ตอนที่ 4
พลอยก็ไม่สบายใจนักกับท่าทีของแสง แม้จะมีใจเอนเอียงไปทางเขาแต่ก็อดคิดถึงคำสอนของหลวงปู่มั่นที่พร่ำเตือนไม่ให้มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น นางเอิบเห็นหลานสาวที่หมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นเมียแสงลังเลก็พยายามตะล่อมหลอกล่อให้อีกฝ่ายยินยอมเพราะอยากเอาชนะเดือนดารา
“บุญกำลังมา วาสนากำลังส่ง ยายดีใจด้วยนะที่ท่านบอกให้พลอยมาทำงานที่นี่”
“จ้ะยาย แต่มันจะดีรึ ถ้า...”
“ไม่มีถ้า ไม่มีแต่ใดๆ ขอเพียงคุณท่านพึงพอใจ คิดดูเอาเถิด...พ่อก็ตาย แม่ก็ตาย ยายก็แก่ แล้วจะมีใครเหลียวแล อยู่ตามลำพัง...สวยๆอย่างเอ็งจะโดนคนลอบมาขืนใจสักวัน”
ขณะที่พลอยสู้กับใจตัวเองอย่างหนัก แสงไม่ยี่หระคำขอร้องและคำสัญญาที่เคยให้กับเดือนดาราเพราะใจพร่ำเรียกหาแต่เรือนร่างเย้ายวนของพลอย กระนั้นเขาก็ปลอบใจตัวเองว่าจะไม่รักใครมากเท่าเดือนดารา
เดือนดาราได้ยินเสียงถอนหายใจของผัวแต่ยังแกล้งหลับ กระทั่งเขาลุกจากเตียงกลางดึกและโน้มตัวจูบ
“ถึงอย่างไรพี่ก็รักน้องดาราเสมอ”
แสงออกจากห้องอย่างแผ่วเบาหลังจากนั้น เดือนดาราสะอื้นไห้ พึมพำถึงหลวงปู่มั่น
“หลวงปู่เจ้าขา...ชาตินี้จะมีใครรักและภักดีต่อหนูเพียงคนเดียวโดยไม่มีผู้อื่นบ้างไหมเจ้าคะ”
ooooooo
ทั้งพลอยและแสงต่างกระวนกระวายถึงกันและกันอย่างสุดจะห้ามใจ เพราะตัณหาและความใคร่ล้วนๆทำให้ทั้งสองต่างไม่ยอมห้ามใจโดยไม่สนเลยว่าใครจะต้องทุกข์ทนจากความรักครั้งนี้บ้าง
เดือนดาราก็เป็นหนึ่งในนั้น หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญลำพังจนถึงเวลาใกล้รุ่งแสงจึงกลับเข้ามา
เสียงสะอื้นของเมียรักทำให้แสงสะท้านในอก เดินไปโอบกอดจากด้านหลัง
“นอนไม่หลับหรือน้อง”
“คุณพี่เองก็นอนไม่หลับเช่นกันนะคะ”
“พี่...เอ้อ...ตื่นเต้นที่พระจะมาทำบุญบ้านเรา”
“อ้อ...นี่ก็ใกล้เช้าแล้ว คุณพี่กลับเรือนของคุณพี่ไปเตรียมตัวทำบุญกันเถิดค่ะ”
ท่าทางนิ่งสงบของเดือนดาราทำให้แสงรู้สึกผิดขึ้นมา ยกมือปาดน้ำตาให้
“คนดี อย่าร้องไห้”
“ไม่มีใครอยากร้องไห้ ทุกคนล้วนอยากหัวเราะแต่ใจมันร้องไปแล้ว น้ำตานี้จากใจแล้วจึงไหลล้นออกมาที่ตา”
เดือนดาราสบตาผัวแล้วร้องไห้อย่างไม่อาย แสงสะท้อนใจมากดึงเมียรักมากอดแนบอก
“คนดี จำไว้ว่าพี่รักน้องเสมอ...รักที่สุด”
นางเอิบอารมณ์ดีและมีความสุขมากเพราะเชื่อว่าพลอยจะได้เป็นเมียแสงอีกคนเร็วๆนี้ เมื่อพริ้งมาขอสำรับเช้าไปให้เดือนดาราก่อนเวลาที่หลวงปู่มั่นจะมาทำพิธีปัดรังควาน ก็อดไม่ได้จะค่อนแคะแดกดันต่อหน้าบ่าวคนอื่น
“เอาละเหวย...ฟังให้ดีพวกเรา ใครที่มันกินก่อนพระฉันมันผู้นั้นตายไปจะกลายเป็นเปรตในชาติหน้า”
“ปากเสีย โดนไปจนปากบวมยังไม่เข็ดอีกหรือ ฉันจะไปฟ้องคุณผู้หญิงว่ายายเอิบแช่งท่าน”
“เชิญแกขี่ม้าสามศอกไปบอกนายแกเลย ยังไม่รู้ตัวเหรอว่าจะตกอับ...พวกเปรตตกอับ แกไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่”
“ไม่มีวันซะหรอก คุณท่านรักนายฉัน...ทั้งรักทั้งหลงมากมาย”
“คงยังไม่รู้สินะว่าคุณท่านออกปากให้รับ
นังพลอยมาทำงานที่นี่แล้ว งามหน้าดีไหมล่ะพวกเปรต!”
พริ้งเจ็บแค้นแทนเจ้านายสาวมากปรี่ไปฟ้อง เดือนดาราเดือดดาลมาก
“มิน่า...นังเอิบมันจึงเหิมเกริมหนัก”
“มันได้ทีขี่แพะไล่พริ้งเลยแหละเจ้าค่ะ หัวเราะโห่ฮาสารพัดเจ้าค่ะ”
“คุณพี่กำลังหักด้ามพร้าด้วยเข่า หักหน้ากันชัดๆ”
“แววตาที่คุณท่านมองตามนังพลอยนี่หยาดเยิ้มชวนเคลิ้มฝันที่สุดนะเจ้าคะ คุณท่านก็แปลกนะเจ้าคะ พริ้งเคยได้ยินโบราณพูดกันว่าผู้ชายเหมือนไม้เลื้อยเหมือนนายพราน จ้องฮุบเหยื่อเหมือนใจไม่รู้จักอิ่มเจ้าค่ะ”
“หยุดพูด! ไม่เช่นนั้นฉันจะตบแกให้ปากบวมยิ่งกว่านังเอิบอีก”
“ก็พริ้งแค้นแทนนี่เจ้าคะ พริ้งลงเรือลำเดียวกับคุณผู้หญิงแล้ว จะค้านหัวชนฝาเรื่องผู้ชายกินเล็กกินน้อยเจ้าค่ะ”
“ขอบใจ แต่อย่าให้มันออกนอกหน้านัก”
ooooooo
พริ้งทำให้ตามที่บอกจริงๆ ออกหน้าต่อต้านและขัดขวางนางเอิบสุดตัว กระนั้นนางเอิบก็ส่งพลอย ยกขนมไปถวายพระจนได้ แสงมองตามจนเหลียวหลัง ก่อนจะแอบตามไปเงียบๆ
เดือนดาราต้องกลั้นน้ำตาต่อหน้าหลวงปู่มั่นที่มาทำพิธีให้ แสงไม่ได้ยี่หระความรู้สึกเมียรัก เดินตัวลอยไปประกบพลอยที่กำลังจัดสำรับขนมถวายพระ
“มันคงจะหนัก ฉันจะช่วยถือ”
พลอยตะลึงมาก พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขา “อิฉันถือเองได้เจ้าค่ะ”
“ที่นี่ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งฉัน”
แสงลอบมองหน้าแดงก่ำของพลอยด้วยความ ชอบใจ และคงเกี้ยวอีกหลายประโยคหากเดือนดาราจะทนไม่ไหวโผล่มาขวางเสียก่อน แววตารู้ทันผัวจนเขารีบผละตัวจากพลอยแทบไม่ทัน
“นึกว่าคุณพี่จะไปเข้าห้องน้ำ ที่แท้มาเดินสำรวจของหวานอยู่ที่นี่เอง”
“พี่ผ่านมาน่ะ อยากมาดูว่ามีขนมอะไรบ้าง”
“เลยเจอขนมถูกใจไม่ออกมาจากห้องนี้จนกระทั่งพระฉันเสร็จ ถ้าน้องมาช้าพระท่านมิอดขนมหวานหรือคะ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นดอก พี่กำลังจะออกไปอยู่แล้ว”
“แต่ห่วงว่าพลอยจะถือขนมไม่ไหวจึงจะ
เข้าไปช่วยถือ ช่างมีน้ำใจมากนะคะ สวยมากนะคะแม่พลอยคนนี้ สวยกว่าดาวเรืองมากนัก”










