ตอนที่ 1
ดร.คิมแอบเปลี่ยนชุดกับคนบ้าแถวนั้นแล้วเดินสบายใจออกไป...ในขณะที่เลอพงศ์รู้ว่าจะมีการวางระเบิดด้วยการสะกดจิต จึงสนใจอยากมาดู มรกตแอบเดินตามเขา
ด้านคมน์กับแม่หลังจากซื้อของเสร็จจะกลับ เห็นเด็กชายจูงสุนัขผ่านมาก็เข้าไปเล่นด้วย สักพักแม่เด็กพาลูกกับสุนัขเดินไป ทั้งสี่คนเดินไปทิศทางเดียวกันยังสี่แยกหัวถนน
เผอิญรองเท้าจิตตรีขาด คมน์ประคองแม่ให้นั่งพัก ผู้คนเดินข้ามถนน กริชกำลังวิ่งตามหา ดร.คิม อดิศักดิ์กับแคทเดินอยู่ใกล้สี่แยก ทันใดเสียงระเบิดลูกที่หนึ่งดังตูมขึ้น ผู้คนกระเด็นกระดอนรวมทั้งคมน์กับแม่ กริช อดิศักดิ์ และแคท ส่วนมรกตกับเลอพงศ์อยู่ห่างแค่เซๆ
แรงระเบิดทำให้ทุกคนหูดับไปชั่วขณะ ภาพความวุ่นวาย ความสยดสยอง คนเจ็บดิ้นทุรนทุรายเกิดขึ้น ตามด้วยเสียงร้องระงม
เลอพงศ์มองเหตุการณ์นั้นด้วยความรู้สึกเฉยชาแล้วกลับขึ้นรถขับออกไป มรกตแปลกใจในพฤติกรรมของเขา
รจิตวิ่งเข้ามาเห็นภาพผู้คนตายเกลื่อน เธอน้ำตาไหลพราก แต่ด้วยสัญชาตญาณนักข่าวจึงหยิบมือถือมาบันทึกภาพไว้
อุกฤษณ์ กำพล และเกรียงเข้ามาช่วยคนเจ็บ กริชพยุงตัวลุกขึ้นมายืนตะลึงกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะโทร.รายงานหน่วยเหนือ มรกตวิ่งตามหากริชด้วยความเป็นห่วง
ผ่านไปชั่วครู่ผู้คนยังไม่หายตกใจก็เกิดระเบิดลูกที่สอง รถแท็กซี่ของเหยื่อลอยขึ้นฟ้าแล้วหล่นลงมาทับสองแม่ลูกกับสุนัขอย่างน่าสังเวชใจ คมน์รู้สึกตัวขึ้นมามองหาแม่ เห็นแม่นอนนิ่งเลือดท่วมตัวก็ใจหายรีบมองหาความช่วยเหลือ
ooooooo
ท่ามกลางความวุ่นวาย บนจอโฆษณาที่ติดตั้งบริเวณนั้นปรากฏภาพจางซูเหลียงในเงามืด เขาหัวเราะเสียงน่าสะพรึงกลัวตามด้วยคำขู่ว่านี่เป็นการเตือน ต่อไปกรุงเทพฯจะกลายเป็นทะเลเพลิง...
คมน์เงยหน้ามองที่จอด้วยความรู้สึกโกรธแค้น ก่อนจะตัดสินใจไปพบผู้การพิชิต รับทำงานที่ท่านมอบหมาย แต่อดถามไม่ได้ว่าพ่อกับแม่ของตนจะรับรู้เรื่องตนว่าอย่างไร
“ร้อยตรีคมน์ สรคุปต์ ถูกระเบิดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ร่างกายถูกไฟไหม้จนจำสภาพไม่ได้...จากนี้ไปคุณต้องอยู่ในค่ายนี้ นั่งดูวีดิโอ ศึกษาทุกแง่มุมเกี่ยวกับชีพ ชูชัย”
“ได้ครับ...จากวันนี้ คมน์ สรคุปต์ จะค่อยๆจางหายไปจากตัวผม”
คมน์ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว แล้วหลังจากนั้นคมน์ก็พยายามศึกษาท่าทางเลียนแบบชีพตามวีดิโอ ไม่ว่าท่านั่งกิน ท่าจับปืน และวิธีบรรจุกระสุน รวมทั้งจดจำข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับชีพเป็นเวลาหลายเดือน
พอได้เวลาที่เหมาะสม ผู้การพิชิตก็มาพบชีพ ชูชัย ในห้องที่จัดโต๊ะอาหารไว้ ชีพเยาะหยันว่าวันนี้มาคนเดียวไม่มีลูกน้องมาคุม ผู้การกล่าวว่าเป็นเรื่องระหว่างเขากับตนและคนอีกคน ชีพแปลกใจ
ผู้การหันไปเรียกให้เข้ามาได้ คมน์เดินเข้ามาด้วยการแต่งตัวเหมือนชีพทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าท่าทีและน้ำเสียง ชีพยืนตะลึง ผู้การพิชิตเองยังทึ่ง ชีพเริ่มเดาทางออก
“แกถูกส่งมาให้เป็นฉัน”
“แกถูกส่งมาให้เป็นฉัน ชอบไม่ใช่เหรอ ยั่วชาวบ้านน่ะ” คมน์กวนกลับด้วยท่าทีเดียวกัน
ผู้การพิชิตพยักหน้าอย่างพอใจ ทั้งคมน์และชีพจับช้อนส้อมไว้ในมือด้วยท่าทีกวนไม่แพ้กัน และไวทางความคิดเหมือนกัน ทั้งสองพุ่งเข้าต่อสู้กัน ผู้การยืนมองการต่อสู้จนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร










