ตอนที่ 15
ตะวันกับพิมพ์สายปรับความเข้าใจกันได้ท่ามกลางความโล่งใจและดีใจของผู้เป็นพ่อทั้งสองฝ่าย...
แต่แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝัน มีกระสุนปืนปริศนายิงใส่ตะวันร่างทรุดฮวบต่อหน้าพิมพ์สาย
ยองตะมุตาไวเห็นมือปืนคือปลัดอรรถที่ขี่ม้าหนีไปพร้อมผู้ชายอีกคน แต่เขาไม่ได้ติดตามไปเพราะต้องช่วยเหลือตะวันอย่างปัจจุบันทันด่วน
ตะวันโดนกระสุนปืนอาคมยิงในจุดสำคัญของร่างกายอาการน่าเป็นห่วง พิมพ์สายจะพาตะวันไปโรงพยาบาลแต่ยองตะมุบอกว่าไม่มีประโยชน์ ตะวันเป็นเสือสมิงโดนกระสุนอาคมมีทางเดียวที่รักษาได้ต้องใช้ของแก้
“ของอะไรคะ”
ยองตะมุนึกถึงวันหนึ่งก่อนหน้านี้ตอนคุยกับจอปาที่ได้หนังเสือมาจากคล้อย จอปาบอกว่าพอจะรู้ความลับเกี่ยวกับของสิ่งนี้บ้าง แม้จะไม่มากแต่อย่างน้อยมันสามารถรักษาและชุบชีวิตเสือสมิงที่บาดเจ็บสาหัสได้
หลังจากเล่าให้สวัสดิ์กับพิมพ์สายฟังแล้ว ยองตะมุ
บอกว่าเราต้องรีบพาตะวันกลับไปเมืองเยเพราะจอปาอยู่ที่นั่น
“งั้นจะรออะไร ไปเลยสิ”
“เราจะไปยังไงคะ”
“ผมรู้ทางลัดครับ แต่ไปกันเท่านี้ถ้าไอ้ปลัดนั่นมันพาคนดักเล่นงานเราไปไม่ถึงแน่”
“แวะบ้านฉันก่อน เอาคนของฉันไป แล้วขอกำลังเจ้าหน้าที่จากผู้กอง เท่านี้คงพอ”
“ครับเสี่ย” ยองตะมุรับคำแล้วประคองตะวันไปที่รถ
ส่วนม้าสองตัวที่วิ่งหายเขาไปในป่า คนบนหลังม้าคืออรรถกับไอ้ดำสมุนของเสือคล้อยนั่นเอง
อรรถตัดสินใจร่วมมือกับเสือคล้อยเพื่อกำจัดตะวัน โดยใช้เงินทองของมีค่าที่ให้ดอนแอบกลับไปเอาที่บ้านมาเป็นค่าจ้างไอ้พวกเสือหิวทั้งหลาย เมื่อเสร็จภารกิจสองคนขี่ม้ากลับมาหาเสือคล้อยที่ปักหลักอยู่บริเวณบ้านของดำ
“ฉันทำอย่างที่เสือคล้อยบอกทุกอย่าง ยิงไม่ต้องให้ตายทีเดียว แต่มันจะตายเพราะพิษหัวกระสุนอาคมอย่างทรมานอย่างที่เสือคล้อยพูด”
“ใช่...มันอยู่ได้ไม่เกินสองคืนแน่”
อรรถยิ้มพอใจ เดินไปทางรถที่ดอนยืนรอ แค่เพียงเจ้านายพยักหน้าดอนก็หยิบซองเงินมาส่งให้ อรรถรับซองเงินเดินกลับมาหาคล้อย
“นี่สามแสน ค่าหัวกระสุนที่ฝังอยู่ที่ร่างไอ้ตะวัน และนี่อีกแสนสำหรับดำและพวกที่เป็นธุระชี้เป้าให้”
“พวกมันต้องหาทางรักษาไอ้ตะวันแน่ๆ มีที่เดียวที่มันจะไป”
“ที่ไหน”
“เมืองเย หนังเสือหายไป ของสำคัญแบบนั้นมันต้องอยู่ที่นั่น ถ้าพวกมันเคลื่อนไหวไปที่เมืองนั้นแสดงว่าใช่”










