ตอนที่ 14
ในห้องทำงานภายในเซฟเฮาส์ของสุชาติ สุชาติกับอเล็กซ์กำลังวิดีโอคอลกับนิโคไล หัวหน้าสายลับรัสเซีย เพื่อบอกว่าได้ชิ้นส่วนนกอินทรีมาแล้วหนึ่งชิ้น แต่ไม่พบข้อมูลอะไรบรรจุอยู่ นิโคไลคิดว่าต้องได้มาครบถึงจะปรากฏข้อมูล ให้เขาติดต่อขอซื้อมาให้หมดโดยเร็ว
ที่หน้าบ้าน รถหั่งหลีแล่นมาจอดโดยมีอาเชาลูกน้องเป็นคนขับ หั่งหลีลงมายืนทำสมาธิหลับตาค้นหาชิ้นส่วนนกอินทรี...พยูเข้ามารายงานสุชาติว่ามีคนมาหาท่าทางแปลกๆ สุชาติให้อเล็กซ์ออกไปดู ทันทีที่อเล็กซ์กับพยูเดินมาหน้าบ้าน ก็เหมือนมีพลังบางอย่างทำให้พวกเขาหยุดนิ่ง หั่งหลีลืมตาขึ้นมองอเล็กซ์อย่างดูแคลน ก่อนจะกลับขึ้นรถออกไป
สุชาติเดินตามออกมาเห็นลูกน้องยืนนิ่งก็แปลกใจ “เฮ้ย! นี่พวกแกเป็นอะไรไป”
ทั้งสองสะดุ้งไม่รู้ว่าเป็นอะไร และไม่รู้ว่าคนที่มาเป็นใคร สุชาติหงุดหงิดและสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะที่หั่งหลีนั่งในรถหลับตาเห็นภาพการซื้อขายชิ้นส่วนนกอินทรี การสนทนาของชีพกับผู้พันพิชิตและใบหน้าของจางซูเหลียงในสมาธิ
ด้านจางซูเหลียงยืนอยู่ในห้องทำงานที่คฤหาสน์ เกิดลมพัดแรงผ้าม่านปลิวไหว กระดาษบนโต๊ะปลิวว่อน เขารู้สึกถึงการมาของหั่งหลี
ขณะเดียวกัน ชีพนั่งมองคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้าน หน้าจอเกิดการกะพริบราวมีคลื่นบางอย่างรบกวน
ชีพแปลกใจมองไปรอบห้อง เห็นสิ่งที่แขวนไว้กับเพดานแกว่งไกว เศษกระดาษปลิวลอยอยู่ในห้องจนน่า ประหลาดใจ ทันใดโทรศัพท์มือถือมีสัญญาณข้อความเข้า เขากดเปิดเห็นข้อความว่า...ไปหานายท่านด่วนพลันทุกอย่างสงบนิ่ง ชีพคิดว่าเป็นการเกิดแผ่นดินไหว
เมื่อเดินออกจากบ้านมาที่รถ ชีพพบหมูยืนมองเงียบๆจึงทักทายตามปกติ แต่ท่าทีเขามีพิรุธ ชีพไม่คิดอะไร ฝากดูแลบ้านตามเคย หมูยิ้มรับอย่างมีเลศนัย...
จากนั้นหมูก็เข้ามาในบ้านชีพ แล้วเริ่มรื้อค้นจุดต่างๆ
และในคอมพิวเตอร์ โดยลืมไปว่าบ้านนี้มีกล้องวงจรปิด
ชีพขับรถมาที่คฤหาสน์จางซูเหลียง ฮักเหลี่ยมกับฮุยลิยืนรอเพื่อพาเข้าไปในห้องทำงาน...จางซูเหลียงยืนหันหลังรออยู่ บอกให้ฮักเหลี่ยมกับฮุยลิออกไป
แล้วเขาก็หันหน้ามาหาชีพโดยไม่มีหน้ากากปิดบัง
ชีพรู้สึกตื่นเต้นที่เห็นใบหน้าแท้จริงของนายท่าน
“เราไม่ได้เจอหน้ากันแบบนี้มานานมาก...”
จางซูเหลียงทดสอบปฏิกิริยาของชีพ
“ครับนายท่าน”
“แกได้นกอินทรีมาแล้ว 4 ชิ้น แต่ที่ฉันยังปล่อยนกอินทรีไว้กับแกก็เพราะมันคือเหยื่อล่อของอินทรีชิ้นที่ 5”
“เหยื่อล่อ...”










