วันหนึ่งราว พ.ศ.2501-02 เณรน้อยวัดดาวดึงส์ เปลี่ยนทิศทาง ไม่ลงเรือข้ามฟาก ไปเรียนบาลี เรียนนักธรรมตรี วัดมหาธาตุ เดินเลี้ยวซ้ายผ่านโรงเหล้าบางยี่ขัน...ไปถึงวัดคฤหบดีแปดเก้าปี ปีต่อมา เป็นทหารประจำเรือจันทร...ทอดสมอกลางเจ้าพระยา ระหว่างท่าเทเวศร์ ท่าวัดคฤหบดี คุยได้ ตอนอยู่ในเรือเห็นวัดคฤหบดีทุกวัน จนเมื่อไม่นานมานี้ มีคนชวนไปนั่งเรือ ไหว้พระ 9 วัดสำคัญตอนขึ้นวัดคฤหบดี พอจะรู้จักพระแซกคำบ้าง ตั้งใจกราบองค์ใหญ่หน้าโบสถ์...อยู่นาน จึงรู้ว่าเป็นองค์จำลอง พระแซกคำ องค์จริง องค์ย่อมกว่า ตั้งเด่นเป็นพระประธานอยู่ในโบสถ์คนรักศิลปะดูก็รู้ องค์นี้ “งามมาก” เทียบกันแล้ว งามกว่าเก่ากว่า พระที่ไทยได้จากลาว พระเสริม พระใส พระแสน สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาฯ งามกว่า พระแสนเมืองเชียงแตนพระเสริม พระใส พระแสน ร.4 ท่านโปรดฯให้อัญเชิญไว้ที่วัดปทุมวนาราม วัดของท่าน พระแสนเมืองเชียงแตง โปรดฯให้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า...นิมนต์ไปไว้ที่วัดหงส์รัตนารามประเด็นที่ผมสะดุดใจ...พระแซกคำ พระพุทธรูปองค์สวยแถวหน้า ในเอกสารที่กราบทูลถวาย ร.4 เรียกพระแซ่คำ พระที่มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ถึงร้อยองค์ ทำไม? จึงไปอยู่วัดคฤหบดีชื่อวัดคฤหบดี เป็นวัดพ่อค้า ไม่มีเค้าเป็นวัดเจ้านาย ถ้ากระนั้น ฐานะวัดคฤหบดี ไม่น่าจะธรรมดาส.พลายน้อย เล่าไว้ ในหนังสือพระพุทธรูปสำคัญ ในกรุงเทพ มหานคร...ในครั้งนั้น จางวางภู่ ข้าหลวงเดิมในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยาราชมนตรี จางวางมหาดเล็ก มีตำแหน่ง “ว่าพระคลังมหาสมบัติ”โปรดเกล้าตำแหน่งให้แล้ว พระราชทานบ้านหลวง...อยู่แถวบริเวณท่าพระเป็นเรื่องบังเอิญ บ้านหลวงจางวางภู่ เป็นบ้านเดิมของพระสุนทรโวหาร (ภู่) กวีเอกราชสำนักพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ ชื่อภู่เหมือนกัน ได้มาอยู่บ้านหลังเดียวกันคงพอจำนิราศภูเขาทอง ตอนบีบหัวใจกันได้บ้าง!“ถึงหน้าวังดังหนึ่งใจจะขาด คิดถึงบาทบพิตรอดิศร โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของสุนทร แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเช้าเย็น...”เรื่องที่ทำให้สุนทรภู่ ใจจะขาด คงอยู่ที่เห็นบ้านตัวเอง...ที่เคยอยู่สมัยรุ่งเรืองกลับมาหาเรื่อง พระยาราชมนตรีภู่ ได้บ้านหลวงพระราชทานหลังใหม่ท่าพระฝั่งพระนคร ท่านก็ยกบ้านเดิม สร้างวัดคฤหบดีถวาย เป็นวัดหลวง วัดที่คนโปรดถวาย...จึงเป็นเหตุผลให้ ร.3 ท่าน ถวายพระแซกคำส.พลายน้อย เริ่มต้นประวัติพระแซกคำว่า...พ.ศ.2369 ครั้งเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์เป็นกบฏ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ซึ่งเสด็จยกทัพไปปราบ...กราบทูล พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ เรื่องพระพุทธรูปที่รวบรวมไว้ว่า“อนึ่ง พระพุทธรูปสำหรับเมืองเวียงจันทน์ พระบางหายไป ว่าข้าพระพาไปฝังเสีย สืบยังหาได้ไม่ ได้แต่พระเสิม พระใส พระแซ่คำ ฯลฯ รวมอื่นๆ 8 องค์...”อ่านเรื่องพระพุทธรูปลาวตอนนี้ ก็เห็นว่าคนลาวรักพระของเขา ถ้าฝังซ่อนได้ทัน ก็ทำ รู้มาถึงแค่นี้ตอนไปไหว้พระลาวในวัดเมืองไทย ...เมื่อไหร่ หัวใจที่เคยปลื้มดื่มด่ำก็ลดหายนึกถึง เจ้าเณรน้อยสมัยเดินผ่านโรงเหล้าบางยี่ขันไปถึงวัดคฤหบดี จนวันนี้เพิ่งรู้จักวัดคฤหบดี ชื่อวัดเป็นพ่อค้า เนื้อแท้เป็นวัดของพระเจ้าแผ่นดินแต่ที่รู้ลึกว่า...บ้านประจำตำแหน่งกวี ร.2 ถูกยึดไปให้พระราชมนตรี คนโปรด ร.3 นี่คือจุดที่ทำให้ สุนทรภู่รำพัน สิ้นบุญสิ้นกลิ่นสุคนธา วาสนาเราก็สิ้นเหมือนกลิ่นสุคนธ์ ก็ใจหายสงสารสุนทรขึ้นมาที่พระพุทธเจ้าสอนว่า มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ สุขทุกข์ สรรเสริญ นินทา โลกธรรม 8 ประการ เป็นเช่นนี้เอง นักการเมืองทั้งหลาย ที่รู้ผลเลือกตั้ง สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง ก็คงเป็นเช่นเดียวกัน.กิเลน ประลองเชิง