นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวระหว่างการลงพื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิท 101/1 ติดตามระบบสัญญาณไฟจราจรอัตโนมัติ Adaptive Control หรือการปรับสัญญาณไฟตามปริมาณการจราจรร่วมกับ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. และผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่งว่า ปัจจุบันสัญญาณไฟจราจรในกรุงเทพฯ มีปริมาณ 500 แยก ซึ่งเป็นระบบอัตโนมือ โดยให้ตำรวจกดสัญญาณไฟตามสภาพการจราจรที่เห็น หรือตั้งเวลาไว้ ไม่ได้ปรับตามสภาพการจราจร กทม. จึงมีการติดตั้งระบบ Adaptive Control โดยเป็นการใช้กล้องวัดปริมาณจราจร และใช้คอมพิวเตอร์คำนวณว่าจะปล่อยรถอย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งขณะนี้ติดตั้งไปแล้ว 72 แยก ตามแนวถนนสุขุมวิท แนวถนนเพชรบุรี แนวถนนพระรามสี่ แนวถนนพหลโยธิน และบริเวณย่านสีลม โดยมีแผนจะติดตั้งเพิ่มอีก 200 แยก ในปีหน้าผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า จากการนำร่องทดลองใช้ระบบ Adaptive Control พบว่า ในช่วงที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรดีขึ้นประมาณ 15% ส่วนในชั่วโมงเร่งด่วนอยู่ระหว่างเก็บข้อมูลกับทางตำรวจ อาจมีบางแยกที่รถติดหนักมากก็ต้องใช้ตำรวจมากดสัญญาณไฟ ซึ่งต้องดูความเหมาะสมประสานทั้ง 2 ระบบควบคู่กัน ทั้งนี้ การปรับสัญญาณไฟตามปริมาณรถ บางครั้งเราบอกล่วงหน้าไม่ได้เพราะเราไม่รู้ว่ารถจะหมดเมื่อไหร่ อาจจะเห็นแค่ 5 วินาทีสุดท้ายแต่ไม่เห็นทั้งช่วง แต่สิ่งสำคัญคือระเบียบวินัยจราจร เทคโนโลยีอะไรฉลาดแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ถ้าคนไม่ปฏิบัติตามกฎ ไม่มีวินัยจราจร.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่