ตอนที่ 5
“ปะ...ปล่อยเจ้าค่ะ”
แสงชอบใจมากกับท่าทีไม่ประสาของว่าที่ เมียน้อย ดึงตัวมากอดแน่น
“ขวัญมานะ กอดเอาไว้แบบนี้ หายตกใจหรือยังคนสวย”
“โธ่...ทำไมทำเช่นนี้เจ้าคะ ฉวยใครมาเห็นเข้าจะดูแคลนคุณท่านว่ามาเหยียบเรือนบ่าว”
“ฟังพูดเข้าสิ ก็รู้อยู่ไม่ใช่หรือว่าใครที่นี่จะกล้ามาดูแคลนฉัน”
“คุณผู้หญิงเจ้าค่ะ ท่านคงไม่สบายใจ”
“ที่นี่มีแต่เราสองคนไม่มีผู้อื่น เพราะฉะนั้นจงอย่าเอ่ยถึงผู้อื่น”
“ยายเอิบเจ้าค่ะ เดี๋ยวแกคงกลับมา”
“แกคงยังไม่กลับมา”
แสงกระซิบเสียงกระเส่าแล้วก้มจูบแก้มพลอยฟอดใหญ่
“แก้มหอมเหลือเกิน ขอบใจที่ใส่น้ำหอมของฉัน”
พลอยอ่อนระทวยทั้งตัว แสงย่ามใจมากเดินหน้ารุกเต็มที่ แม้พลอยจะพยายามผลักไสเพราะยังประหม่าปนรู้สึกผิด เขาก็เดินหน้าไม่ถอย
“ใจคอจะไล่กันดื้อๆแบบนี้หรือคนสวย ทำไมไม่เชื้อเชิญให้ฉันนอนพักอย่างที่เอ่ยปากขอ”
“คุณท่านทำตัวเยี่ยงโจรจะให้เชื้อเชิญโจรมานอนพักได้อย่างไรเจ้าคะ กลับเรือนเถิดเจ้าค่ะคุณผู้หญิงรอแล้ว”
ท่าทางใสซื่อของพลอยทำให้แสงหัวเราะชอบใจ ดึงตัวมากอดจูบแล้วอุ้มไปที่เตียง
“ช่างต่อปากต่อคำได้น่ารักน่าเอ็นดู น่ากอดน่านอนด้วยแท้ๆ พลอยคงยังไม่รู้จักวิสัยโจร โจรน่ะมาปล้นทั้งทีจะไม่กลับเด็ดขาดจนกว่าจะได้ของที่ต้อง ประสงค์”
พลอยรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไรแต่ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ “ที่นี่ไม่มีสิ่งใดมีค่าดอกเจ้าค่ะ”
แสงรวบตัวพลอยมากอดแน่น “นี่ไง...จับตัวได้แล้ว สิ่งมีค่าเหนืออื่นใด”
“โธ่...คุณท่าน”
“รู้ไหม...พลอยคือพลอยที่มีค่าที่สุดของฉัน”
ooooooo
ระหว่างที่แสงเข้าหอกับพลอยสมใจ เดือนดารางุ่นง่านคนเดียวที่เรือนของตน ใจก็พร่ำบอกว่าจะยอมให้แสงมีเมียน้อยเพื่อให้เขากลับมารักเธอเหมือนเดิม
กระนั้นความตั้งใจทั้งหมดก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อแสงกลับมาที่เรือนเธอกลางดึกพร้อมกลิ่นน้ำหอมฝรั่งที่เหมือนของเธอไม่ผิดเพี้ยน เดือนดารารู้ทันทีว่าผัวผิดคำสัญญาซื้อน้ำหอมฝรั่งให้พลอยอีกคน
การกระทำของผัวทำให้เดือนดาราเหลืออด ยิ่งได้ยินเขาละเมอชื่อพลอยยิ่งฉุนขาดฟาดมือบนหน้าเขาเต็มแรง!
แสงตกใจมากโดนเมียตบ สีหน้างัวเงียเปลี่ยนเป็นหงุดหงิดและไม่พอใจที่โดนเมียทำร้าย เดือนดาราเห็นท่าทางไม่ทุกข์ร้อนใจของเขาก็ทนไม่ไหว โพล่งตามที่ใจคิด
“ก่อนนอนว่ารอได้ แต่ได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวคุณพี่...รึจะแก้ตัวว่าบ้านคุณบพิตรดื่มเหล้าฝรั่งกลิ่นน้ำหอมคะ”
“น้องช่างจับผิดพี่มากเกินไปแล้ว”
“ใช่ค่ะ เพราะมันตำตาตำใจจนรู้ว่านี่มันคือกลิ่นน้ำหอมที่ติดมาจากหญิงอื่นที่คุณพี่ไปนอนกับมันมา มิน่าถึงเหน็ดเหนื่อยนักหนาจนกระทั่งจะพูดจากับเมียยังไม่มีเรี่ยวแรงจะพูด เมียพูดด้วยก็ไม่มีปัญญาจะฟัง”
“เอาเถิด...บอกมาว่าน้องต้องการบอกสิ่งใดพี่”
“สายเกินไป หมดเวลาที่เราจะมาพูดกันเรื่องนั้นแล้วค่ะ”
“ไม่เอาน่า ตบหน้าพี่จนกรามจะหักแล้วบอกมาเถิดว่าน้องต้องการสิ่งใดกันแน่”
“ต้องการอยู่กันอย่างสงบ แม้ว่าจะต้องทนทุกข์เพียงใด”
“ขอบใจ...พี่ขอบใจมาก เราสามคนจะอยู่กันอย่างสงบ เราจะปรองดองต่อกัน”
“ไม่ได้แล้วค่ะคุณพี่ ปากคุณพี่บอกว่าต้องการปรองดองแต่มือคุณพี่เงื้อมีดพุ่งมาทิ่มแทงหัวใจของน้อง แล้วเหตุใดยังกล้ามาเอ่ยอ้างคำว่าปรองดองต่อกัน”
“พี่ขอกลับเรือนตอนนี้ พี่กับน้องพูดกันไม่เข้าใจ”
“ก็ยอมรับมาสิคะว่าไปนอนกับนางพลอยมา”
“ถ้าพี่รับแล้วน้องได้สิ่งใดที่ดีขึ้นหรือ นอกจากจะโกรธแค้นมากขึ้น...พี่ขอตัว!”
พูดจบก็ลุกจากเตียงจะกลับเรือนใหญ่ เดือนดาราไม่ยอมตามไปกระชากแขนผัว
“คุณพี่กระทำการไม่ไยดีน้องสองคราแล้วนะคะ”
“อย่าตามมากระชากลากทึ้งพี่ ตบหน้ากันสาสมใจไปแล้ว พอเพียงเถอะ...พี่เกิดมายังไม่เคยเห็นเมียบ้านไหนกล้าหยามผัวด้วยการตบหน้า ขนาดเขามีเมียเป็นสิบคน”
แสงคร้านจะเถียงกับเมียหมุนตัวหนี เดือนดาราไม่ยอมจบโพล่งไล่หลัง
“เอาสิ! หันกลับมาตบมาตีน้อง ฆ่าน้องให้ตาย!”
คำพูดรุนแรงของเดือนดาราทำให้แสงเริ่มฉุน ตอกเสียงเข้ม “พี่ไม่ใช่นักเลงคุมซ่อง พี่คือคนที่ฉุดน้องมาจากนรกเพื่อให้พ้นเงื้อมมือคนเลวพวกนั้น จำไว้...
อย่ากระทำการใดๆเพื่อลบหลู่ผัวเช่นนี้อีก”
จบคำก็ผลุนผลันกลับเรือนใหญ่ ทิ้งเดือนดาราให้ร้องไห้ฟูมฟายตามลำพัง
“คนใจร้าย ในโลกนี้...ในชีวิตนี้มีแต่พบเจอคนใจร้าย!”
ooooooo
พลอยหลับสนิทด้วยความสบายใจและสบายกาย ฝันหวานถึงสัมผัสวาบหวามของแสงจนค่อนคืนก็สะดุ้งตื่นเพราะโดนผีนายอ่ำ ผีผู้หญิงผมยาวและชายชุดดำตามฆ่า!
นางเอิบตื่นตามหลานสาว ตกใจไม่แพ้กันเมื่อได้ยินเรื่องราวความฝัน โดยเฉพาะเรื่องชายชุดดำที่ตนเองก็เคยเจอ กระนั้นใจอคติก็ทำให้นางเอิบ
พาลพาโลถึงเดือนดารา
“ตัวบาปตัวเวรมันมาอยู่เลยมีพวกผีปีศาจจากนรกมาเพ่นพ่าน ต่อไปขึ้นเรือนใหญ่แล้วคุณท่านคงไม่รีบกลับไปหานางโลมนั่น จำไว้...รั้งท่านไว้จนเช้าให้ได้”
“พลอยละอายแก่ใจเหลือเกินยาย”
“อายก็ทำอะไรไม่ได้หรอก พลอยเป็นเมียท่านแล้ว”
“แต่พลอยทำตัวไม่ถูก”
“ระวังตัวไว้ นังนั่นมันดุร้ายมาก มันไม่ปล่อยพลอยแน่ เอ็งต้องหันหน้าสู้ อย่าได้กลัวมันอีกต่อไปในเมื่อศักดิ์ศรีมีเท่าเทียมกันแล้วในฐานะเมียของคุณท่าน!”










