เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาความมั่นคงครอบครัวไทย ผ่านพ้นภัยวิกฤติประชากร” ว่า โครงสร้างประชากร อัตราเกิดน้อย ประชากรสูงอายุมากขึ้นจนอาจกลายเป็นสึนามิที่ตั้งตัวไม่ทัน หากยังไม่ตระหนักและเร่งแก้ไขจะเกิดผลกระทบต่อระบบต่างๆ จึงต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ โดยประชากร 66 ล้านคนต้องได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นกำลังสำคัญในการพึ่งพาตนเอง โดยมีครอบครัวเป็นองค์ประกอบในการสร้างพลังกายและพลังใจ เปลี่ยนสังคมโดดเดี่ยวให้เป็นสังคมเอื้ออาทร ต้องคิดถึงตนเองให้น้อยลงและคิดถึงส่วนรวมและสังคมมากขึ้น นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ในการดำเนินชีวิต การทำงาน โดยต้องทำทันทีและทำเชิงรุก ซึ่ง พม.ได้ปรับเปลี่ยนแล้วจากบทบาทเน้นการสงเคราะห์มาเป็นการสร้างพลังส่งเสริมศักยภาพกลุ่มเป้าหมายให้สามารถพึ่งตนเอง และอยากให้ทุกกระทรวงร่วมทำงานไปพร้อมกับ พม. การพูดถึงแต่ถ้วนหน้า เราต้องคำนึงถึงการคลังของประเทศด้วย สิ่งที่ พม.ให้ถ้วนหน้าได้คือโอกาสในการยืนและดำรงชีพบนลำแข้งความสามารถตนเองนายวราวุธกล่าวด้วยว่า แนวทางที่ต้องทำทันที คือ 1.การเสริมพลังวัยทำงาน ให้สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ 2.เพิ่มคุณภาพเด็กและเยาวชน 3.ดึงศักยภาพผู้สูงอายุมาใช้ให้เกิดประโยชน์ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ขณะที่ผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพิง ต้องมีศูนย์บริบาลผู้สูงอายุในชุมชนที่ให้ลูกหลานและชุมชนร่วมกันดูแล 4.เสริมศักยภาพและสร้างงานให้กับคนพิการ และ 5.สร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อสถาบันครอบครัวให้มีความมั่นคงในชีวิต การประชุมครั้งนี้จะระดมความคิดหามาตรการจากทุกกระทรวง เพื่อจัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้น เม.ย. นำสู่การดำเนินการของทุกกระทรวง และปลาย เม.ย.จะเสนอที่ประชุมสหประชาชาติเพื่อให้ประชาคมโลกได้เห็น และร่วมแก้ปัญหา.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่