัวว่า...”
เที่ยงวันขอร้องเธออย่าเอาเขาไปเปรียบกับใคร ถ้าปัญหาเธอเยอะเขาอยู่นี่พร้อมจะช่วยเหลือและเราจะผ่านมันไปด้วยกัน เธอดีใจมาก นี่เขาจะรอให้เธอเคลียร์ปัญหาก่อนหรือ เขาพยักหน้า นานแค่ไหนก็จะรอ เธอขอบคุณเขาที่ไม่คิดจะทิ้งกัน แล้วยกสร้อยที่เขาให้ซึ่งสวมไว้ที่ข้อมือให้ดู เขายิ้มดีใจที่เธอยอมสวมมันสักที...










