ตอนที่ 1
บริเวณป่าชายแดน ร้อยตรีคมน์ สรคุปต์ นายทหารฝ่ายงานจารกรรมกระทรวงกลาโหม กำลังหนีการจับกุมจากผู้ก่อการร้ายสิ่งเอ็ง แม้มือข้างหนึ่งของเขามีกุญแจมือห้อยคาอยู่ อีกมือถือปืนซึ่งลำขัดค้างกระสุนหมด ก็ยังคงวิ่งอย่างไม่หยุดยั้งผ่านป่าโปร่งด้วยร่างกายที่เหนื่อยหอบ
คมน์มองนาฬิกาข้อมือซึ่งเป็นจีพีเอสการ์มินขณะที่เขาหยุดพัก ลูกธนูปลิวมาปักต้นไม้เฉียดเขาไปนิดเดียว คมน์หันไปมองเห็นทหารกะเหรี่ยงกำลังเล็งหน้าไม้มา คราวนี้ลูกธนูปักเข้าที่ต้นแขนอย่างจัง คมน์ตัดสินใจวิ่งตามสัญญาณจีพีเอสต่อไป เสียงทหารกะเหรี่ยงตะโกนลั่น
“มาเจา ยาเจ๋!! มาเจอ ยาเจ๋!!” ความหมายคือ... ช่วยด้วยโว้ย!
สิ้นเสียงก็มีมอเตอร์ไซค์วิบากสามคันบิดทะยานมาจากราวป่าไล่ยิง คมน์วิ่งไม่คิดชีวิตไปตามจีพีเอส... เสียงมอเตอร์ไซค์ยังไล่ล่า คมน์หยุดวิ่ง กัดฟันดันก้านธนูให้ดอกมันทะลุลำแขนออกมาอีกด้านอย่างเจ็บปวด แล้วหักมันกำไว้ในมือก่อนจะปีนขึ้นไปบนคบไม้ โดยดึงเถาวัลย์ขึงดักมอเตอร์ไซค์ที่ไล่ล่า แล้วใช้ลูกธนูในมือสังหาร
ooooooo
ขณะเดียวกันนั้นรถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งมาตามทาง สองข้างทางเป็นป่าทึบ บนรถมีปกรณ์นั่งกอดกระเป๋ายิ้มกริ่ม ที่คอเขาห้อยสร้อยเล็บครุฑเป็นจี้รูปนกเหวี่ยงไปมาตามแรงกระเทือนของรถ... ตรงข้ามเป็น ดร.คิม นั่งสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก และมีปิงส่งกับการ์ดอีกสี่คนนั่งร่วมมาด้วย
“เราทุกคนเชื่อว่าคุณจะต้องพัฒนามันจนสำเร็จ” ปกรณ์กล่าวอย่างพึงพอใจ
“แต่ตอนนี้มัน...ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น ฉันว่า...เรากำลังหลงทาง” ดร.คิมไม่เห็นด้วย
“คิดมากน่า มันเป็นขั้นตอน ก่อนจะเป็นเซรุ่มมันก็เคยเป็นพิษงูมาก่อนไม่ใช่เหรอ”
“แต่เราไม่ได้คิดค้นเซรุ่ม แล้วในกระเป๋านั่นมันก็ยิ่งกว่าพิษงู ถ้ามันแพร่กระจายออกมา”
“ท่านถึงให้ผมรับคุณนี่ไง ไปวิจัยต่อในที่ที่ปลอดภัย ท่านเป็นห่วงอยู่”
“นายท่านไม่ไว้ใจฉันมากกว่า” ดร.คิมรู้ทัน
“ไม่มีใครหยุดยั้งโครงการนี้ได้หรอก คุณต้องพัฒนามันจนกว่าจะไปถึงจุดที่คุยกับนายท่านเอาไว้...จะไม่มีใครหน้าไหนหยุดเราได้ทั้งสิ้น” ปกรณ์ยิ้มเหยียด
“แกเพิ่งมาถึง แกไม่รู้หรอกว่าทหารตามกลิ่นเรามาแล้ว”
ปกรณ์ยักไหล่ด้วยท่าทางกวนๆบอกไม่ใช่หน้าที่ของตน ว่าแล้วก็เปิดกระเป๋าบนตัก ดร.คิมร้องห้ามเสียงลั่น
พลันรถกระเทือน กระเป๋าไถลจากตักปกรณ์ตกลงไปที่พื้นรถ ฝากระเป๋าเปิดออกทำให้หลอดทดลองหลายหลอดเทกระจายออกมา ดร.คิมตกใจอย่างมากเตือนว่าอย่าให้แตก พวกการ์ดช่วยกันเก็บใส่กระเป๋า การ์ดคนหนึ่งจับหลอดที่ฝาเผยอ เขาดันฝาปิดลงโดยไม่รู้ว่าที่นิ้วตัวเองมีรอยแผล พอเก็บหลอดทดลองหมด เขายกมือข้างที่เป็นแผลขึ้นแคะจมูก
ด้านคมน์ยึดมอเตอร์ไซค์วิบากของทหารกะเหรี่ยงขี่ไปตามสัญญาณจีพีเอสต่อ แต่ไม่ทันไรก็โดนมอเตอร์ไซค์อีกคันพุ่งเข้าชน เกิดการต่อสู้กัน โดยคมน์ใช้กุญแจมือที่ห้อยข้อมืออยู่เป็นอาวุธสู้กับมีดสปาร์ตาของอีกฝ่ายด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่า เขาก็ล้มทหารกะเหรี่ยงลงได้
ooooooo










