ตอนที่ 10
“ถ้างั้นก็มองหาถูกคน” พูดขาดคำเดชา
กดรีโมตในมือ ทันใดระเบิดที่ซ่อนอยู่ในรถก็ดังตูม ไฟลูกใหญ่พวยพุ่งแดงฉาน แจ๊สมินเห็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา ตกใจมากร้องเรียกพรานดังลั่นไปหมด
แต่เธอหมดโอกาสเข้าไป เพราะเดชากับสายลับต่างชาติสามคนก้าวมายืนเรียงหน้ากระดาน ชูปืนในมือพร้อมยิง
“ฆ่ามัน!”
สิ้นเสียงของเดชา กระสุนปืนจากสายลับระดมไปที่แจ๊สมิน เธอรีบขึ้นรถเหยียบคันเร่งขับหนีไปจากตรงนั้น หลังจากเสียงปืนสงบลง เดชาก็โทร.รายงานเฮนรี่ทันที
“คุณเฮนรี่ ไอ้พราน จอมภูต มันโดนระเบิดเละไปแล้วครับ”
“จริงเหรอวะ คนอย่างไอ้พราน จอมภูต บทมันจะตาย มันก็ตายง่ายๆแบบนี้เองเหรอวะ”
“ใช่ครับ มันเละเป็นจุณไปต่อหน้าต่อตาผมเลย หวังว่าเมื่อทุกอย่างสำเร็จตามแผนที่เราวางไว้ คุณเฮนรี่คงไม่ลืมตำแหน่งมือขวาหัวหน้าองค์กรพรายดำที่สัญญากันไว้นะครับ”
“ไม่ลืมแน่ ตอนนี้ฉันแค่รอให้ถึงวันนั้นเท่านั้นแหละ”
“ครับนาย” เดชาวางสายด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
เมื่อสายลับสามคนถูกส่งตัวมาที่บ้านพักบนเขาพร้อมฟอกซ์ ทั้งหมดจับคู่ฝึกต่อสู้กันอย่างเอาจริงเอาจัง สนธยาเห็นแล้วรู้สึกไม่เจริญหูเจริญตา แต่เฮนรี่เดินเข้ามายืนข้างๆ บอกว่า
“ไม่ต้องห่วง พวกนี้ร่างกายฟิตเต็มร้อยกันทุกคน”
“พวกเขาอาจจะพร้อม แต่ฉันยังไม่พร้อม บอกแล้วไงว่าสิ่งที่เราทำกันอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แค่สร้างมนุษย์ล่องหนคนเดียวก็ยากมากแล้ว แต่นี่ต้องทำทีเดียวถึงสี่คน มันเป็นไปไม่ได้”
“แต่ผมเชื่อว่าคุณทำได้ แล้วถ้าเผื่อคุณลืมไปแล้ว ผมอยากจะขอเตือนคุณอีกครั้งว่าชีวิตสารวัตรเชิดวุธขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ ถ้าไม่อยากให้เขาเป็นอะไร อย่าทำให้เราผิดหวัง”
สนธยาเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่เฮนรี่ยิ้มเยาะอย่างรู้สึกเป็นต่อ
ooooooo
แจ๊สมินกลับมานั่งเศร้าในห้องพักที่โรงแรม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกสูญเสียทั้งคนรักและผู้ร่วมอุดมการณ์ที่จะกวาดล้างพวกพรายดำ
พลันได้ยินเสียงเคาะประตู แจ๊สมินเงยหน้าขึ้นอย่างไม่ไว้ใจ รีบคว้าปืนเดินช้าๆไปมองผ่านช่องตาแมว แล้วต้องเบิกตากว้างด้วยความดีใจ ปลดล็อกเปิดประตูอย่างเร็วและรับร่างศรศิลป์ไว้ในอ้อมกอด
“ดีจังได้กอดคุณแบบนี้”
“คนบ้า ฉันนึกว่าต้องเสียคุณไปแล้วซะอีก”
“คนอย่างผมไม่ตายง่ายๆหรอก”
“แต่ฉันเห็นคุณโดนระเบิดกับตาตัวเองเลย”
“ใช่ ก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้นแหละ แต่พอดีผมเก่ง ผสมกับโชคนิดหน่อยน่ะ”
ศรศิลป์หรือพรานเล่าให้เธอฟังว่าเขากระโดดหนีจากสะพานดำดิ่งลงไปในบ่อน้ำข้างทางทันเวลา










