ก่อนเวลาเข้าพรรษา พระธุดงค์ชราเดินมาหน้ากระท่อมชาวนายากจน ชาวนาสามีบอกภรรยาทำอาหารถวาย ทั้งยังมีศรัทธานิมนต์ท่านหยุดจำพรรษา ณ กุฏิหลังเล็กที่เขาสร้างให้(ชวนม่วนชื่น 2 เทศนา พระอาจารย์พรหม อักษรสัมพันธ์พิมพ์ครั้งที่ 2 แจกเป็นธรรมทาน พ.ศ.2558)ตลอดสามเดือน พระธุดงค์ชราเทศนาสอนธรรมะ และวิธีนั่งสมาธิภาวนาให้ชาวนาเป็นการตอบแทนได้ถึงเวลาออกพรรษา พระธุดงค์ต้องเดินทางต่อ มิไยที่ชาวนาและภรรยาจะอ้อนวอนให้ท่านอยู่ต่อพระธุดงค์บอกว่า “พวกโยมดูแลอาตมาดีมาก อาตมาคงไม่จากไปเปล่าๆ อยากจะให้อะไรตอบแทน”“เช้ามืดพรุ่งนี้ โยมเอาคันธนูและลูกธนูหนึ่ง ไปยืนที่หน้าประตู รอจนพระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้า เล็งธนูไปที่พระอาทิตย์ แล้วก็ปล่อยธนู พอลูกธนูตกถึงพื้น โยมก็จะพบขุมทรัพย์มหาศาล...”พระธุดงค์ชราจากไปแล้ว เช้าวันต่อมาชาวนาก็ทำตาม ทันทีที่ยิงธนูออกไป ทุกคนก็วิ่งตาม ลูกธนูไปตกอยู่ในบริเวณที่ดินของเศรษฐี พวกเขาช่วยกันขุดดินขมีขมัน ยังไม่ทันเจอขุมทรัพย์สักชิ้น เศรษฐีสั่งจับพวกเขาข้อหาบุกรุก“พวกฉันทำตามที่พระสงฆ์แก่แนะนำ” ชาวนาบอกเศรษฐีเศรษฐีเป็นชาวพุทธเหมือนกัน เขาเชื่อว่าพระสงฆ์แก่ไม่โกหก จึงสั่งคนช่วยขุดหลุมดินต่อ แต่ไม่พบอะไร เศรษฐีคิดได้ น่าจะเป็นเพราะชาวนาผอมแห้งแรงน้อย ยิงธนูไม่เก่ง จึงเจรจาขอแบ่งขุมทรัพย์ครึ่งหนึ่งวันรุ่งขึ้น เศรษฐีซึ่งแข็งแรงล่ำสันกว่า ขอยิงธนูเอง คราวนี้ ลูกธนูไปตกไกลกว่าที่ชาวนายิงมากโขแต่ก็เกิดเรื่องซ้ำรอย ลูกธนูตกในเขตที่ดินนายพลทหาร นายพลชาวพุทธคิดเหมือนเศรษฐี พระสงฆ์แก่ไม่โกหก ทั้งยังเชื่อว่า ชายชาติทหารอย่างเขา จะยิงธนูได้ไกลกว่า ขอแบ่งทรัพย์สินสามส่วนการยิงธนูตามลายแทงของพระธุดงค์ จึงเริ่มใหม่เป็นครั้งที่สาม เรื่องยิ่งบานปลายใหญ่ไปอีกเพราะคราวนี้ ธนูดอกนั้นไปตกในบริเวณพระราชวังของพระราชาทหารจับชาวนา เศรษฐี และนายพล ล่ามโซ่ไปเฝ้าพระราชา บ้านเมืองนี้เป็นเมืองพุทธ พระราชาก็ทรงเคร่งศาสนา เชื่อว่าพระสงฆ์แก่ไม่โกหก สั่งให้ทหารไปติดตามพระธุดงค์ชรารูปนั้นมาถาม“พระคุณเจ้า คนพวกนี้สร้างปัญหาวุ่นวายมากมาย เพราะนิทานโกหกของท่าน ข้าฯจึงอยากถามอีก สมบัติบ้าๆอะไรของท่านมีจริงหรือ ถ้ามีอยู่ที่ไหน?”“ไม่ใช่นิทานโกหกหรอกมหาบพิตร” พระธุดงค์ไม่ได้แก่แต่วัยแต่แก่วิชาด้วยถวายพระพร“คืนก่อนจากชาวนาอาตมาทำสมาธิ เห็นขุมทรัพย์มหาศาลหน้ากระท่อมชาวนา”“อ้าว! แล้วทำไมท่าน จึงบอกว่าอยู่ในจุดที่ลูกธนูตก” พระราชาทัก พระธุดงค์ชราก็มีข้อชี้แจงพวกเขาไม่ทำตามคำที่อาตมาบอก อาตมาบอกเขาว่า “เมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ก็ให้ปล่อยธนู ไม่ได้บอกให้ยิงธนู”แล้วเรื่องเล่าเรื่องนี้ ก็จบอย่างแฮบปี้เอนดิ้ง ด้วยปาฏิหาริย์ พระแก่ไม่แค่ไม่โกหกพระแก่ยังขลังทันทีที่พระราชาสั่งให้ทหารขุดหลุมหน้ากระท่อมชาวนา ก็พบขุมทรัพย์มีค่ามหาศาล พระราชาทรงแบ่งขุมทรัพย์ออกเป็นสี่ส่วน ตามที่ตกลงกันไว้พระธุดงค์ยังมีมุกเด็ดทิ้งท้าย เทศนาสอนว่า “ลูกธนูชี้ขุมทรัพย์นั้น อีกด้านก็คือ ลูกธนูแห่งตัณหา เมื่อพวกโยมยิงออกไปด้วยความมักมากอยากได้ มันก็มักไปตกที่โน่นที่นี่ ที่มีแต่ความว่างเปล่า”แต่ทันทีที่โยมปล่อยธนูความอยากลงตรงเท้า โยมก็จะพบขุมทรัพย์คือความสุขเต็มๆตรงนั้นพระอาจารย์พรหมยืนยันว่า เรื่องที่ท่านเล่า พระสงฆ์แก่ ไม่โกหกนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะตัวท่านเองก็เป็นพระสงฆ์แก่รูปหนึ่งเหมือนกัน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม