ผู้ว่าฯเมืองนนท์นำทีมทลายบ่อนย่านบางใหญ่เปิดโกดังล้อมรั้วสังกะสีให้นักเสี่ยงดวงเข้าไปเล่นเสือมังกร ตำรวจและฝ่ายปกครองต้องปีนเข้าไปตะครุบเซียนพนันได้ 46 คน และคนงานเมียนมาอีก 8 คน รวม 54 คน ยึดเงินของกลางกว่า 2 แสนบาท ด้านตำรวจเมืองพัทยาลุยล้างแก๊งจีนเทา ยึดเมืองท่องเที่ยวก้องโลกเป็นฐานปล่อยเงินกู้นอกระบบให้คนจีน ได้ผู้ต้องหา 25 คน คุมตัวดำเนินคดีเป็นอั้งยี่พ่อเมืองนนท์นำกำลังทลายบ่อนเสือมังกร เปิดเผยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.นนทบุรี พร้อมด้วยนายจเร ซุ้นหั้ว ป้องกันจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จ.นนทบุรี และ พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นำกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองบุกจับบ่อนพนันในโกดังไม่มีเลขที่ ซอยแก้วอินทร์ หมู่ 5 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ เมื่อไปถึงพบโกดังดังกล่าวปลูกอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ล้อมรั้วสังกะสีรอบบ่อนสูงกว่า 3 เมตร ต้องปืนรั้วเข้าไปด้านในภายในอาคารโกดังมีห้องโถงใหญ่และห้องเล็กสำหรับวีไอพีอีก 1 ห้อง พบนักพนันชายหญิงสุมหัวเล่นพนันเสือมังกรกันหลายสิบคน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างพากันแตกตื่นพยายามวิ่งหลบหนี แต่ไม่รอด เจ้าหน้าที่วางกำลังปิดล้อมทางออกไว้ทุกด้าน คุมตัวผู้ต้องหาได้ 46 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 31 คน และคนงานชายหญิงชาวเมียนมา 8 คน รวมเป็น 54 คน เงินของกลาง 218,340 บาท โต๊ะ 2 ตัว และอุปกรณ์การเล่นพนันไพ่เสือมังกรหลายรายการนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.นนทบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังตรวจสอบไม่ได้ว่าบ่อนแห่งนี้เปิดมาแล้วกี่วัน ต้องรอตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะเท่าที่สอบถามนักพนันต่างก็พูดกันคนละอย่าง ไม่สามารถเชื่อถือได้ เท่าที่เห็นบ่อนแห่งนี้เปิดเป็นบ่อนเสือมังกร มีทั้งหมด 2 วง ขอฝากไปถึงคนที่คิดจะเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่นนทบุรี เรามีสายข่าวอยู่ทั่วทุกพื้นที่ และมีมาตรการเข้มงวดกวดขันไม่ให้มีบ่อนพนันเกิดขึ้น หากพบจะจับกุมอย่างเข้มงวดและจะเอาผิดผู้เล่น โดยเฉพาะเจ้าของบ่อนตามกฎหมายด้านตำรวจชลบุรีจับอั้งยี่ชาวจีนยึดแหล่งท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นฐานปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยช่วงสายวันที่ 18 มิ.ย. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี สอบปากคำชาวจีน 25 คน เป็นชาย 24 คน และหญิง 1 คน ผู้ต้องหาความผิดร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย หรืออั้งยี่ และความผิดเป็นคนต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดสืบเนื่องเมื่อเย็นวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังชุดสืบสวน ชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดนำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาบุกเข้าตรวจค้นบ้าน 2 แห่งโครงการหมู่บ้านหรูในเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังสืบทราบว่าเป็นที่ซ่องสุมกลุ่มชาวจีน เป้าหมายแรกบ้านเลขที่ 308/43 ซอยทัพพระยา 15 ย่านพัทยาใต้ แต่ไม่มีใครอยู่ อีกทั้งไม่พบการกระทำผิดกฎหมายจุดที่ 2 บ้านเลขที่ 404/114 หมู่บ้านวิวทะเล ถนนจอมเทียนสาย 2 ต.หนองปรือ พบชาวจีน 25 คน เป็นชาย 24 คน หญิง 1 คน นั่งทำงานอยู่ภายในบ้าน ทั้งหมดถือวีซ่าท่องเที่ยว ไม่มีใบอนุญาตทำงาน และ 1 ในนั้นพบว่าอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) นานกว่า 5 ปี 1 เดือน 4 วัน ในบ้านพบเอกสารภาษาจีนจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง และโน้ตบุ๊กหลากหลายรุ่น นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต และภาพหน้าจอแอปพลิเคชัน “QQ” คาดว่าใช้ในการสื่อสารและดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายผิดกฎหมายเบื้องต้นกลุ่มชาวจีนให้การว่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับเงินกู้ในประเทศจีน เพียงแค่ใช้ประเทศไทยเป็นสำนักงานในการติดต่อสื่อสารกับคนจีนที่อยู่ประเทศจีนเท่านั้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย หรืออั้งยี่ ส่วนผู้ต้องหาอีกคนตรวจสอบพบว่าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเกินเวลากำหนด ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มฐานเป็นคนต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาพล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจเฝ้าดูพฤติกรรมชาวจีนกลุ่มนี้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว หลังพบว่าบ้าน 2 หลังมีคนจีนเข้าออกตลอดเวลา ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวทราบว่าคนจีนกลุ่มนี้ทำธุรกิจเงินกู้นอกระบบ โดยใช้ประเทศไทยเป็นสำนักงานติดต่อสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน “QQ” คดีนี้แม้ว่ากลุ่มคนจีนยังไม่มีการกระทำผิดและเกิดความเสียหายในประเทศไทย แต่ถือว่าพฤติกรรมเข้าข่ายการทำงานในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่