ตำรวจไซเบอร์ตามรวบ 2 หนุ่มไทยเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ขับรถขนเครื่องจำลองสถานีฐานส่งเอสเอ็มเอสแนบลิงก์ดูดเงิน ตระเวนล่าเหยื่อตามแหล่งท่องเที่ยวย่านธุรกิจการค้าชุมชนต่างๆทั่วเมืองกรุง ตำรวจตรวจพบสะกดรอยตามสกัดจับได้ย่านชนะสงคราม สารภาพได้ค่าจ้างวันละ 1,350 บาท ส่งข้อความเฉลี่ยวันละ 5,000-10,000 ข้อความ ทำมานานกว่า 5 เดือน อีกรายจับยกแก๊ง 10 คน เวียดนามเทา-บัญชีม้าไทยกลางห้างดัง ตระเวนกดเงินที่หลอกลวงเหยื่อลงทุนเทรดทอง ยึดเงินสดกว่า 4 แสนบาท เช็กเส้นทางการเงินมีผู้เสียหายกว่า 30-40 เคสไอดีที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ส.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นายวิสิษฐศักดิ์ เจริญไชย ผู้จัดการงานองค์กรสัมพันธ์ AIS ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “OPERATION KHAO SAN” รวบ 2 เครือข่ายจีนเทารับจ้างขับรถซ่อนเครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) ตระเวนส่ง SMS แนบลิงก์ดูดเงินกลางกรุงพล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์จับกุมนายนิรันดร์ อินสนธิ์ อายุ 20 ปี และนายกิตติวรา ซาภักดี อายุ 22 ปี เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้รับว่าจ้างจากชาวจีนให้ขับรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องจำลองสถานีฐานตระเวนส่งสัญญาณ SMS ปลอมแนบลิงก์ดูดเงิน ได้ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านบางพลัด กรุงเทพฯ ต่อมาสืบสวนขยายผลร่วมกับทีมวิศวกรจาก AIS กระจายกำลังออกตรวจหาคนร้ายที่ก่อเหตุรอบพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะถนนเส้นหลักและย่านชุมชนใหญ่ที่มีผู้คนหนาแน่นกระทั่งเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 14 ส.ค. ตรวจพบรถต้องสงสัยเป็นรถอเนกประสงค์ซูซูกิเออร์ติก้า สีขาว ทะเบียน 3 ขค 9604 กรุงเทพมหานคร ขับอยู่ในซอยสุขุมวิท 3 สะกดรอยติดตามปรากฏว่ามีข้อความ SMS แนบลิงก์ดูดเงินเข้าสู่เว็บไซต์ปลอมส่งเข้าโทรศัพท์มือถือของตำรวจหลายนายอย่างต่อเนื่อง รถคันดังกล่าวขับผ่านย่านชุมชนแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนหนาแน่น อาทิ ถนนสุขุมวิท เพลินจิต ราชประสงค์ ปทุมวัน พญาไท ราชเทวี ยมราช ถนนหลานหลวง เทเวศน์ และสามเสน มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ สน.ชนะสงคราม ประสานไปยัง พ.ต.อ.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผกก.สน.ชนะสงคราม ขอกำลังสกัดจับได้บริเวณลานจอดรถกองสลากเก่า ถนนราชดำเนินตรวจค้นในรถพบชาย 2 คนชื่อนายนพรัตน์ เวชกามา อายุ 25 ปี คนขับ และนายมังกร ฟูกู อายุ 23 ปี นั่งเบาะคู่หน้า ส่วนเบาะหลังและห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ พบกล่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เชื่อมต่อกับเครื่องจ่ายไฟเคลื่อนที่ ประสานเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทีมวิศวกรจาก AIS มาร่วมตรวจสอบพบว่าเป็นเครื่องจำลองสถานีฐาน (False base station) เป็นอุปกรณ์เครื่องวิทยุโทรคมนาคมที่ดัดแปลงการส่งสัญญาณในคลื่นความถี่ต่างๆเข้าอุปกรณ์มือถือที่อยู่ภายในรัศมี 3-5 กม. มีอุปกรณ์กระจายสัญญาณติดตั้งบนหลังคารถ ดัดแปลงเสาส่งสัญญาณเป็นรูปคลีบฉลามเหมือนอุปกรณ์ตกแต่งรถทั่วไป เพื่ออำพรางไม่ให้เป็นที่น่าสงสัยสอบสวนนายนพรัตน์ให้การว่า ช่วงเดือน ก.พ. ได้รับการแนะนำจากชายชาวกัมพูชาพนักงานเสิร์ฟร้านเหล้าย่านถนนข้าวสาร ให้ไปทำงานเป็นคนขับรถพาบอสชาวจีนและแฟนสาวเที่ยวสถานที่ต่างๆในกรุงเทพฯ ต่อมาช่วงต้นเดือน มี.ค. บอสชาวจีนติดต่อมาหาอีก ส่งพัสดุอุปกรณ์ต่างๆจากประเทศจีนมาให้ติดตั้งภายในรถเพื่อให้ขับตระเวนส่ง SMS ในพื้นที่กรุงเทพฯ เฉลี่ยวันละ 5,000-10,000 ข้อความ ตัดสินใจร่วมงานช่วงแรกใช้รถเก๋งของแฟนสาวได้ค่าจ้างวันละ 3,300 บาท ต่อมาเปลี่ยนไปเช่ารถก่อเหตุ โดยบอสชาวจีนเป็นผู้จ่ายค่าเช่ารถพร้อมให้ค่าตอบแทนวันละ 1,350 บาท ทำงานวันละ 2 ช่วงเวลาคือ 09.00-12.00 น. และ 18.00-01.00 น. มานานกว่า 5 เดือนแล้วเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม ร่วมกันพยายามฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ และร่วมกันกระทำความผิดฐานอั้งยี่ อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังบอสชาวจีน และตรวจสอบเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เคยจับได้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไปอีกราย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. แถลงผลปฏิบัติการจับกุมแก๊งเวียดนามและคนไทยทำธุรกิจบัญชีม้า ยึดเงินสด 4 แสนบาท ผู้ต้องหา 10 คน เป็นชาวเวียดนาม 6 คน ประกอบด้วยนายเหงียน ชวน ตุ่ง อายุ 33 ปี หัวหน้าแก๊ง นายเหงียน มินห์ จรุง อายุ 34 ปี นายเหงียน เวียต อันห์ อายุ 24 ปี นายเหงียน วัน ลวน อายุ 29 ปี น.ส.ฮว่าง ถิ หั่นท์ อายุ 26 ปี และนายเหงียน หงอก ถึก อายุ 33 ปี กับคนไทย 4 คนมี น.ส.พรวิณี แสนศรี อายุ 38 ปี น.ส.ศิวนันท์ บุญมา อายุ 28 ปี นายปวริศ พุทธนาวงศ์ อายุ 37 ปี และนายเชิดชาย โก๋กริ่ง อายุ 41 ปี จับกุมได้ที่ศูนย์อาหารชั้นใต้ดิน ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวพล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า กลุ่มชาวเวียดนามจะติดต่อนายหน้าชาวไทยจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าเพื่อใช้รับโอนเงินที่หลอกลวงเหยื่อ โดยพาบัญชีม้ามาถอนเงินสดผ่านหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารหรือกดเงินจากตู้เอทีเอ็มมาให้ชาวเวียดนามที่มาเฝ้าติดตามควบคุมกำกับอีกชั้นหนึ่ง ทั้งนายหน้าและบัญชีม้าได้ค่าตอบแทนคนละ 3,000-5,000 บาท นายเหงียน หงอก ถึก เป็นหัวหน้าขบวนการ สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ทำหน้าที่สั่งการและวางแผนให้แต่ละคนทำตามขั้นตอนต่างๆ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินมีผู้เสียหายชาวไทยหลายรายถูกหลอกให้ลงทุนเทรดทองโอนเงินเข้ามาในบัญชีม้า มี น.ส.ฮว่าง ถิ หั่นท์ เป็นผู้รับแลกเงินบาทไทยเป็นเงินดองเวียดนาม แล้วโอนให้กลุ่มคนร้ายในประเทศเวียดนาม มีผู้เสียหายที่เกี่ยวข้องกับแก๊งเวียดนามเทากลุ่มนี้กว่า 30-40 เคสไอดี เชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการ อีกหลายรายที่อยู่ระหว่างหลบหนี จะสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่