“วิสุทธิ์” เมินม็อบต้านกาสิโน ชงสภาฯถกร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 9 เม.ย. ลั่นกลัวไม่ทำ ทำไม่กลัวแน่นอนโต้ครหารัฐบาลเมินคนเดือดร้อนแผ่นดินไหว 2 หรือ 3 เม.ย. ไม่รอถึง 9 เม.ย. พท.ชงญัตติด่วนให้สภาฯพิจารณาผลกระทบเหตุแผ่นดิน ไหว-วิธีแก้ไขในอนาคต “นายกฯอิ๊งค์” ปาฐกถากระตุกความเชื่อมั่น ยันไทยยังปลอดภัยต่อนักลงทุน-นักท่องเที่ยว ศาลอาญาสั่งจำคุก 1 ปี ตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี “สิระ เจนจาคะ” ลง สส.ทั้งที่รู้ขาดคุณสมบัติ “ไหม” ส่องงบฯปี 69 ขาดดุล 8.6 แสนล้านบาท เหลือใช้ได้จริงแค่กว่า 3.66 ล้านล้านบาทเศษ เหตุต้องตั้งเงินชดใช้เงินคงคลังสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สางตั้งงบฯปี 67 ผิดพลาดท่ามกลางเสียงคัดค้านโครงการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่ฝ่ายรัฐบาลเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในวันที่ 9 เม.ย. โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ยืนยันคัดค้านได้ แต่ไม่ใช่ข้อกังวล ถ้ากลัวก็ไม่ทำ ทำแล้วไม่กลัวแน่นอนก.ม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ เข้าสภา 9 เม.ย.เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า คาดว่าจะบรรจุระเบียบวาระได้วันที่ 9 เม.ย.น่าจะใช้ร่าง ครม.อย่างเดียว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา การพิจารณาวันที่ 9 เม.ย. จะตั้งคณะ กมธ.มาพิจารณาช่วงปิดสมัยประชุม เพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ที่สุด ส่วนที่ สส.พรรคประชาชาติ ไม่เห็นด้วยเพราะเป็นพรรคชาวมุสลิม เราเข้าใจแต่คงไม่มีปัญหาอะไร สุดท้ายคงเจรจากัน เชื่อมั่นว่าเสียงรัฐบาลพออยู่แล้วไม่น่ากังวล รัฐบาลชี้แจงได้ หลายคนอธิบายผิด คิดว่าเปิดบ่อนพนันเสรี ไม่จริง แต่เป็นสถานบันเทิงครบวงจร มีการพนันไม่เกิน 10% ไม่ได้มีทุกจังหวัด สิ่งที่อยู่ใต้ดินทุกวันนี้มีอยู่แล้ว ทำไมไม่ทำให้ถูกกฎหมายเก็บภาษีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่วนที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งข้อสังเกตการรีบเร่งผลักดันกฎหมาย ยังไม่มีการทำรายงานศึกษา ไม่จริง มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาเรื่องนี้ สภาฯมีผลการศึกษาหมดแล้ว ขอให้ฟังข้อเท็จจริง ไม่ใช่ตั้งเป้ากล่าวหา“วิสุทธิ์” เมินม็อบกลัวไม่ทำ ทำไม่กลัวเมื่อถามว่ามีการเสนอว่าให้ทำประชามติเรื่องนี้ก่อน นายวิสุทธิ์ตอบว่า กฎหมายประชามติยังไม่มี การทำประชามติแต่ละเรื่องเสียเงิน 2-3 พันล้านบาท ไม่เห็นด้วย ถ้าเช่นนั้นต่อไปทุกเรื่องต้องทำประชามติทุกอย่าง เป็นเรื่องลำบาก อย่าไปกังวล เชื่อว่ารัฐบาลคิดเรื่องนี้แล้ว สภาฯต้องมาถกกันจะทำอย่างไรให้ปลอดภัยกับประชาชน เมื่อถามว่าขณะนี้มีม็อบมาคัดค้านเรื่องนี้ นายวิสุทธิ์ตอบว่า ไม่เป็นไร ไม่เห็นด้วยก็คัดค้านไป ม็อบมายินดีแสดงความคิดเห็นได้ เป็นประเทศประชาธิปไตย อย่าให้เห็นเหมือนกันทั้งหมด ต้องมีคนคัดค้านบ้าง แต่ไม่ใช่ข้อกังวลที่จะทำอะไรไม่ได้เลย ถ้ากลัวก็ไม่ทำ ทำแล้วไม่กลัวแน่นอนพท.จ่อชงญัตติด่วนแก้แผ่นดินไหวนายวิสุทธิ์กล่าวอีกว่า วันที่ 2 หรือ 3 เม.ย.พรรค พท.จะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาให้สภาฯพิจารณาผลกระทบเหตุแผ่นดินไหว และในอนาคตจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร ไม่ต้องรอจนถึงวันที่ 9 เม.ย. ขอยืนยันว่าจะพิจารณากันภายในสัปดาห์นี้ เพราะเตรียมการไว้แล้ว ทั้งพรรค พท.และพรรคร่วมรัฐบาล มีความคิดเห็นตรงกัน ถือเป็นญัตติด่วนที่จะนำมาศึกษาในสภาฯ เรื่องแผ่นดินไหวเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลเห็นความสำคัญ ที่มีคนบอกว่าจะนำเรื่องแผ่นดินไหวมาพิจารณาหลังกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ไม่เป็นความจริงไทยยังปลอดภัยต่อนักลงทุน-นักท่องเที่ยวเมื่อเวลา 11.15 น. ที่ศูนย์ Thailand Invest ment @ Expat Services Center ชั้น 7 อาคาร One Bangkok น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิธีเปิด ศูนย์ บริการนักลงทุนและบุคลากรต่างชาติ (Thailand Investment and Expat Services Center: TIESC) ร่วมกันระหว่างคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และกรมการจัดหางาน นำบริการทั้ง 3 หน่วยงานแบบครบวงจรมาไว้ ณ จุดเดียว ให้เป็นศูนย์ประสานงานด้านการลงทุน และศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานที่สะดวกรวดเร็ว และยังให้คำปรึกษาเพื่ออำนวยความสะดวกผู้สนใจเข้ามาลงทุน ทั้งนี้ ช่วงต้น กล่าวเปิดงาน นายกฯกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว โดยรัฐบาลควบคุมสถานการณ์และตรวจสอบอาคารทั่ว กทม.ยืนยันว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นเฉพาะกับอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพียงหลังเดียว และอยู่ระหว่างการสอบสวน ประเทศ ไทยยังคงเป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับการลงทุนและการท่องเที่ยว“อนุทิน” ไม่ขัดพรรคร่วมชิง สส.นครศรีฯที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการส่งนายไสว เลื่องสีนิล ลงเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 แทนนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล ภรรยาที่ถูกตัดสิทธิว่า ต้องทำทุกอย่างให้ได้รับชัยชนะ หากพรรคอื่นส่งแข่งกันไปไม่มีปัญหา ธรรมเนียมปฏิบัติ พรรคร่วมฯจะหลีกให้ แต่ไม่ใช่ระเบียบ กรณี จ.บึงกาฬ นายกฯยังรักษามารยาทการร่วมรัฐบาล“ไหม” ชี้งบฯ 69 เพิ่ม 0.7%ใช้ได้จริง 3.66 ล้านล้านเมื่อเวลา 14.34 น. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน.โพสต์เฟซบุ๊กว่า ภาพรวมงบฯปี 2569 ตามมติ ครม. 27 มี.ค.68 สรุปสาระสำคัญดังนี้ งบฯปี 69 กว่า 3.78 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วนิดหน่อย 0.7% ราว 27,900 ล้านบาท ปีนี้ตั้งขาดดุล 860,000 ล้านบาท คิดเป็น 4.3% ของจีดีพี สูงเกิน 3% เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ถึงจะขาดดุลมาก ตั้งงบฯสูงขนาดนี้แต่ใช้ได้ไม่เต็ม เพราะต้องตั้งเงินชดใช้เงินคงคลัง 123,551 ล้านบาท สรุปงบใช้ได้จริงๆแค่กว่า 3.66 ล้านล้านบาทเศษเท่านั้น เงินชดใช้เงินคงคลังตั้งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องมาจากปีงบ 2567 ตั้งงบผิดพลาด ไม่เพียงพอ ต้องใช้เงินคงคลังไปก่อน ทั้งเงินชำระดอกเบี้ย เงินบำนาญข้าราชการ และค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ เลยต้องมาใช้คืนคลังในปี 69 นอกจากนี้ รายจ่ายลงทุน 864,000 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากปี 68 เพราะปี 68 ไปนับรวมงบดิจิทัล วอลเล็ต เป็นรายจ่ายลงทุนไป 150,000 ล้านบาท ถ้าไม่นับดิจิทัลวอลเล็ตเป็นรายจ่ายลงทุน ถือว่าปีนี้ลงทุนเพิ่ม หนี้สาธารณะอยู่ที่ 13.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 67.3% ของจีดีพี งบชำระหนี้เพิ่มขึ้น 1,100 ล้านบาท แต่งบชำระดอกเบี้ยตั้งไว้ต่ำกว่าแผนการคลังระยะปานกลาง ที่ปี 69 จะต้องชำระดอกเบี้ยราว 11.5% ของรายได้รัฐบาล แต่เมื่อดูงบสำนักบริหารหนี้สาธารณะส่วนชำระหนี้ตั้งไว้ไม่ถึงศึกซักฟอกฝ่ายค้านเข้าตา ปชช.วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือน มี.ค.68” กลุ่มตัวอย่าง 2,141 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) เมื่อวันที่ 24-28 มี.ค.68 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน มี.ค.68 เฉลี่ย 4.95 คะแนน ลดลง จากเดือน ก.พ.ที่ได้ 5.02 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 5.46 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือการแก้ปัญหาความยากจน เฉลี่ย 4.43 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่บทบาทโดดเด่นประจำเดือนคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 45.53 นักการเมืองฝ่ายค้านที่บทบาทโดดเด่นประจำเดือน คือนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ร้อยละ 55.28 ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ร้อยละ 43.05 ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือน คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ร้อยละ 66.28จำคุก 1 ปี-แบน 20 ปี “สิระ เจนจาคะ”เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.3200/2566 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสิระ เจนจาคะ อดีต สส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.พ.62 จำเลยบังอาจลงลายมือชื่อสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขต 9 กทม.พรรค พปชร.โดยรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็น สส.อันเป็นลักษณะต้องห้าม เคยต้องโทษคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวันให้จำคุก 4 เดือนฐานฉ้อโกง ตามคดีอาญาหมายเลขดำ อ. 812/2538 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2218/2538 ลงวันที่ 21 พ.ย.38 โดยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.63 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกสภาพ สส.เนื่องจากขาดคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้ง คณะ กกต.ไต่สวนให้เพิกถอนจาก สส.และดำเนินคดีอาญา ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ พิพากษาจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.2561 มาตรา 4, 42 (12), 151 ให้ลงโทษจำคุก 1 ปีและให้เพิกถอนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง 20 ปีนับตั้งแต่วันมีคำพิพากษา ต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว วางประกัน 1.1 แสนบาทระหว่างอุทธรณ์อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่