ตอนที่ 14
“ไม่ค่ะ จางซูเหลียงที่ฉันเห็น หน้าตาไม่ใช่แบบนี้ นายอาทรดูอ่อนแอขณะที่จางซูเหลียงดูนิ่งสงบ ไม่น่าจะเป็นคนคนเดียวกัน นายอาทรสนิทกับนายเลียง บางทีเขาอาจจะร่วมมือกัน หาทางโค่นพวกสิ่งเอ็งก็ได้นะคะ”
“จริงสิ นายอาทรกับนายเลียงโดนพวกสิ่งเอ็งกวาดล้างในเวลาใกล้เคียงกัน เป็นไปได้ที่นายอาทรจะอยู่ฝั่งนายเลียง”
มรกตให้ลองโทร.ถาม แต่มิสเตอร์เอบอกว่า นายเลียงหนีไปอยู่กับกองกำลังประเทศเพื่อนบ้าน การติดต่อ สื่อสารไม่ใช่เรื่องง่าย หญิงสาวจึงอาสาจะหาข้อมูลจากอาทรแล้วจะส่งข่าว จากนั้นสายลับสาวก็ลงจากรถไปขึ้นรถตัวเองที่จอดแอบอยู่ แล้วขับออกมาจอดหน้าบ้านอาทร
มรกตหิ้วขนมและของว่างมาให้ซิ่วจูเอาไปใส่จาน อาทรออกมาต้อนรับ หญิงสาวทำทีเป็นห่วงไม่อยากให้เขาไปไหนมาไหนคนเดียว เกรงจะไม่ปลอดภัย แม้เขาจะจ้าง รปภ.มาดูแลบ้านก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ขนาดนายเลียงเลี้ยงลูกน้องไว้มากมาย ยังโดนพวกสิ่งเอ็งบุกเข้ามาในบ้านได้ อาทรมีท่าทีหวาดกลัวกลัดกลุ้ม
เวลาผ่านไป มรกตนั่งอ่านหนังสือการสะกดจิตของอาทร แล้วถามเขาเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยหรือ เขารับว่าเชื่อ ถ้าเธอไม่เชื่อลองไปถามพวกจิตแพทย์ดูก็ได้
“แต่หนังสือที่คุณอาทรอ่าน ดูจะมีข้อมูลที่ล้ำหน้าไปกว่าการรักษาของจิตแพทย์อีกนะคะ มีเรื่องการสะกดจิตพวกสัตว์ การสะกดจิตโดยใช้ภาพและคลื่นเสียง การสะกดจิตของพวกระเบิดฆ่าตัวตาย...”
“ผมเป็นคนชอบศึกษาน่ะครับ” อาทรแทรกเพื่อไม่ให้เธอวิเคราะห์มากเกินไป
มรกตถามว่าเขาสะกดจิตเป็นใช่ไหม อยากให้เขาลองสะกดจิตตน อาทรแอบยิ้มย่อง...ต่อมามรกต
นอนเอนอยู่บนโซฟายาว อาทรถือลูกตุ้มเล็กๆสำหรับใช้ในการสะกดจิตมานั่งข้างๆ “เครื่องมือที่ใช้ในการสะกดจิตมีหลายแบบครับ แต่ผมขอเลือกใช้วิธีโบราณที่สุดกับคุณ”
มรกตมองลูกตุ้มที่อาทรแกว่งตรงหน้า สักครู่ก็ตกอยู่ในภวังค์...เห็นตัวเองเดินไปยืนหน้ากระจกยาวเต็มตัว พบว่าตัวเธออยู่ในชุดกี่เพ้าของจิงซู เสียงเพลงประจำดังขึ้น เธอหันมองหาที่มาของเพลง เมื่อไม่มีก็เดินตามเสียงเพลงออกไปนอกห้อง และได้เห็นด้านหลังของผู้ชายเดินหายไปอีกทาง จึงเดินตามและร้องเรียกจนเห็นเขาเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ก็ตามเข้าไป
ภายในห้องไม่มีใคร มีเพียงเครื่องเล่นแผ่นเสียงอยู่มุมห้อง ก็เข้าไปหยุดยืนฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม ไม่ทันไรมีมือหนึ่งมาจับไหล่ มรกตสะดุ้งเฮือก...ตื่นจากภวังค์ เห็นอาทรนั่งมองหน้า
“นี่ฉันฝันไปใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่ฝันครับ คุณอยู่ในภวังค์ของการสะกดจิต”
มรกตแปลกใจกับสิ่งที่เห็นและได้ยิน อาทรให้เล่าให้ฟัง เธอจึงบอกว่าเห็นตัวเองอยู่ในชุดกี่เพ้า และได้ยินเพลง เป็นเพลงที่เคยได้ยินตอนถูกจับตัวไปที่คฤหาสน์ของจางซูเหลียง










