ขุดแร่หายากในประเทศไทย... อะไรจะเกิดขึ้น? อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อม เปิดประเด็น ตอกย้ำกรณีประเทศสหรัฐอเมริกาลงนามข้อตกลงการค้าและแร่หายากกับ 4 ประเทศคู่ค้าในอาเซียนรวมทั้งประเทศไทย“แร่หายาก (Rare earths)” คือกลุ่มธาตุโลหะ 17 ชนิด ซึ่งประกอบด้วยแลนทาไนด์ 15 ชนิด ร่วมกับสแกนเดียมและอิตเทรียม ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ไฟฟ้า และระบบป้องกันแม้ชื่อจะบ่งบอกว่า “หายาก” แต่ธาตุเหล่านี้กลับไม่หายากในเปลือกโลกเท่าใดนัก แต่มีความเข้มข้นต่ำ ประเด็นสำคัญมีว่า... การทำเหมืองและสกัดให้บริสุทธิ์ทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง คุณสมบัติทางแม่เหล็ก เคมีและไฟฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ธาตุเหล่านี้ขาดไม่ได้สำหรับหลายการใช้งานพุ่งเป้าไปที่...การทำเหมืองแร่ธาตุหายากใช้วิธีการแบบดั้งเดิม เช่น การทำเหมืองแบบเปิด (open–pit) หรือการทำเหมืองใต้ดิน เพื่อสกัดเอาแร่จากนั้นจะนำมาบด สกัดและทำให้เข้มข้นเพื่อแยกธาตุหายาก (rare earth elements) ออกจากแร่ชนิดอื่นกระบวนการนี้ใช้พลังงานและน้ำเป็นจำนวนมาก และอาจก่อให้เกิดของเสียอันตรายที่มีธาตุกัมมันตรังสี เช่น แร่ทอเรียมและยูเรเนียม แม้ว่าธาตุหายากจะมีความสำคัญต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่แต่การทำเหมืองและการแปรรูปก็ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมากทั้งการปนเปื้อนของน้ำ มลพิษทางอากาศ และการกัดเซาะหน้าดิน น่าสนใจว่า...การขุดแร่หายากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลายด้าน ทั้งการปนเปื้อนของน้ำและดินจากสารเคมีและกากแร่ที่มีกัมมันตรังสี, การปล่อยฝุ่นและก๊าซอันตราย, การทำลายป่าและถิ่นที่อยู่ของสัตว์ และการใช้น้ำปริมาณมาก ปัญหานี้รุนแรงขึ้นจากกระบวนการขุดและแปรรูปที่ต้องใช้สารเคมีจำนวนมากซึ่ง...ก่อให้เกิด “ของเสีย” และ “มลพิษ” ในระยะยาวตอกย้ำประเด็น...ผลกระทบสิ่งแวดล้อมมหาศาลจากการขุดแร่หายากแบบไร้มาตรฐาน ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจทางธรณี วิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ในปี 2567 ระบุว่าประเทศไทยผลิตแร่หายากอันดับ 4 ของโลก ส่วนใหญ่พบในหินแกรนิตและสะสมอยู่ในชั้นดินผุพัง รวมถึงในสายแร่ที่เกี่ยวข้องกับดีบุกและทังสเตนจังหวัดที่มีศักยภาพมีแร่หายากได้แก่ ภาคเหนือ...เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่ ภาคตะวันตก...อุทัยธานี, กาญจนบุรี ภาคใต้...ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, ระนอง, พังงา, สุราษฎร์ธานี“แต่ทั้งหมดยังไม่มีการดำเนินการขุดแร่ในเชิงพาณิชย์ เพียงแต่ทำกันเองแบบชาวบ้าน” อาจารย์สนธิ ว่า “แร่หายากส่วนใหญ่จะได้มาจากการทำเหมืองด้วยวิธีการที่ต้องขุดหน้าดินและใช้สารเคมีเพื่อชะล้างโลหะออกจากแร่ หรือโดยการเจาะและปั๊มสารเคมีเข้าไปในชั้นหิน เช่น ใช้สารแอมโมเนียมซัลเฟตเพื่อละลายธาตุหายากออกมาแล้วนำมาสกัดด้วยสารเคมีอีกครั้ง”ดังนั้น “น้ำเสีย” ที่เกิดจากการผลิตจะปนเปื้อนด้วยโลหะหนักปริมาณมาก ถ้าปล่อยทิ้งออกมาจะปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมกระบวนการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก รวมถึงเกิดการปนเปื้อนของดิน อากาศ และน้ำ ด้วยสารเคมีที่เป็นพิษและวัสดุกัมมันตรังสี เช่น ทอเรียมและยูเรเนียม ซึ่งนำไปสู่ปัญหาระยะยาว เช่น มลพิษที่ปนเปื้อนลงสู่น้ำใต้ดินและของเสียที่สามารถสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศและชุมชนในท้องถิ่นได้ย้ำว่า...การทำเหมืองแร่หายาก หน่วยราชการ เช่น กรมทรัพยากรธรณีและกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะต้องเตรียมความพร้อมต้องกำหนดหลักการและแนวทางปฏิบัติในการทำเหมืองให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องมีมาตรการในการป้องกันและลดผลกระทบจากการปล่อยน้ำเสียนับรวมไปถึง...มาตรการจัดเก็บตะกอนหางแร่, การป้องกันกากตะกอนแร่ทั้งที่เป็นกัมมันตภาพรังสีและไม่ให้ปนเปื้อนน้ำใต้ดินและน้ำผิวดินและระบบนิเวศ, มาตรการป้องกันมลพิษทางอากาศ รวมทั้งจะต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและให้ความเห็นว่าสมควรให้มีการดำเนินการในพื้นที่ชุมชนหรือไม่ และ...ควรกำหนดให้โครงการดังกล่าวทุกขนาด จะต้องทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพด้วย อาจกล่าวแบบวัวหายแล้วไม่ต้องมานั่งล้อมคอกได้ว่า...การดำเนินงานตามขั้นตอนการทำเหมืองแร่และสกัดแร่หายากตามมาตรฐานสากลนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกขั้นตอนซึ่ง...จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์และเตรียมพร้อมรับมือโดยเฉพาะ ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม...ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและเทคนิค เช่นความล้มเหลวระบบควบคุมมลพิษ...การพึ่งพาระบบควบคุมมลพิษทางอากาศและน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพสูง หมายความว่าความล้มเหลวของอุปกรณ์ หรือการบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพอ...จะส่งผลให้มีการปล่อยมลพิษสูงขึ้นทันที หรือ...ความผิดพลาดในการจัดการสารเคมี...ประสิทธิภาพการแยกแร่ก็มีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้อีกทั้ง ความเสี่ยงด้านภัยพิบัติและกฎหมาย แม้จะมีระบบป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว แต่ภัยพิบัติเหล่านี้สามารถทำลายโครงสร้างสำคัญ เช่น เขื่อนกักเก็บกากแร่ หรือระบบฝังกลบอย่างปลอดภัย ซึ่งจะนำไปสู่การปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงและเป็นวงกว้าง เป็นต้นขุดแร่หายาก “แรร์เอิร์ธ” ในประเทศไทย...อะไรจะเกิดขึ้น? เป็นเรื่องอนาคตก็จริงอยู่ แต่ก็มีความเสี่ยงของการรั่วไหล...การปนเปื้อนจากสารเคมีและกากแร่อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม