ก้าวสู่ปีที่ 30 ในฐานะบริษัทขายตรงที่ถูกต้อง สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้คนไทยได้จริง โดย “กิฟฟารีน” ภายใต้การนำของ “หมอต้อย–พญ.นลินี ไพบูลย์” สร้างปรากฎการณ์สำคัญให้วงการธุรกิจขายตรงได้ฮือฮา ด้วยการเปิดตัว “Giffarine AI Coach” เป็นโค้ชส่วนตัวเทรนนักธุรกิจกิฟฟารีนแบบตัวต่อตัวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยวางแผนขายสินค้า, นำเสนอผลิตภัณฑ์ และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจขายตรงสัญชาติไทยแถวหน้าของอาเซียน “ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน AI มีบทบาทในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น กิฟฟารีนเป็นบริษัทขายตรงในรูปแบบ MLM บริษัทแรกในประเทศไทย ที่ใช้ AI มาช่วยทำธุรกิจ, ช่วยวางแผน และเป็น Coach หรือ Mentor ส่วนตัวให้กับนักธุรกิจกิฟฟารีน โดยกิฟฟารีนได้ริเริ่มพัฒนา Solution ต่างๆที่สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจและประสิทธิภาพให้นักธุรกิจกิฟฟารีน ในการนำเสนอสินค้าและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น เปลี่ยนจาก pain point สู่ Solution เพื่อนำไปสู่ Changing Lifestyle ที่ดีขึ้น และประสบความสำเร็จในเรื่องของยอดขาย และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆได้เพิ่มขึ้น”...แม่ทัพใหญ่กิฟฟารีนบอกเล่าถึงการสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้วงการธุรกิจขายตรง ท่ามกลางยุคดิสรัปชัน นักธุรกิจกิฟฟารีนต้องปรับตัวขนาดไหนปัจจุบันกิฟฟารีนมีลูกค้าที่ลงทะเบียนรวม 8.7 ล้านรหัส และมีจำนวนนักธุรกิจกิฟฟารีนที่ทำธุรกิจและได้รับรายได้ 870,000 รหัส ประกอบด้วยหลากหลายเจนเนอเรชัน ตั้งแต่ที่เริ่มก่อตั้งด้วยกันมา จนตอนนี้พี่ๆกลุ่มนี้อายุ 70 กว่าแล้ว ไปถึงนักธุรกิจรุ่นลูกรุ่นหลานที่เข้ามาใหม่ คือเฉลี่ยมีอายุตั้งแต่ 25-50 ปี เจนเนอเรชันที่เปลี่ยนไป รสนิยม, แนวคิด และทัศนคติของผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้าของเราผ่านนักขายก็แตกต่างกัน ตัวนักขายเองจึงต้องปรับตัวค่อนข้างสูงมากๆ ตัวหมอเองก็ต้องปรับตัวด้วย คนที่อยู่ได้ดีในโลกใบนี้ คือคนที่ปรับตัวเก่งที่สุด หมอจะเล่าเรื่องแมลงสาบให้ฟังบ่อยๆ ถึงแม้เขาจะไม่น่ารัก เขาจะตัวเหม็นๆ แต่เขาก็อยู่ได้มาเป็นล้านๆปีแล้ว ฉะนั้นเราก็ต้องปรับตัวด้วยนะคะ ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายเงิน ส่งผลให้ผู้ประกอบการในทุกธุรกิจต้องปรับตัว และปรับแผนการทำตลาด เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคยุคนี้มีสัดส่วนที่ซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น คุณหมอและทีมงานเข้ามาช่วยพัฒนานักธุรกิจกิฟฟารีนอย่างไรบริษัทกิฟฟารีนมีระบบสนับสนุนทางการตลาดแบบครบวงจร ที่เตรียมไว้ช่วยนักธุรกิจกิฟฟารีน โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง ด้วยการให้เข้ามาเรียนรู้การทำธุรกิจร่วมกับนักธุรกิจกิฟฟารีนที่ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 870,000 รหัส ขณะเดียวกันเราก็มีแผนพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้ามาช่วยเสริมความแกร่งให้ระบบสนับสนุนทางการตลาดสำหรับนักธุรกิจกิฟฟารีน ให้สามารถทำงานและขยายเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่ว่านักธุรกิจของเราไม่เก่ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความสามารถ เขาพยายามจริงๆที่จะปรับตัวทรานสฟอร์มตัวเอง พยายามที่จะทำคลิปลงเพจบ้าง ลง TIKTOK บ้าง พยายามปรับตัวเข้ามาในสังคมออนไลน์ แต่หมอและทีมงานไม่สามารถดูได้หมดนะคะว่าแต่ละคนพูดยังไง และผู้บริโภคคิดยังไง พูดแบบไหนแล้วขายได้ พูดแบบไหนแล้วขายไม่ได้ เราจะตามไปคอมเมนต์ก็ไม่ได้ นักขายที่เป็นผู้นำยอมรับว่าเขาก็คอมเมนต์ลูกทีมได้ยากเหมือนกัน กลัวจะโกรธบ้างล่ะ กลัวจะรู้สึกว่าตำหนิบ้างล่ะ ที่จริงแล้วหวังดีนะคะ นี่คือเหตุผลที่บริษัทแม่ต้องช่วยเหลือพวกเขาให้ขายของในโลกใบใหม่นี้ให้ได้ หมอจึงคิดถึงเรื่อง AI คุณหมอใช้ AI ติดอาวุธให้นักขายกิฟฟารีนในรูปแบบไหนโชคดีที่ไปเรียนหลักสูตร วตท.29 และได้เจอกับ “คุณเต้ย-ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์” เอ็มดีใหญ่ของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จึงคุยกันว่า อยากทำ “Giffarine AI Coach” เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวช่วยนักธุรกิจกิฟฟารีนในการวางแผนขายสินค้า, นำเสนอผลิตภัณฑ์ และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ นี่คือเครื่องมือใหม่ในการติดอาวุธให้นักธุรกิจกิฟฟารีน โดยมีโค้ชส่วนตัวที่ช่วยวิเคราะห์ VDO และช่วยสร้างสคริปต์ พร้อมให้คำแนะนำที่เข้ากับกลยุทธ์และสไตล์ของแต่ละบุคคลให้สำเร็จได้ง่าย, ถูกต้อง, แม่นยำ และรวดเร็วมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าและแนะนำธุรกิจกิฟฟารีน ถือเป็นการปฏิวัติวงการธุรกิจขายตรงของโลก?เราใช้เทคโนโลยีและโซลูชันจากไมโครซอฟท์ ผู้นำด้านเทคโนโลยีคลาวด์ และ AI รวมถึง Azure AI Foundry และ “FRONTIS” บริษัทเทคที่ให้บริการด้านคำปรึกษา, วางแผนยุทธศาสตร์ และการใช้เทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจรายใหญ่ ถือเป็นครั้งแรกในวงการธุรกิจขายตรง MLM ที่บริษัทได้ลงทุนใช้ AI มาช่วยเป็นโค้ช เพื่อแนะนำการขายสินค้าของตนเองโดยเฉพาะ ทั้งสร้างสคริปต์ และวิเคราะห์ VDO นำเสนอสินค้า คาดว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยสร้างยอดขาย, เพิ่มจำนวนนักธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าให้กับนักธุรกิจกิฟฟารีน ซึ่งปัจจุบันกิฟฟารีนมีลูกค้าที่ลงทะเบียนรวม 8.7 ล้านรหัส และมีจำนวนนักธุรกิจกิฟฟารีนที่ทำธุรกิจและได้รับรายได้ 870,000 รหัส อะไรคือจุดเด่นของ “Giffarine AI Coach” ที่ไม่เหมือนแพลตฟอร์มทั่วไปมีความเป็น “Personalize Coaching” ที่ทรงพลังในการแนะนำงานขายแบบตัวต่อตัวผ่านการไลฟ์สด โดยถือเป็นครั้งแรกของการสร้าง VDO Mentor ส่วนตัว เพื่อให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถเรียนรู้การทำงานออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน เพราะเป็น AI Agent สำเร็จรูป ที่ทำงานได้อัตโนมัติ ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ง่าย เพียงแค่กรอกแบบสอบถามที่ Customize เหมือนเป็น “One stop personalize trainer online service” สำหรับนักธุรกิจกิฟฟารีนทุกคนอย่างแท้จริง นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถเข้าถึงได้หมด เหมาะกับทุกคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในการนำเสนอขายสินค้า และแนะนำธุรกิจกิฟฟารีน ยุคสมัยนี้ใครใช้ AI เก่งคนนั้นก็ได้เปรียบ หมอเชื่อว่า AI เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจมากๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ธุรกิจขายตรง แต่รวมถึงธุรกิจอื่นๆด้วย “กิฟฟารีน” มีบทบาทอย่างไรในการพัฒนาวงการธุรกิจขายตรงหมออยู่ในวงการขายตรงมาเกือบ 40 ปี คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้ว่าเป็นอะไรนะคะ หัวใจของธุรกิจขายตรงที่แท้จริงคือ ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ กิฟฟารีนเริ่มต้นธุรกิจด้วยการเปิดโรงงานผลิตโปรดักส์เป็นของตนเองก่อนที่จะเปิดบริษัท และได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ พร้อมรับสมัครสมาชิกตั้งแต่วันแรกของการเริ่มต้นธุรกิจ หมอคิดไม่ผิดที่เริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตโปรดักส์เป็นของตนเอง และให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาตลอด 29 ปี ถือเป็นกระดุมเม็ดแรกของกิฟฟารีน ที่เชื่อเสมอว่าเป็นการเริ่มต้นที่ถูกต้อง ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมผลิตภัณฑ์กิฟฟารีนจึงสามารถครองใจผู้บริโภคมาได้อย่างยาวนาน นอกจากกิฟฟารีนจะเป็นแบรนด์ขายตรงสัญชาติไทยอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคมายาวนาน กว่า 29 ปี เรายังเป็นบริษัทขายตรงที่ถูกต้อง ที่สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และช่วยให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้จริง รวมถึงกลุ่มคนที่ต้องการมีรายได้เสริมที่มั่นคง ภาพรวมธุรกิจขายตรงปี 2568 สดใสแค่ไหนยังมีสัญญาณบวกจากเทรนด์ของตลาดสุขภาพและความงามที่ยังคงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และเป็นธุรกิจที่ยังไปต่อได้ โดยมูลค่าตลาดรวมของธุรกิจขายตรงที่ทาง สมาคมการขายตรงไทยได้รวบรวมไว้ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 56,400 ล้านบาท ปี 2568 จึงเป็นปีที่กิฟฟารีนจะรุกทำตลาดเต็มสูบ โดยกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มและโอกาสเติบโตสูงของกิฟฟารีนยังคงเป็นกลุ่มสกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในกลุ่ม “Longevity” และเสริมภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่าง และผลิตภัณฑ์โปรตีนวีแกนก้าวสู่ปีที่ 30 “กิฟฟารีน” ปรับกระบวนทัพอย่างไรเพื่อสร้างอนาคตแข็งแกร่งตลอดระยะเวลา 29 ปี กิฟฟารีนมียอดขายรวมอยู่ที่ 110,758 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจอย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากกิฟฟารีนมีความเข้าใจคนไทย ทั้งในเรื่องงานขาย และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามครบวงจร รวมถึงการปรับกระบวนทัพทั้งออนไลน์และออฟไลน์ใหม่ๆ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของกิฟฟารีน สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 ของกิฟฟารีน จะโฟกัสไปที่สถานการณ์เศรษฐกิจควบคู่กับการทำธุรกิจ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม “Health & Beauty” ที่ยังเป็นเรือธง ทำยอดขายเติบโตสูงที่สุด รวมถึงการให้ความสำคัญในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของนักธุรกิจกิฟฟารีนและโดนใจผู้บริโภคที่สุด.ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่