ตอนที่ 9
สำลีเฝ้ามองเหตุการณ์ทุกอย่าง ตัดสินใจ
ตรวจดวงชะตาของแสงแล้วพบว่าเขาใกล้หมดบุญ
เดือนดารารับรู้ด้วยสีหน้าระทมทุกข์ พลันก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อสำเหนียกได้ว่าผัวหมดรักตนแล้ว
“แปลว่าคุณพี่กำลังจะตามไปอยู่กับมันแล้วจริงๆอย่างที่ต้องการ”
“คงเป็นเช่นนั้นขอรับ”
“นี่แปลว่าที่ทำมาทุกอย่างไม่ได้ผล”
“คุณท่านตรอมใจมากจนสุดเยียวยาขอรับ”
“ลุงต้องช่วยฉัน ต้องทำไม่ให้คุณพี่ตาย ลุงต้องทำ ลุงต้องทำให้ได้”
“เพื่อคุณผู้หญิงกระผมจะทำให้ได้ขอรับ แต่การฝืนลิขิตฟ้าดินต้องมีสิ่งประกอบหลายอย่างมากขอรับ”
“ไม่ว่าจะกี่ล้านสิ่งลุงต้องทำให้ได้ คุณพี่ต้องอยู่กับฉัน ไม่ใช่ตามไปอยู่กับนังนั่น รับปากสิลุง รับปากฉัน!”
“ขอรับ กระผมรับปากขอรับ”
“ดีมาก ฉันจะไม่ลืมบุญคุณลุงเลย”
พริ้งตามสาระแนเจ้านายสาวเหมือนเคย
เดือนดาราโมโหอยากด่าให้หายคลั่งแต่สำลีห้ามไว้
“ปล่อยมันไปขอรับ มันอาจกำลังหมดบุญเช่นกัน”
“อย่างนั้นรึ น่าเสียดายมัน แต่มันก็ช่างสาระแนเหลือเกิน”
“มันสมควรจะไม่มีเงาหัวแล้วขอรับ”
สำลีผละไปทำพิธียืดชีวิตแสง ทิ้งเดือนดาราไว้กับความแค้นแน่นอก
“คุณพี่จะต้องอยู่กับน้องตลอดไป น้องจะไม่มีวันปล่อยให้คุณพี่ไปอยู่กับมัน!”
ooooooo
แสงทุกข์ใจมาก ไม่ยอมกินยอมนอน เอาแต่กอดผ้าคลุมไหล่ของพลอยและพร่ำเพ้อถึงเจ้าของ เดือนดาราช้ำใจมาก กระนั้นก็คะยั้นคะยอให้ผัวกินข้าว
“ตั้งแต่เมื่อวานคุณพี่ยังไม่ยอมทานอะไรเลย เดี๋ยวหมดแรงนะคะ”
“ช่างเถิด พี่ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น พี่อยากกินแต่อาหารที่พลอยทำให้พี่”
ยิ่งฟังยิ่งช้ำ แต่เดือนดาราไม่ท้อ แบมือขอผ้าคลุมไหล่ของพลอยแต่แสงไม่ให้ แนบผ้าไว้กับตัวอย่างหวงแหน
“พี่ไม่ให้ใครมาเอาผ้าผืนนี้แยกไปจากตัวพี่เด็ดขาด”
เดือนดาราอยากกรีดร้องแต่ต้องข่มใจและพยายามป้อนข้าวผัว แต่แสงก็ตรอมใจมากจนสำรอกออกมา
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ แต่พี่ทานไม่ลงจริงๆ มันเต็มตื้น มันไม่อยากจะกินอะไรทั้งนั้น”
อาการของแสงทรุดอย่างรวดเร็ว เดือนดาราอดรนทนไม่ไหวต้องตามหมอมาดู กระนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก แสงป่วยเพราะตรอมใจไม่ใช่เพราะโรคร้าย
นางเอิบช่วยเดือนดาราดูแลแสง ท่าทางเย็นชาแปลกๆของเจ้านายสาวทำให้อดระแวงไม่ได้ สุดท้ายก็ทนไม่ไหวฉวยโอกาสแสงอยู่ตามลำพังไปปั่นหัว
“ป้าสงสัยว่าทำไมคุณพลอยตายง่ายดายนักเจ้าค่ะ ป้าสงสัยว่าจะมีเบื้องหลังเจ้าค่ะ”
“เหลวไหลป้าเอิบ”
“อย่าเคืองป้าเลยเจ้าค่ะ ป้าแค่สงสัยเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“แล้วอย่างไรต่อไป”
“คือนังพริ้งมันเล่าให้ใครๆฟังว่ามันเจอผี
เดินบนเรือนคุณผู้หญิงตอนเธอไปหาน้องชายเจ้าค่ะ แล้วคุณพลอยก็ยังเดินไปดูถึงในห้องเจ้าค่ะ แล้วก็กลับมา...เอ้อ...เป็นลมเจ้าค่ะ”
“นี่ป้าเอิบกำลังสงสัยว่า...”
“หามิได้นะเจ้าคะ ป้าไม่บังอาจ เพียงแต่สะกิดใจเรื่องผีที่นังพริ้งมันเล่า”
“อย่าได้เที่ยวพูดไปทีเดียวนะป้าเอิบ ดีไม่ดีคุณผู้หญิงจะเสียหาย”
แม้จะออกปากปกป้องเดือนดาราแต่แสงก็อดคิดตามข้อสันนิษฐานของนางเอิบไม่ได้ เดือนดาราแอบได้ยินทุกอย่าง ร้อนใจมากปรี่ไปหารือกับสำลี
“นังแก่เอิบพูดจาไม่ไว้หน้าฉัน มันพยายามพูดให้กลายเป็นว่าคุณท่านกับนังพลอยโดนยาสั่ง มันสงสัยฉัน”
“มันนั่นแหละขอรับจะโดนเสียเอง นี่คงเป็นเพราะนังพริ้งปากสว่าง เอาไปโพนทะนาเรื่องมันกับคุณพลอยเจอผีบนเรือนคุณดารา แล้วพากันขึ้นไปดูก่อนกลับมาตายขอรับ”
“เรื่องอื่นไม่สำคัญเท่ากับเรื่องยื้อชีวิตคุณพี่ แนะนำฉันด้วยลุงสำลี”
“ยากเย็นแสนเข็ญ แต่กระผมขอแนะนำเป็นเบื้องต้นแบบนี้ขอรับ...”
ooooooo
สำลีแนะนำเดือนดาราให้เอาอกเอาใจผัว รวมทั้งอ้างถึงวิญญาณของพลอยเพื่อให้แสงมีกำลังใจมากขึ้น เดือนดาราขัดใจมากแต่พยายามทำให้ดีที่สุด
เดือนดาราตะล่อมแสงให้ไปทำงานเพราะรู้ดีว่างานคือสิ่งที่เขารัก แต่เขาก็ปฏิเสธ
“พี่ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น พี่จะอยู่ในห้องนี้เพราะมันคล้ายกับพี่ได้อยู่กับพลอยตลอดเวลา”
“แล้วคุณพี่จะปล่อยน้องไว้ตามลำพังหรือคะ”
น้ำเสียงตัดพ้อน้อยใจของเดือนดาราทำให้แสงชะงัก ดึงตัวเมียหลวงสุดที่รักมากอด
“น้องรักของพี่ คนดีของพี่ พี่รักน้องไม่มีวันผันแปร และพี่ก็รู้แก่ใจตนด้วยความปลื้มใจและภาคภูมิใจในความรักภักดีที่น้องมีต่อพี่ พี่ไม่ได้รักพลอยมากไปกว่าน้อง แต่พี่ไม่อาจทำใจได้กับการจากไปกะทันหันของเขา”
“ทำไมคุณพี่ไม่คิดในแง่ของน้องพลอย เธอไม่ต้องการเห็นคุณพี่ในสภาพนี้ เธอต้องอยากเห็นคุณพี่สบายดี ถ้าคุณพี่เป็นเช่นนี้ วิญญาณของเธอคงทุกข์ระทมเพราะรักและห่วงใยคุณพี่”
“น้องดาราคิดว่าพลอยเขาคิดเช่นนั้นหรือ”
สีหน้าลังเลของแสงทำให้เดือนดาราใจชื้น รีบตอบ “แน่นอนค่ะ น้องพลอยรักคุณพี่ไม่ต่างกับน้อง คุณพี่เห็นแล้วว่าน้องทุกข์ระทมเจียนตายเพียงใดกับการที่คุณพี่เป็นเช่นนี้ น้องพลอยก็เช่นกันค่ะ”
แสงอยากให้วิญญาณพลอยมีความสุขเลยยอมกินข้าว กระนั้นก็พร่ำเพ้อถึงแต่พลอยจนเดือนดาราแทบทนไม่ไหว อยากอาละวาดให้หายคลั่งแต่สุดท้ายก็ต้องข่มใจพาเขาชมสวนและเยี่ยมหลุมศพของพลอย










