ตอนที่ 14
เมื่อผีดิบอีกสามตัวหายตกใจเข้ามาคำรามใส่เพื่อนที่ถูกไฟไหม้ มรกตพยายามจะหาทางตามชีพเข้าไปแต่ติดพวกผีดิบ จนกระทั่งเห็นหั่งหลี อาเชาและลูกน้องเดินออกมาจึงรีบซ่อนตัว หั่งหลีเอาปืนยิงหัวผีดิบตัวที่ถูกไฟคลอกจนตาย แล้วโยนยาบ้าหลายสิบเม็ดให้ตัวที่เหลือแย่งกันกินอย่างมูมมาม มรกตเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าพวกมันถูกเลี้ยงด้วยยาบ้า
ด้านชีพใช้คบไฟที่ปักอยู่แถวนั้นไล่งูเพื่อจะเข้าไปช่วยผู้พันฯ ทันใดก็สะดุดกับดักทำให้แหตกลงมาครอบคลุมร่าง ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด พวกหั่งหลีเดินเข้ามาเอาปืนจ่อ อาเชากระชากแหออกแล้วปลดปืนของชีพและดึงกระเป๋าที่ใส่นกอินทรีมา ชีพจะสู้ก็โดนพลังไทชิของหั่งหลีกระเด็น และเป่ามนตร์จนเขานิ่งงัน
ด้วยพลังของหั่งหลีอ่อนจึงไม่รู้ว่าที่ตัวชีพมีอินทรีของแท้อยู่ แต่พอได้สัมผัสอินทรีในกระเป๋าก็รู้ว่าเป็นของปลอม จึงโกรธสั่งจับชีพมัดไว้ไม่ห่างจากผู้พันพิชิตเท่าไหร่ แล้วขู่ให้บอกที่ซ่อนอินทรีของจริง ผู้พันฯส่งสายตาห้ามชีพทำนองยอมตายดีกว่า หั่งหลียิ่งโกรธสั่งลูกน้องเอายาเสพติดแบบใหม่ที่คิดค้นได้เพื่อเปลี่ยนคนให้กลายเป็นผีดิบมา จะฉีดใส่ผู้พันพิชิต
ชีพร้อนรนอยากจะบอกแต่ไม่กล้าขัดคำสั่ง ระหว่างหน้าสิ่วหน้าขวานนั้น ฮักเหลี่ยมกับฮุยลิและลูกน้องบุกมาถึงหน้าวิหาร และยิงปืนขึ้นหลายนัดเป็นการขู่ อาเชาชะงักไม่ทันจิ้มเข็มลงไป ลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานว่ามีคนบุกมา หั่งหลีกับอาเชาเลิกสนใจชีพกับผู้พันฯ
พากันออกไปรับมือ...ฮักเหลี่ยมกับลูกน้องยิงกราดใส่ลูกน้องอาเชาล้มตาย หั่งหลีออกมาเผชิญหน้า
“จางซูเหลียงคงจะกลัวหัวหดล่ะสิ ถึงได้ส่งลูกน้องมา”
“คนอย่างแกมันกระจอกเกินไป ไม่ต้องถึงมือนายท่านหรอกหั่งหลี”
“ไอ้จางซูเหลียงมันทรยศ คนของมันจะต้องถูกกวาดล้าง รวมทั้งเอ็งด้วยไอ้ฮักเหลี่ยม”
ฮักเหลี่ยมหัวเราะเหยียดหยัน แล้วสั่งให้ส่งนกอินทรี หั่งหลีท้าให้บุกเข้ามาเอาเอง จึงเกิดการยิงสู้กันสนั่น มรกตฉวยโอกาสวิ่งหลบเข้าไปช่วยชีพกับผู้พันฯ...ชีพยังไม่ยอมหนีจะหาชิ้นส่วนนกอินทรีชิ้นที่ 5 ให้ได้ก่อน ผู้พันฯเก็บกระเป๋าที่ใส่นกอินทรีไปด้วย มรกตไม่รู้ว่าในนั้นเป็นของปลอม พวกผีดิบสามตัวเข้ามาขวาง ชีพกับผู้พันฯไม่อาจทำอะไรพวกมันได้ มรกตเห็นลังยาบ้าจึงวิ่งไปหยิบถุงยามาร้องบอกพวกผีดิบ แล้วโยนไปมุมหนึ่งห่างๆ พวกมันกรูกันแย่งกิน










