ตอนที่ 2
อันดามันโบกมือเรียกเตชัส เขาปลีกตัวจากเพื่อนๆ เดินมาหา เตชัสเห็นอวัศยากำลังวิ่งหนีก็งง
อวัศยาวิ่งไปอย่างรับไม่ได้กับคนที่อันดามันบอกว่าแม่หมั้นให้ตนแล้ว พลันก็ได้รับเสียงไลน์เข้าจากอันดามันบอกว่า “แม่ส่งรูปพี่เตชัสมาให้ เผื่อเจอกันในงานก็ทักทายพี่เขานะ” อวัศยาดูรูปพึมพำรับไม่ได้ว่า
“จะเป็นคู่หมั้นเราได้ไง นี่มันแฟน...ไม่ใช่นี่มันชู้ของท่าน...”
พอดีเตชัสตามมาเห็นอวัศยากำลังดูรูปของตนในไลน์ก็แซวว่ามาแอบดูรูปตนทำไม แล้วแย่งโทรศัพท์ไปดู ถามว่าเธอเป็นโรคจิตหรือ
“คุณสิโรคจิต วิปริต ทำบัดสีบัดเถลิงในสระว่ายน้ำสาธารณะ หน้าไม่อาย!!”
เตชัสยิ้มแซวว่าไม่ยักรู้ว่าเธอจำตนได้แม่นขนาดนี้ อวัศยาทั้งโกรธทั้งอายวิ่งหนีไป ไปแล้วจึงนึกได้ว่าลืมโทรศัพท์อยู่ที่เขาย้อนกลับไปเอา เตชัสคืนให้แซวอีกว่าอย่าลืมลบภาพตนออกด้วยนะ
เตชัสถือโอกาสเคลียร์ว่าตนไม่ได้เป็นชู้กับภรรยานายพลทุนอู อวัศยาถามว่าไม่เรียกว่าชู้แล้วจะเรียกว่าอะไร เตชัสบอกว่าจะเรียกอะไรก็ได้ แต่อย่าเอาเรื่องนี้ไปพูดกับใคร
“ฉันจะพูด ถ้าท่านนายพลรู้ว่าตัวเองถูกตีท้ายครัว คุณคงไม่รอดแน่ กลัวเหรอ ถ้ากลัวก็ควรจะระงับความอยากของตัวเองบ้าง เวลาคนอื่นมองมาจะได้แยกออกว่านี่คนหรือสัตว์”
“คุณไม่รู้หรอกว่าเรื่องมันสำคัญยังไง ผมห่วงว่าถ้าผู้หญิงโก๊ะๆอย่างคุณไปพูดอะไรเพ้อเจ้อโดยไม่มีหลักฐาน ระวังนะ ท่านนายพลจะหาว่าคุณกล่าวหาภรรยาเขา แล้วคุณนั่นแหละจะซวย” อวัศยาถามว่าขู่เหรอ “ไม่ได้ขู่ แต่เตือนด้วยความหวังดี และหวังว่าคนสวยจะมีสมองคิดเป็น” พูดแล้วผละไปเลย
“อยากได้หลักฐานเหรอ!” อวัศยาจิกตาพึมพำ
ooooooo
พลโทอิสริยะ แม่ทัพภาค 3 ที่เป็นประธานการจัดงานและดูแลความเรียบร้อยของงานได้รับรายงานจากสายข่าวว่าให้ระวังกลุ่มต่อต้านนายพลทุนอูอาจจะมาป่วนงานในวันนี้ จึงสั่งคนของเราให้จับตาดูให้ดี
พลโทอิสริยะกล่าวต้อนรับและเชิญนายพลทุนอูให้เกียรติขึ้นกล่าวและร่วมเปิดงาน
เมธัสที่ตามชายที่มีท่าทีต้องสงสัยแต่คลาดกัน เตชัสเห็นเมธัสมองหาไปรอบๆก็แปลกใจ ขณะนายพลทุนอูกล่าวคำปราศรัยนั้น เมธัสเห็นชายน่าสงสัยคนนั้นกำลังปีนขึ้นไปยืนบนเก้าอี้สีหน้าเด็ดเดี่ยวยอมตาย เอามือล้วงบางอย่างในกระเป๋า เมธัสเชื่อว่าต้องเป็นปืน วิ่งเข้าไปตะโกน “หยุด!!” แล้วกระโจนเข้าใส่ชายผู้นั้นล้มกลิ้งไปด้วยกัน
นายพลทุนอูชะงัก บอดี้การ์ดบนเวทีเข้าประกบทุนอูทันที แขกในงานตกใจแตกฮือ เมธัสจับชายคนนั้นกดกับพื้นจึงเห็นว่าสิ่งที่เขาหยิบออกมาคือผ้าป้ายประท้วงที่เขียนว่า “เราต้องการอิสรภาพ คืนอิสรภาพให้แสนปุระ” และชายหญิงที่มาด้วยกันก็ชูป้ายแบบเดียวกันแต่คนละมุม และต่างตะโกนเรียกร้องอิสรภาพเป็นระยะ










