ตอนที่ 10
ตกค่ำ ลีโอกับน้ำขิงถูกคุณอิทเรียกตัวมาพบที่แกลเลอรี่ เพื่อมอบเช็คเงินสดค่ารูปวาดหลังหักค่าใช้จ่าย น้ำขิงมองตัวเลขในเช็ค ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีใครใจป้ำขนาดนี้ ลีโอพยายามกล่อมให้คุณอิทบอกชื่อคนที่เหมารูปเขาไป คุณอิททำอย่างนั้นไม่ได้เนื่องจากลูกค้าขอเอาไว้
“อีกเรื่องที่ผมต้องแจ้งคือเสร็จจากงานนี้ คิวเรเตอร์จะนำรูปไปจัดแสดงที่แกลเลอรี่ที่ลอนดอนนะครับ”
“คุณนี่ดังใหญ่แล้วนะ” น้ำขิงกระเซ้า คุณอิทเห็นลีโอนิ่งเงียบไปกลัวเขาจะจับพิรุธได้ รีบบอกว่าลูกค้าของตนทำงานกับคิวเรเตอร์หรือภัณฑารักษ์ที่นั่น ซึ่งมองหางานจากทางเอเชียไปจัดแสดงพอดี
“ถ้าคุณมีงานอยากจัดแสดงอีก ติดต่อผมโดยตรงเลยนะครับ” ว่าแล้วคุณอิทยื่นนามบัตรให้ลีโอ...
เสร็จธุระกับลีโอ คุณอิทโทร.ไปรายงานอลิสว่าทุกอย่างเรียบร้อยตามที่สั่ง ลีโอดีใจมากที่รู้ว่าผลงานของตัวเองจะได้ไปจัดแสดงที่ลอนดอน อลิสฝากเขาจัดการเรื่องนี้ให้ด้วย มีค่าใช้จ่ายอะไรให้ติดต่อสเตฟานได้เลย วางสายแล้วเดินไปดูรูปวาดฝีมือตัวเองบนผนังบ้าน
“สักวันแม่คงจะได้เอารูปของลูกมาติดตรงนี้นะลีโอ”
ooooooo
ณ ห้องประชุมของบริษัท LV สรัลกับเพลงพิณมีให้สัมภาษณ์พิเศษกับนักข่าวหลายเรื่อง ทั้งเรื่องวุ่นวายระหว่างแถลงข่าวเปิดโครงการริมน้ำ ทั้งเรื่องชีวิตคู่ซึ่งเป็นที่โจษจันกันในโลกโซเชียลมาตั้งแต่วันแต่งงาน การตอบคำถามของทั้งคู่เป็นไปในทำนองเดียวกัน คือต่างก็รักกันมากและต่างเติมเต็มชีวิตให้กันและกัน
นอกจากนี้เพลงพิณยังคุยอวดด้วยว่าเราสองคนแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย ใครจะเม้าท์อย่างไรก็ไม่มีอะไรต้องกลัว การสัมภาษณ์ครั้งนี้เผยแพร่บนสื่อออนไลน์อีกด้วย อลิสเห็นข่าวจากในไอแพด อดเจ็บแปลบใจไม่ได้ที่เห็นทั้งคู่หวานใส่กันจนห้องประชุมมดขึ้น...
ปัญหาระหว่างแคทกับกัสโซ่ชักจะบานปลายใหญ่โต เนื่องจากเธอเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อ ดิเรกพ่อของแคทพาลูกสาวบุกมาที่บริษัท LV เรียกร้องให้กัสโซ่แต่งงานกับแคท แต่เขาไม่ยอม ทั้งคู่ก็เลยมีปากเสียงกัน สรัลขอร้องให้อลิสเป็นคนจัดการเรื่องนี้ เธอกลับบอกว่านี่เป็นเรื่องของลูกกับแคทสองคน เธอไม่ขอยุ่งเกี่ยว
“ลูกสาวของคุณดิเรกเคยทำให้ลูกชายฉันเข้าหน้ากันไม่ติดมาแล้ว ครั้งนั้นฉันให้โอกาสลูกสาวคุณ แต่ครั้งนี้ฉันขอให้เป็นการตัดสินใจของลูกชายฉันบ้าง”
ดิเรกไม่ค่อยจะพอใจนักแต่ก็ยอมตามที่อลิสต้องการ กัสโซ่เห็นแม่กับพ่อให้ท้าย จึงตัดสินใจบอกแคทว่าขอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันดีกว่า เธอไม่ยอมให้จบง่ายๆแบบนี้เด็ดขาด ดิเรกเห็นว่าพูดไปก็เปล่าประโยชน์ชวนลูกกลับ แล้วดึงตัวออกไป กัสโซ่ขอบคุณพ่อกับแม่ที่เข้าข้าง สรัลตบไหล่ลูกเบาๆอย่างปลอบใจ เป็นจังหวะเดียวกับเพลงพิณเปิดประตูห้องเข้ามาถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง อลิสโวยใส่พ่อลูกเขาจะปลอบกันไม่เห็นหรือไง
“ลูกของเรายังไงก็เป็นลูกของเราจริงไหมคะสรัล เรื่องแบบนี้คนนอกครอบครัวไม่มีทางเข้าใจ”










