ในจำนวนผู้เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่ง นายกฯคนที่ 30 ของประเทศ มีทั้ง นักการเมืองมืออาชีพ นักการทหาร และนักธุรกิจ ซึ่งมีความรู้ความถนัดที่ต่างกันอยู่แล้ว มีทั้งมือใหม่ซิงๆและเก่าแก่ แบ่งเป็นพวก อนุรักษนิยม กับ ฝ่ายปฏิรูป ที่ถูกเหมาให้อยู่ในฝ่ายอนุรักษนิยม ชัดเจนคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจเลือกนายกฯของ 250 ส.ว.ในสภา ถ้าจะเทียบฟอร์มกันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะอนุรักษนิยมจัดกว่า พล.อ.ประวิตร เพราะรวบรวมเอา ทีมงาน กปปส. ทั้งหมดมาสานต่ออุดมการณ์ทางการเมืองส่วน พล.อ.ประวิตร พยายามจะออกจดหมายจะเคลียร์ตัวเอง ว่าไม่ได้เป็น ฝ่ายอนุรักษนิยม ร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมที่จะจับมือกับทุกฝ่ายที่เป็นประชาธิปไตยภายใต้จุดยืน เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความจงรักภักดีต่อสถาบันเป็นหลัก คุยได้ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลฝ่ายปฏิรูป ที่ประกาศชัดเจนว่าไม่จับมือกับฝ่ายอนุรักษ์แน่นอนก็คือ ก้าวไกล หัวหน้าพรรค พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศเลยว่า ไม่เอาสาม ป. ดังนั้น ถ้า เพื่อไทย ไปจับมือ พลังประชารัฐ ตั้งรัฐบาล ก้าวไกลก็จะไม่ร่วมด้วย จุดยืนชัดเจน มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนส่วน เพื่อไทย ไม่ได้ประกาศความชัดเจนในประเด็นนี้ ขอรอดูสถานการณ์หลังการเลือกตั้งอีกที รู้แค่ว่า แคนดิเดตนายกฯมีอยู่ 2 คนคือ แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน ก็เลยยังบอกไม่ได้ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน จัดอยู่ในประเภทมือใหม่ทางการเมืองทั้งคู่ยังไม่เห็นผลงานและวิสัยทัศน์ในการทำงาน รวมทั้งพิธาก็เช่นกันส่วนแคนดิเดตนายกฯคนอื่นๆ หลับตาก็เห็นภาพเป็นนิมิตแล้ว คงไม่ต้องไปอธิบายอะไรให้เมื่อยตุ้ม ทำงานกันมา 8 ปี เป็นอย่างไร ก็ทำต่อและทำต่อไปแบบนั้นเอาความจริงมาพูด คนที่ชอบ แพทองธาร โดยที่ยังไม่เห็นผลงานหรือความโดดเด่นเฉพาะตัว แต่ชอบเพราะ ทักษิณ ถือว่าเป็น บุญเก่า ที่ ทักษิณ ชินวัตร ทำไว้ เป็นคุณมหาศาล ใช้กี่ชาติก็ไม่หมด ยิ่งรัฐบาลชุดนี้ทำเอาไว้แย่อย่างไรก็จะไปเป็นอานิสงส์ให้กับ แพทองธาร มากเท่านั้นพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ใหม่ทั้งหน้าตา ใหม่ทั้งอุดมการณ์ เป็นคนหนุ่มไฟแรง พกเอาไฟมาเต็มตัว มีความคิดของคนรุ่นใหม่ ร้อยเปอร์เซ็นต์ คิดใหม่ทำใหม่ ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง เป็นการเมืองแนวใหม่อีกชื่อ เศรษฐา ทวีสิน รู้จักกันในนาม นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซีอีโอ แสนสิริ ที่สร้างอาณาจักรหมื่นล้านได้สำเร็จ เป็นนักอสังหา ริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ในมุมมองของนักธุรกิจทั่วไปส่วนจะมีเรื่องอื่นที่ยังไม่รู้ไม่เห็นอีกไม่นานก็คงมีคนขุดเอาเรื่องราวต่างๆมาแสดง ทุกซอกทุกมุมก็ขึ้นอยู่กับ เศรษฐา เองว่าทำบุญทำกรรมเอาไว้มากน้อยแค่ไหนอย่างน้อยคนที่ชื่อ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็จองกฐินเอาไว้แล้ววิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำต้องใช้เวลาพิสูจน์ งานการเมืองต้องให้เวลาตัดสิน การที่นักธุรกิจมาลงสนามการเมืองเต็มตัว เหมือนดาบสองคม จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ต้องบริสุทธิ์ โปร่งใส และตรวจสอบได้.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th