ตอนที่ 12
“แต่คุณสัญญาแล้วนะคะว่าจะไม่นำเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป” เมย้ำ
“แน่นอนครับไม่ต้องห่วง ผมจะไปเอาโน้ตเพลงท่วมธรณีมาคืนให้พวกคุณเดี๋ยวนี้” ยุทธพูดขึงขังมากแล้วลุกออกไปจากห้อง
เมกับยชญ์มองหน้ายิ้มกันอย่างสบายใจ ไม่ทันหุบยิ้มก็ตกใจผงะเมื่อยุทธออกไปแล้วปิดประตูล็อกจากด้านนอก ยชญ์รีบลุกไปกระชากประตูแต่เปิดไม่ออก
“เราถูกมันหลอกแล้ว” ยชญ์โมโหมาก
“ไอ้เลวเอ๊ย...ชั่วจริงๆ สงสัยอยู่แล้วเชียวว่าทำไมพูดง่ายนัก” เมด่าแล้วเข้าไปเขย่าประตูอย่างแรง ตะโกน “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะนายยุทธ เปิดประตู เปิดสิ”
ยชญ์ดึงมือเมออก บอกว่าไม่มีประโยชน์หรอก เจ็บตัวเปล่าๆ
“แล้วจะทำยังไงดี” เมทั้งโกรธทั้งแค้นทั้งว้าวุ่นใจ ยชญ์นิ่งเยือกเย็น แต่ครุ่นคิด
ooooooo
ยุทธปิดประตูขังยชญ์กับเมแล้วก็ออกไป ทีมงานพากันวิ่งเข้ามาถามอย่างไม่สบายใจว่า
“ต้องยกเลิกการถ่ายทำวันนี้ใช่ไหมพี่”
“ไม่...เราจะถ่ายทำต่อ งานนี้รายการเราต้องดังแน่ๆ เพราะได้คำยืนยันเรื่องอาถรรพณ์ของเพลงท่วมธรณีจากปากของนายยชญ์เอง” ยุทธหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาบอกอย่างลิงโลดว่า “ฉันอัดคลิปเสียงทั้งหมดไว้แล้ว ให้ทุกคนรีบขึ้นรถแล้วออกเดินทางกันได้เลย”
“พี่ไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ”
“ยิ่งฟ้อง รายการเราก็ยิ่งดัง น้องอาสาสมัครที่เล่นดนตรีไทยได้มากันหรือยัง” พอทีมงานบอกว่ามาแล้วยุทธบอก “โอเค งั้นไปกันได้เลย” ยุทธเดินนำไปขึ้นรถ ทีมงานรีบตาม แล้วรถก็พุ่งออกไปอย่างเร็ว
ยชญ์กับเมยังถูกขังอยู่ในห้องทำงานของยุทธ ยชญ์เดินมานั่งที่โซฟาด้วยท่าทีปกติ เมมองอย่างไม่เข้าใจถามว่า “นี่นายจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ?”
“นั่งลงเถอะ”
“นายจะบ้าหรือไง! จะปล่อยให้พวกนั้นถ่ายทำรายการไม่ได้นะ นายก็เห็นอยู่แล้วว่าคืนนี้เป็นคืนวันเพ็ญ ต้องเกิดเรื่องแน่”
“พวกนั้นไม่ได้ถ่ายทำรายการหรอก และก็จะไม่มีใครตายทั้งนั้น”
“ทำไมล่ะ” เมยิ่งฟังก็ยิ่งงง
ทันใดนั้นเสียงไขกุญแจประตูห้องดังขึ้นแล้วประตูก็เปิดออกอย่างเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามองยชญ์
“คุณยชญ์ใช่ไหมครับ”
“ครับ”
“นี่มันอะไรกัน” เมมองหน้ายชญ์เห็นเขายิ้มอย่างมีเลศนัย
เมื่อออกไปที่หน้าบ้าน ยชญ์กับเมเห็นตำรวจหลายคนคุมตัวยุทธกับทีมงานขึ้นรถออกไป
ยชญ์มองโน้ตเพลงท่วมธรณีในมือ ถอนใจโล่งอกแล้วชวนเมกลับ
เมมองหน้าเขานิ่งอย่างเอาเรื่องถามเสียงขุ่นว่า “จะบอกฉันได้หรือยัง”
“อะไรเหรอ” ยชญ์แกล้งทำไก๋แล้วรีบหัวเราะเมื่อเมทำท่าจะเข้ามาเอาเรื่อง “โอเค...โอเคบอกแล้ว จำตอนที่เธอขอแวะเขาห้องน้ำตรงปั๊มน้ำมันก่อนถึงที่นี่ได้ไหม”
“ทำไม”
ยชญ์เล่าว่า ตอนที่เธอไปเข้าห้องน้ำ ตนได้โทรศัพท์คุยกับผู้กำกับพัลลภแล้ว
เมฟังแล้วยิ้มออกชมว่า “นายนี่รอบคอบดีนะ”
ยชญ์ยิ้มขอบคุณคำชม บอกว่าแค่คำชมอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะตนนี้ตนหิวข้าวมากเลย
“โอเค มื้อนี้ฉันจะเลี้ยงนายเอง”
ยชญ์มองอย่างไม่แน่ใจว่าจะได้กินบะหมี่สำเร็จรูปอีกหรือเปล่า เมรีบบอกว่า
“เลี้ยงจริงๆ นายอยากกินร้านไหนแวะได้เลย”
“เยี่ยม”
“แต่งบไม่เกินหนึ่งร้อยบาทขาดตัวนะ”
ยชญ์ชะงัก เมหัวเราะร่วนเดินไปที่รถ ได้ยินยชญ์พูดเซ็งๆตามหลังว่า
“นึกอยู่แล้ว...คบเด็กสร้างบ้าน”
ooooooo
แวะกินก๋วยเตี๋ยวกันแล้ว พอขึ้นรถขับออกมา ยชญ์พูดอารมณ์ดีว่า ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ไม่เลวเลย ถ้าคราวหน้าผ่านมาอีก ต้องแวะกินแน่ๆ










