เหมืองขุดบิทคอยน์ถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ วาดหวังว่าจะได้เงินดิจิทัลมาแบบฟรีๆ แต่นอกจากต้องลงทุนซื้อเครื่องขุดแล้ว ยังต้องจ่ายค่าไฟอีกมหาศาล คำนวณแล้วต่อเครื่องใน 1 วันต้องจ่ายค่าไฟประมาณ 200 บาท มีกี่เครื่องไปคูณกันเอง ถือเป็นความเสี่ยงว่าคุ้มหรือไม่?คนเลวบางกลุ่มเลยมีแนวคิดกลโกง ลักลอบใช้ไฟหลวงมันซะเลย ทำให้ตัวเลขความเสี่ยงเรื่องค่าไฟฟ้าหายไป กำไรเหนาะๆที่ผ่านมาตำรวจหลายหน่วยไล่จับอยู่เนืองๆ เคยตั้งข้อสังเกตไปหลายครั้งว่า กลุ่มแก๊งขุดบิทคอยน์พวกนี้มีความรู้เรื่องไฟขนาดขโมยต่อไฟหลวงเองได้หรือ?ล่าสุด ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ รอง ผกก.5 บก.ป. และ พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายณัฐพงศ์ แสงสว่าง อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และข้อหาเป็นพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์โดยมิชอบฯ!ขยายผลจากปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ กฟภ.ตรวจค้น 9 จุดใน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเดือน พ.ย.67 ทลายเหมืองบิทคอยน์ลักลอบใช้ไฟหลวง จับกุมผู้ต้องหา 5 คนพร้อมเครื่องขุดบิทคอยน์ 111 เครื่องสร้างความเสียหายให้ กฟภ.กว่า 50 ล้านบาท!หลังจากนั้นซุ่มขยายผลหาตัวการลักลอบต่อไฟให้แก๊งขุดบิทคอยน์ใช้ฟรี พบหลักฐานการติดต่อผ่านข้อความ และเส้นเงิน เป็นที่มาของการออกหมายจับครั้งนี้ถึงผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมั่นใจหลักฐานแน่นดำเนินคดีเป็นตัวอย่าง ไอ้ที่ลักลอบทำกันอยู่จะได้สะดุ้งบ้าง?สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม