คณะทำงาน ตร.ชุดคลี่คลายคดี “รองโจ๊ก” ส่งลูกน้องหอบทอง 246 บาท ติดสินบน ป.ป.ช.วิ่งเต้นคดี ส่งทองคำแท่งของกลางที่ตรวจยึดมาได้ 120 บาท ตรวจว่าเป็นชุดเดียวกับหลักฐานตามคลิปหรือไม่ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่เหลืออีก 4 คน รวมทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. อยู่ระหว่างติดต่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา แฉสาเหตุลูกน้องคนสนิทรองโจ๊กแปรพักตร์ หอบหลักฐานพร้อมให้การซัดลูกพี่เก่า เพราะกลัวโดนโยนความผิดให้ทุกเรื่องกรณีคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวน ตร. ที่แต่งตั้งโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ระดมกำลังตรวจค้น 11 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ จ.สุราษฎร์ธานี หาหลักฐานเครือข่าย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ติดสินบนคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นทองคำแท่ง 246 บาทช่วยเรื่องคดีเมื่อปี 67 หลังรู้ข่าวรองโจ๊กชิงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตาม ม.157 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วความคืบหน้าจาก บก.ปปป. เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 28 ธ.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.เผยว่า คดีนี้ บก.ปปป.เป็นผู้รับสำนวนคดี มีชุดคณะสืบสวนสอบสวนที่ ตร.แต่งตั้ง เป็นชุดทำงานหาพยานหลักฐานต่างๆมามอบเข้าสำนวน ส่วนพยานหลักฐานที่ได้มา คณะทำงาน ตร.นำไปตรวจสอบวิเคราะห์ รวมทั้งทองคำแท่งประมาณ 120 บาทที่ยึดมาได้จากบ้านนายสรพงษ์ วงศ์สุวรรณ ทั้งนี้ต้องนำทองคำแท่งที่พบทั้งหมดไปตรวจสอบว่าเป็นทองคำแท่งที่นำไปมอบให้นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช.หรือไม่ หรือเป็นทองคำแท่งที่ซื้อมาคนละลอต แต่เบื้องต้นพบว่าทองคำแท่งทั้งหมดซื้อมาจากร้านเดียวกัน“หลังจากเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ และนายสมบัติ ธรธรรม เข้ามารับทราบข้อหาไปแล้ว 2 คน ส่วนที่เหลืออีก 4 คน ประกอบด้วย นายสามารถ หรือเอ็ดเวิร์ด กอนแก้ว นายสรพงษ์ วงศ์สุวรรณ นายสุรสิทธิ์ แพเกิด และนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างติดต่อประสานเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา” ผบก.ปปป. กล่าวมีรายงานจาก บก.ปปป.ที่สอบสวน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย อดีตตำรวจคนสนิทของรองโจ๊กให้การ อ้างว่า การนำทองคำไปมอบให้นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. มีการแอบถ่ายคลิปไว้ โดย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ สั่งการเอง เพื่อใช้เป็นหลักประกัน หากนายเอกวิทย์ไม่ดำเนินการตามตกลง หลังจากมอบทองคำให้แล้ว นายเอกวิทย์เร่งรัดไต่สวนผู้เกี่ยวข้องจนสรุปผลการไต่สวน และพยายามนำสำนวนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการชุดใหญ่ แต่ห้วงเวลานั้นกรรมการ ป.ป.ช.เกษียณอายุราชการหลายคน ทำให้เสียงกรรมการปริ่ม บวกกับกรรมการหลายคนทราบข้อข้อเท็จจริงในสำนวน ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของอนุกรรมการชุดนายเอกวิทย์ จึงพยายามทำให้องค์ประชุมไม่ครบจนไม่สามารถประชุมได้ สุดท้ายยังไม่สามารถนำเรื่องการไต่สวนของคณะนายเอกวิทย์เข้าสู่การประชุมได้รายงานข่าวระบุต่อว่า หลังจากนั้น พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์เร่งรัดกดดันนายเอกวิทย์มาตลอด จนคนสนิทของนายเอกวิทย์พยายามติดต่อขอมอบคืนทองคำให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีการคืนทองคำ ในที่สุด พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ออกมากดดันกล่าวหาตำรวจว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมและเรื่องส่วย ในส่วนคดีของตัวเอง ยังพยายามโยนความผิดให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย และ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ สองลูกน้องคนสนิทในทุกเรื่อง เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด สุดท้าย พ.ต.อ.ภาคภูมิทนไม่ไหว นำคลิปการนำทองไปมอบให้นายเอกวิทย์มามอบให้ตำรวจ บก.ปปป. พร้อมให้รายละเอียดทางคดี รวมถึงแฉพฤติกรรมต่างๆของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงในหลายประเด็นด้วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่