ผมอ่าน “กลศึกสามก๊ก” (สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2537) ครั้งแรก ตั้งแต่พี่ถวิล มนัสน้อม ส่งมาให้ เคยเอาไปเขียนก็หลายครั้ง แต่เพิ่งรู้สึกได้ อ่านไม่สนุกครึกครื้นสะใจ เหมือนอ่านครั้งนี้ถ้ายังพอจำเค้ากลยุทธ์สองเสือแย่งเหยื่อ...ที่โจโฉใช้หลอกล่อ สองเสือ เสือเล่าปี่ เสือลิโป้ ไม่ได้...ได้บ้างลองอ่านกลยุทธ์ต่อเนื่อง กลยุทธ์ที่ 8 ไล่เสือกลืนสุนัขกันดู งานนี้ของโจโฉงอกเงยหรือไม่?ซุนฮก กุนซือตัวเก่งคนเดิมแนะโจโฉต่อ...ส่งคนแอบไปส่งข่าวลับๆ บอกอ้วนสุดว่า เล่าปี่ถวายฎีกาต้องการแย่งเมืองลำกุ๋น..เป็นเจ้าของ หวังผลให้อ้วนสุดโกรธ ยกกำลังไปตีเล่าปี่อีกด้านก็แอบอ้างพระราชโองการพระเจ้าเหี้ยนเต้ สั่งให้เล่าปี่ไปปราบอ้วนสุด หวังผลให้สองฝ่ายผิดใจปะทะกัน และส่งผลต่อเนื่องให้ลิโป้เกิดร้อนตัว คิดหาทางรักษาตัวให้ปลอดภัยทันทีที่โจโฉเริ่มแผน...ก็ก่อให้เกิดการรบพุ่งกันขนานใหญ่ ระหว่างเล่าปี่กับอ้วนสุดลิโป้ก็ฉวยโอกาสที่เตียวหุยเมาเหล้าเฆี่ยนตีโจป้า ตีกระหนาบทั้งภายในและภายนอกยึดเอาเมืองชีจิ๋วจุดมุ่งหมายของโจโฉ...ที่เดินกลอุบายนี้ ข้อแรกต้องการทำลายการร่วมมือระหว่างลิโป้กับเล่าปี่ ข้อสองต้องการให้ข้อพิพาทระหว่างเล่าปี่กับอ้วนสุด เพื่อสะดวกแต่ตัวเอง ในการตีให้แตกทีละส่วนพิจารณาจากเนื้อหากลอุบาย ไล่เสือกลืนสุนัข ตามที่ซุนฮกเสนอโจโฉ...เสือหมายถึงเล่าปี่ และอ้วนสุด สุนัขหมายถึงลิโป้แผนนี้นำไปสู่การปฏิบัติเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ความขัดแย้ง ระหว่างเล่าปี่ อ้วนสุด ต่อเนื่องไปถึงลิโป้อย่างรุนแรงแต่แผนนี้ ก็ยังมีข้อเข้าใจยาก...เหตุใด เพียงแต่ยุยงให้เกิดความการพิพาทระหว่างเล่าปี่กับอ้วนสุด ก็สามารถผลักดันให้ลิโป้คิดไม่ซื่อ กับเล่าปี่ได้ง่ายๆ เพราะคู่นี้ถ้อยทีถ้อยอาศัย ผูกพันสมานน้ำใจกันมานานแท้ที่จริงคนอย่างลิโป้ไม่ได้คิดที่จะยอมขดตัวอยู่ใต้ศอกเล่าปี่ เมื่อครั้งที่ลิโป้ถูกโจโฉตีพ่ายมาอาศัยเล่าปี่นั้น เล่าปี่เคยคิดจะมอบเมืองชีจิ๋วให้...ลิโป้ก็ยอมรับโดยมิเกรงใจแต่ขณะจะยื่นมือรับตราประจำตำแหน่งจากเล่าปี่ เหลือบตาข้างหลังเห็นกวนอูกับเตียวหุย แสดงสีหน้าโกรธขึ้งถมึงทึง ลิโป้รู้ท่าก็ไม่กล้ารับ แสร้งทำเป็นปฏิเสธ นำทหารไปตั้งอยู่ที่เมืองเสียวพ่ายเมืองเล็กๆคนอย่างลิโป้ “ไอ้ลูกสามพ่อ” ตามปากเตียวหุย ขี้ข้าสามแซ่สามตระกูล เป็นคนเนรคุณ มุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตัว ตอนที่เล่าปี่รบกับอ้วนสุด แม้ไม่มีกรณีเตียวหุยเฆี่ยนโจป้า อย่างไรเสียก็ต้องหาโอกาสยึดเมืองชีจิ๋วจนได้ในมุมปรัชญา โจป้าเป็นชนวนลิโป้ขัดใจเล่าปี่ เป็น “ลักษณะบังเอิญ” เปิดทางให้ “ลักษณะแน่นอน” เท่านั้นเรื่องตอนนี้คลุกคละปะปนการต่อสู้ทางการทหาร ทางการเมือง ทางการทูตเข้าไว้ชนิดแยกไม่ออก เปิดโปงการแย่งอำนาจ การหลอกลวงกันและกัน ระหว่างโจโฉ เล่าปี่ ลิโป้ และอ้วนสุดอย่างถึงอกถึงใจก็ในเมื่อกองทัพไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยยากเข็ญ ก็ได้ชัยชนะ เป็นเป้าหมายสูงสุดแห่งการใช้กลอุบายแห่งการทหารแล้ว การใช้กลอุบายแสวงหาชัยชนะ จึงเป็นรูปแบบของการคิด อันเป็นเอกลักษณ์ของนักวางแผนทั้งปวง“การบัญชาทัพชั้นเอก คือเอาชนะด้วยอุบาย” เป็นเช่นที่ซุนวู กล่าวไว้ในตำราพิชัยสงครามรู้จักกลยุทธ์ ไล่เสือกลืนสุนัขแล้ว มโนได้ตามสบาย...ในสมรภูมิการเมืองไทย ใครเป็นโจโฉ ใครเป็นเล่าปี่ ใครเป็นลิโป้ ใครเป็นอ้วนสุด ฯลฯแต่เท่าที่ผมคิดได้เอง สถานการณ์นี้ขาใหญ่ฝ่ายการเมือง เล่นบทโจโฉ ยุให้รำตำให้รั่ว ให้ทหารสองเสือ พี่น้องแย่งเหยื่อกันถ้าเป็นเช่นที่ผมเดา งานนี้ก็เข้าเค้านิทาน ตาอินกับตานา ตาอยู่มาเดี๋ยวเดียว คว้าพุงเพียวๆไปกิน.กิเลน ประลองเชิง