ตอนที่ 14
พูดแล้วป้องกุลเดินเลี่ยงไปในห้องครัว เกศิริน มองลูกชายสลับกับมองไปทางประตูรั้วอย่างลังเล
อาริสากดกริ่งไม่ยอมเลิก เขมเห็นว่าไม่ได้ผล จึงบอกเพื่อนว่าพอเถอะ
“แต่ฉันว่าป้องอยู่บ้าน”
“ถ้าอยู่...แต่เธอกดกริ่งขนาดนี้เขายังไม่มาเปิดแสดงว่าเขายังไม่อยากเจอเธอตอนนี้ หรือไม่ป้องอาจไม่อยู่บ้าน แต่อยู่กับเกศก็ได้ ปล่อยเขาก่อน...เชื่อฉัน”
อาริสามองเขมแล้วมองเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าเจ็บปวดเสียใจ ส่วนเกศิรินเมื่อได้ยินเสียงกริ่งเงียบลง ก็เดินไปถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง
“ป้องรักอาริสามากใช่ไหม”
ป้องกุลไม่ตอบ แต่มองแม่ด้วยสายตาเจ็บปวด... แล้วหันหน้าหนีไม่ให้แม่เห็นว่าตัวเองจะร้องไห้ พูดออกมาด้วยความรู้สึกอัดอั้นคับแค้นใจ
“รักเหรอครับ แม่ก็รู้ว่าผมไม่รู้จักคำว่ารัก...และแม่อย่าถามว่าเขารักผมไหม ผมไม่เคยคาดหวังให้ใครมารักผมอยู่แล้ว เพราะขนาดพ่อแม่ของผมยังไม่รักผมเลย แล้วใครจะรักผมจริง”
ป้องกุลเดินหนีขึ้นข้างบนเพื่อไม่ให้แม่เห็นน้ำตาที่กำลังเอ่อท้น...เกศิรินรับรู้ที่ลูกต้องมาเจ็บปวดเสียใจ เพราะอาริสา แน่นอนว่าคนอย่างเธอไม่มีวันยอม สบถออกมาอย่างอาฆาตมาดร้าย
“ริสา...เธอคิดผิดแล้วที่ทำกับลูกฉัน!!”
ooooooo
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาอาริสาเพียรโทร.หาป้องกุลทุกเวลาจนแทบไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรอย่างอื่น ทั้งกลางวันกลางคืนมีแต่ความเศร้าหมองเพราะเขาไม่รับสาย แถมบางครั้งยังตัดสายและปิดเครื่องหนี
หลายวันผ่านไปทุกอย่างก็ยังคงเดิม อาริสาไม่สามารถติดต่อป้องกุลได้เลย บ่อยครั้งที่เธอไปยืนกดกริ่งอยู่หน้าบ้านเขาแต่ไม่มีการตอบรับหรือสัญญาณใดๆว่าเขาจะออกมาพบ
ความเป็นไปของอาริสาที่มีแต่ความทุกข์ใจทำให้เขมทนเห็นสภาพเพื่อนรักแบบนี้ต่อไปไม่ไหวจึงหาทางทำให้เพื่อนสบายใจ
“ได้นอนรึยังริสา”
“ป้องไม่โทร.หาฉันหลายวันแล้วนะ”
“ไปวัดกันไหมริสา ทำบุญให้สบายใจบ้างดีกว่านั่งจ้องมือถืออย่างนี้”
เขมเตรียมดอกไม้และถังสังฆทานก่อนพาอาริสามุ่งหน้าไปวัดด้วยรถแท็กซี่โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า โดนเกศิรินขับรถสะกดรอยตามตั้งแต่ออกจากบ้าน
แท็กซี่แล่นมาจอดบริเวณลานจอดรถภายในวัด เขมกับอาริสาลงจากรถโดยถือตะกร้าใส่ดอกไม้และถังสังฆทานมาด้วย
“เดี๋ยวเราไปถวายสังฆทานแล้วค่อยไปให้อาหารปลากันนะ”
อาริสาพยักหน้าตามใจ เขมจูงมืออาริสาเดินไปทางศาลาวัด ส่วนอีกด้านหนึ่งของลานจอดรถเกศิรินก็ถึงแล้วเหมือนกัน สายตาเธอจับจ้องมองตามสองสาววาววับพร้อมเอาเรื่องอาริสา!
บรรยากาศภายในศาลาวัดมีพระสงฆ์รับสังฆทานจากคนที่มาทำบุญและสวดมนต์ให้พร อาริสากับเขมเดินเข้ามานั่งต่อคิวเพื่อรอถวายสังฆทาน
อาริสาจิตใจไม่สงบแม้อยู่ต่อหน้าพระ พะวักพะวนหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าเป็นระยะคอยดูว่าป้องกุลโทร.กลับมาบ้างไหม
จนกระทั่งพระสวดมนต์แผ่เมตตาให้คนมาทำบุญกลุ่มแรกกรวดน้ำเสร็จ เขมพาอาริสาคลานไปที่หน้าพระแล้วจะถวายสังฆทาน
ทันใดนั้นเกศิรินถือถังสังฆทานเข้ามานั่งข้างอาริสาและพูดกับพระด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ขอถวายด้วยได้ไหมคะหลวงพ่อ”
“ได้สิโยม”
อาริสากับเขมชะงักมองเกศิรินที่ไม่แสดงอาการโกรธแต่อย่างใด ดูไม่ออกว่าเธอคิดอะไร
อาริสาเสียอีกที่ดูอึดอัดไม่รู้ว่าเกศิรินรู้เรื่องตัวเองกับป้องกุลถึงไหน อยากจะคุยด้วยแต่เกศิรินพนมมือมองไปทางพระแล้วพูดเตือนอาริสาโดยไม่มองหน้า
“หลวงพ่อกำลังจะสวด”
อาริสาเก็บอาการยกมือขึ้นพนม เขมมองเกศิรินอย่างระแวงว่าจะมาไม้ไหน แต่ก็เห็นสงบนิ่งเยือกเย็นฟังพระสวดรับสังฆทานตามปกติ
เสร็จจากตรงหน้าพระ เกศิรินถือถ้วยใส่น้ำที่กรวดมาเทโคนต้นไม้ อาริสากับเขมก็ทำเช่นเดียวกัน เสร็จแล้วอาริสาเดินมาเผชิญหน้าเกศิริน
“เกศ...ฉันอยากคุยกับเธอ”
“ฉันก็อยากคุยกับเธอ”
“เกศคือฉัน...” อาริสาจะอธิบาย แต่เกศิรินพูดแทรกอย่างเร็ว
“แต่ยังไม่พูดกันตอนนี้” พูดจบเกศิรินก็ถือถ้วยกลับเข้าศาลา อาริสามองตามอย่างร้อนใจ อยากเคลียร์เรื่องตัวเองกับป้องกุลเพื่อให้เข้าใจตรงกัน
ooooooo
เกศิรินออกจากศาลามุ่งหน้าไปลานจอดรถด้วยท่าทางที่ยังสงบนิ่งเหมือนกำลังเล่นสงครามเย็นกับอาริสา
อาริสากับเขมเดินตามมาถึงรถ อาริสาทนไม่ไหวเป็นฝ่ายดึงแขนเกศิรินแล้วเปิดฉาก
“เกศ! เธอรู้เรื่องฉันกับ...”
“ในนี้มันเขตวัด เราไม่ควรคุยกันเรื่องผิดศีล” เกศิรินสวนแรงแล้วเปิดประตูขึ้นรถล็อกทันที
“เกศ! เปิดประตูออกมาคุยกับฉันก่อน”
เกศิรินสตาร์ตรถขับออกไปโดยไม่สนใจอาริสาที่ร่ำร้องไล่ตาม เขมมองประเมินสถานการณ์พร้อมดึงตัวอาริสาไว้
“พอเถอะริสา เกศมันคงยังไม่อยากคุย”
“ถ้าไม่อยากคุยแล้วมาที่นี่ทำไม มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ เกศตั้งใจตามมา”
“คงตั้งใจมาเล่นสงครามประสาทกับเธอไง เธอไม่ต้องตามเกศไปหรอกริสา ถ้าเกศตามเรามาวัดได้ เดี๋ยวมันก็ต้องตามไปเคลียร์กับเธอสักที่เอง”
อาริสาเครียด ทุกข์ใจ อึดอัด ไม่รู้ว่าเกศิรินคิดอะไรกันแน่ แต่ก็เชื่อเขมและพากันเดินออกประตูวัดมาไม่คาดคิด! จู่ๆ รถเกศิรินที่จอดริมกำแพงวัดขับพุ่งตรงมาหาอาริสากับเขมอย่างแรงและเร็ว สองสาวอึ้งช็อกเพราะไม่ทันตั้งตัว เสียงรถเบรกเอี๊ยดตรงหน้าอาริสาห่างไม่ถึงฟุต!!










